เมื่อสัก 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “นิด้าโพล” ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือที่เรียกกันย่อๆว่า “นิด้า” ได้เผยแพร่ผลการสำรวจ “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” ในคำถามที่ว่าประชาชน(ที่เป็นตัวอย่างในการสำรวจ) จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี
ก็ปรากฏว่าจากประชาชนตัวอย่าง 2,000 ตัวอย่าง อายุ 18 ปีขึ้นไปที่ทำการสำรวจตอบว่า จะสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” จากพรรคเพื่อไทย ถึงร้อยละ 38.20 สูงสุดเป็นอันดับ 1
ในขณะที่อันดับ 2 รองลงมาได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล ร้อยละ 15.75 อันดับ 3 “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 15.65 แพ้อันดับ 2 แค่เส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น
หลังจากนั้นก็มีชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายกรณ์ จาติกวณิช ฯลฯ เรียงไปตามลำดับจากร้อยละ 5.10 ของคุณหญิงสุดารัตน์ไปจนถึงร้อยละ 1.40 ของนายกรณ์
ก่อนอื่นต้องบอกว่าในการทำโพลของนิด้านั้นเป็นการทำตามหลักวิชาโดยแท้จริง ไม่ได้ทำตามอิทธิพลของใครที่ไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการขู่เข็ญบังคับหรือใช้เงินซื้อ
จะผิดจะถูกอย่างไรจึงขึ้นอยู่กับการเลือกกลุ่มตัวอย่างที่ว่า 2,000 คน เพื่อให้เป็นตัวแทนของสังคมไทย ทุกหมู่เหล่าทุกอาชีพ และระดับการศึกษานั้นถูกต้องแล้วหรือไม่?
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เลือกได้ถูกต้อง ทำให้ผลโพลของนิด้าออกมาใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าโพลอื่นๆ ในความเห็นผม
ผมจึงตั้งข้อสมมติฐานเอาไว้ก่อนว่า ถ้ามีการเลือกตั้ง ณ วันที่ 2-8 มีนาคม ที่ผ่านมา ตามที่นิด้าโพลไปสอบถามละก็–บุคคลที่ประชาชนอยากได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี น่าจะออกมาตามนั้น
ครั้นเมื่อสมมติว่าเป็นตามนั้นแล้ว ผมก็ลองมานั่งจินตนาการต่อว่าอะไรจะเกิดขึ้นแก่สังคมไทยเราบ้าง?
เนื่องจากจินตนาการของผมไม่ค่อยเป็นหลักวิชาการนัก อาศัยว่าแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน นั่งเขียนหนังสืออยู่ตรงนี้มานานมาก –ได้เห็นและผ่านเหตุการณ์มามาก จึงอยากจะออกความเห็นกับเขาบ้าง –ถือเป็น “สารตั้งต้น” เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ต่อก็แล้วกัน
ผมคาดว่าถ้าคุณ “อุ๊งอิ๊ง” ได้เป็นนายกฯ ขึ้นมาจริง “สังคมไทย” ก็คงจะวุ่นวายต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด
เพราะคุณ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นทายาท “สายตรง” ของคุณ ทักษิณ ชินวัตร ที่เราต้องยอมรับว่าผลงานที่ผ่านมามีทั้งบวกทั้งลบ
มี “คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ” ทันทีที่คุณอุ๊งอิ๊งได้เป็นนายกฯ จริงๆ บรรดาผืนเสื่อ (คนชัง) ก็คงจะต้องหาเหตุลุกขึ้นมาประท้วงตั้งแต่เบาไปถึงหนักอีกครั้งจนได้
ความจริงผมยังมีเหตุผลอีกหลายข้อ โดยเฉพาะเรื่องอายุน้อยเรื่องขาดประสบการณ์ ไม่เคยทำงานใหญ่ แต่ด้วยเนื้อที่จำกัดและต้องเขียน คนอื่นๆ ด้วย จึงขอยกประเด็นเป็นตัวอย่างเพียงแค่ประเด็นเดียวก่อน ซึ่งแค่ประเด็นเดียวว่าเป็นลูกของคุณทักษิณ ผมก็ว่าเหนื่อยแล้วครับประเทศไทย
มองต่อไปตามลำดับ สมมติว่าหวยไปออกที่นายพิธาที่ได้คะแนนน้อยอันดับ 2 ผมก็คาดว่าจะวุ่นวายพอๆ กัน
เพราะนายพิธากับคณะพรรคของเขาเป็นเสมือนตัวแทนของคนกลุ่มหนึ่งที่มีความคิดเห็นทางการเมืองและวัฒนธรรมประเพณีต่างไปจากคนไทย ส่วนใหญ่แบบสุดขั้ว ซึ่งไม่มีทางประนีประนอมได้
ทันทีที่นายพิธาได้เป็นนายกฯผมก็คาดว่าจะเกิดปัญหาการเดินขบวนตามจุดต่างๆ ในลักษณะเดียวกับ “ม็อบ 3 นิ้ว” แต่มาจากคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ม็อบ 3 นิ้วเคยเรียกว่า “สลิ่ม” นั่นแหละครับ
การบริหารและการพัฒนาชาติบ้านเมืองที่ควรจะเดินหน้าไปเรื่อยๆ ก็จะเต็มไปด้วยปัญหาอุปสรรค
เสียดาย…เนื้อที่หมดเสียแล้ว มาถึง “คนที่ 3” ที่ได้คะแนนน้อยกว่า “ที่ 2” นิดหน่อย แต่แพ้ “ที่ 1” ค่อนข้างมากอันได้แก่ “บิ๊กตู่” หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พอดีเลย
จะต้องวิเคราะห์ยาวเสียด้วย และยังมีคนอื่นๆ ต้องวิเคราะห์อีกหลายคน…เอาเป็นว่า…ติดตามอ่านต่อตอนจบวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันครับ.
“ซูม”