ไทยฮิต “รถไฟ” ลาว ลาวฮิต “รถไฟฟ้า” ไทย

ผมขออนุญาตท่านผู้อ่านรายงานเรื่อง “หลวงพระบาง” อีกสักวันนะครับ ก่อนที่จะกลับสู่มิติเดิม เขียนถึงเรื่องราวในประเทศไทยของเราต่อไป

ไปเที่ยวนี้ผมพบว่าหลวงพระบางกลับมาคึกคักไม่แพ้เมืองท่องเที่ยวใดๆ ทั้งสิ้น มองไปทางไหนจะเห็นแต่นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด

มัคคุเทศก์ลาวประจำรถผมเล่าว่า หลวงพระบางกลับมาคึกคักหลังเปิดประเทศเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากเงียบเหงาเพราะเจอปัญหาโควิดระบาดจนลาวต้องปิดประเทศไปเป็นเวลานาน

กลุ่มที่มาบุกเบิกกลุ่มแรกๆ ก็คือ นักท่องเที่ยวจากยุโรป ซึ่งมาพร้อมกับเป้สะพายหลังที่เรียกว่า “แบ็กแพ็ก” ตามมาด้วยนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวจีนตามลำดับ

เหตุที่นักท่องเที่ยวจีนยังเป็นอันดับ 3 อยู่ช่วงนี้ เพราะจีนเปิดประเทศหลังเพื่อน แต่ก็เชื่อได้ว่า อีกพักเดียว คงจะแซงขึ้นเป็นอันดับ 1 เหมือนเช่นเคย เมื่อจีนเปิดประเทศเต็มที่

ดูท่าทางไกด์ลาวจะไม่ค่อยชอบทัวร์จีน เขาบอกว่า เขาเคยอ่านข่าว “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่เมืองไทย และก็พบว่าที่หลวงพระบางของเขาก็ศูนย์เหรียญด้วยเช่นกันสำหรับทัวร์จีน

เพราะต้อนนักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าในร้านค้าของพวกเขาเอง กินอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านของคนจีนเป็นเจ้าของเกือบทั้งหมด

เขาจึงชอบทัวร์ฝรั่งกับทัวร์ไทย ซึ่งจะกระจายรายได้ไปสู่คนลาว ส่วนใหญ่ของหลวงพระบางมากกว่านักท่องเที่ยวจีน

ถามว่าทัวร์ฝรั่งมาดูอะไร? ได้รับคำตอบว่า มาดูศิลปวัฒนธรรมของเมืองมรดกโลกและมาใช้ชีวิตเงียบๆ อย่างสงบ รวมทั้งอาหารอร่อย ราคาถูกในทัศนะของฝรั่งในเมืองนี้

แล้วทัวร์ไทยล่ะ? ได้รับคำตอบว่า ก็มาไหว้พระมาดูของเก่าๆ เป็นหลัก–แต่ในช่วงหลังๆ อยากมาหลวงพระบาง เพราะอยากนั่งรถไฟความเร็วสูงของลาว

คนไทยจะไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่เวียงจันทน์โดยนั่งรถยนต์ไปข้ามที่หนองคาย หรือไม่ก็ขึ้นเครื่องบินไปลงเวียงจันทน์แล้วต่อรถไฟความเร็วสูงไปหลวงพระบางอีกทอดหนึ่ง

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการหนึ่งในโครงการใหญ่ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ “Belt and Road Initiative” ของจีนที่วางแผนจะเชื่อมโยงเอเชีย อเมริกาและยุโรป รวมแล้วกว่า 70 ประเทศ

ขณะเดียวกันก็เป็นความประสงค์ของลาวที่ต้องการจะเชื่อมกับคุนหมิงของจีนเพื่อส่งสินค้าไปขายที่นั่นเป็นเบื้องต้น

จึงร่วมกันก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เรียกว่า รถไฟลาว– จีน ขึ้น ใช้งบก่อสร้างไปเกือบ 2 แสนล้านบาท เต็มโครงการจะมี 32 สถานี แต่เปิดใช้ 6 สถานีในเขตลาวก่อน ที่เรียกว่าเส้นทาง “นครหลวงเวียง จันทน์–บ่อเต็น”

เปิดเดินทางเป็นปฐมฤกษ์เมื่อเดือนธันวาคม 2564 กลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสุดฮิตในปี 2565 มาจนถึงบัดนี้

จากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบางใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาทีเท่านั้น

สรุปก็คือช่วงนี้คนไทยจำนวนมากกำลังฮิตรถไฟความเร็วสูง (160 กม.ต่อชั่วโมง) ของลาวมาก คาดว่ายังจะแห่กันไปขึ้นอีกมากตลอดปีนี้ และอีกหลายๆ ปีข้างหน้า ระหว่างรอลุ้นของไทยเราเอง ซึ่งคงต้องใช้เวลา อีกพักใหญ่

ก็พอดีผมเพิ่งเปิดยูทูบดูรายการของ “สาวลาวใต้” ที่โด่งดังมากมี FC เต็มไปหมดทั้งฝั่งลาวฝั่งไทย พบว่าน้อง พุดทะสอน เพิ่งมาเที่ยว กรุงเทพฯ ช่วงผมอยู่หลวงพระบางนี่เอง เธอพาญาติๆมาหลายคน เที่ยว หลายวันไปโน่นไปนี่จนปรุโปร่ง

วันกลับเธอถามญาติเธอว่าประทับใจอะไรในกรุงเทพฯ มากที่สุด…ญาติเกือบทั้งหมดตอบว่าชอบ BTS กับ MRT รถไฟฟ้าลอยฟ้าและใต้ดินเมืองไทยวิ่งเร็วแต้ๆ อยากให้เวียงจันทน์มีบ้างรถจะได้ไม่ติด

เป็นอันว่าชอบคนละอย่าง…คนไทยชอบรถไฟความเร็วสูง ของลาว ส่วนคนลาวชอบรถไฟฟ้าทั้ง BTS+MRT ของไทย ถือว่า “เจ๊า” กันไปก็แล้วกันนะครับ.

“ซูม”