ท่องแดน “พญานาค” มอบรางวัล “นาคาธิบดี”

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธุ์ที่ผ่านมานี้เอง หัวหน้าทีมซอกแซกได้รับเชิญจาก “สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980” ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และภาคเอกชนจำนวนหนึ่ง

ที่เคยไปอุปสมบทที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้ง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา หลายปีก่อนโน้น

หลังแจ้งจากสึกหาลาเพศแล้วคณะบุคคลกลุ่มนี้ ก็ได้ก่อตั้ง “สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980” โดยมีจุดหมายที่จะร่วมแรงร่วมใจทำนุบำรุงและเผยแผ่พระพุทธศาสนา รวมทั้งนำหลักธรรมมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อความสงบสุขและความเจริญ ทั้งแก่มวลหมู่สมาชิกสถาบันเองและแก่สังคมไทยโดยทั่วไปเป็นการส่วนรวม

ได้รับการสนับสนุนทางด้านงบประมาณส่วนหนึ่งจาก มูลนิธิวีระภุชงค์ ซึ่งมีคุณพ่อ วินัย วีระภุชงค์ ประธานบริษัท ไทยนครพัฒนา มาเป็นประธานของมูลนิธิฯ ดังกล่าว

ผลงานของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง ได้แก่ โครงการ “ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน” ออกเดินทางเยือนประเทศที่นับถือ พุทธศาสนา ในย่านสุวรรณภูมิ อันได้แก่ ไทย, ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และ พม่า เพื่อใช้หลักธรรมของพระพุทธเจ้าในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเหล่านี้ให้แน่นแฟ้น และรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวในฐานะเป็นศิษย์ตถาคตองค์เดียวกัน

ล่าสุดก็ดำริให้มีการมอบรางวัล “โพธิคยานาคาธิบดี” แก่บุคคลและองค์กรต่างๆ ที่อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา อันจะเป็นการจูงใจให้มีการประพฤติปฏิบัติและอุทิศตนเพื่อพระศาสนามากยิ่งขึ้นไปอีกในสังคมไทย

โดยรางวัลจะเป็นแท่งรูป “พญานาค” ที่สถาบันเห็นว่าเป็นสัตว์ที่อยู่เคียงข้างพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น มีเรื่องราวทั้งในชาดกและในตำนานต่างๆ มากมายเกี่ยวกับความเลื่อมใสในพุทธศาสนาของเหล่าพญานาคที่แสดงความปรารถนาจะขอบวชหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถบวชได้เพราะมิใช่มนุษย์

พญานาคจึงอุทิศตนรับใช้พระพุทธองค์และอยู่เคียงข้างกับพุทธศาสนามาโดยตลอดดังจะเห็นได้จากทุกวัดวาอารามทั่วประเทศ จะต้องมีพญานาคคอยปกปักรักษาคุ้มกันตามพระอุโบสถ หรือศาลาการเปรียญ

ดังนั้นเมื่อมีการประกาศรางวัลบุคคลและองค์กรที่อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา รวมทั้งสิ้น 11 รางวัลในปีนี้ คณะกรรมการ สถาบันโพธิคยาฯ จึงได้จัด รางวัลเป็นรูปพญานาคและเชิญผู้รับรางวัลทั้งหลายไปรับรางวัล ณ จังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ในแผ่นดินพญานาคแห่งภาคอีสานคือ จังหวัด มุกดาหาร นั่นเอง

สำหรับสถานที่ในการจัดพิธีมอบรางวัล โพธิคยานาคาธิบดี นั้น ก็คือบริเวณสวนสาธารณะ แก่งกะเบา เขตบ้านนาน้อย อ.หว้านใหญ่ จังหวัด มุกดาหาร ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงตรงข้ามกับเมืองไชยบุรีของ สปป.ลาว

นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามมองเห็นทัศนียภาพของฝั่งโขงได้อย่างถนัดชัดเจน และมีลมพัดโชยอยู่ตลอดเวลาแล้ว ณ สวนสาธารณะแห่งนี้ยังได้มีการจัดสร้าง องค์พญานาคศรีภุชงค์มุกดานาคราช ที่เป็นนาคหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มีความสูง 11.11 เมตร ยาว 51.40 เมตร

สร้างขึ้นตามความเชื่อแต่โบราณกาลของพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งโขงว่า บริเวณนี้มีพญานาค ศรีภุชงค์สถิตอยู่

ตามตำนานของจังหวัดมุกดาหารเชื่อว่ามีพญานาคอยู่ 3 องค์ เรียกว่าพญานาค 3 พิภพ–องค์แรก ได้แก่ พญานาคดิน หรือ พระศรีภุชงค์มุกดา นาคราช ณ แก่งกะเบาแห่งนี้ องค์ 2 ได้แก่ พ่อปู่ พญาอนันตนาคราช (พญานาคน้ำ) สถิตอยู่ ณ บริเวณเสาสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2และองค์ ที่ 3 ได้แก่ พญาศรีมุกดามหามุนี นีลปาลนาคราช (พญานาคฟ้า) ที่วัดรอยพระบาทภูมโนรมย์ ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นแลนด์มาร์กในปัจจุบัน

สำหรับพิธีมอบรางวัล โพธิคยานาคาธิบดี ปีแรกนี้คณะทำงานที่เดินทางมาสำรวจล่วงหน้ามีมติว่าควรจัดที่บริเวณหน้า องค์พญานาค องค์แรก เพราะมีบริเวณพื้นที่กว้างขวาง สามารถจัดงานพิธีได้อย่างสะดวกกว่าองค์อื่นๆ

ในปีแรกนี้คณะกรรมการได้พิจารณาถวายรางวัลแก่ภิกษุ 2 รูป ได้แก่ พระธรรมราชานุวัตร เจ้าอาวาส วัดโมลีโลกยารามฯ บางกอกใหญ่ และ พระเทพวัชราจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัด พระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ

ส่วนฆราวาสนั้นก็ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ คุณ ขรรค์ชัย บุนปาน, คุณ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย และ อาจารย์ วนิดา พึ่งสุนทร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม ฯลฯ เป็นต้น

สำหรับผู้เข้าร่วมพิธีและเป็นสักขีพยานทางฝ่ายฆราวาสนั้นได้รับเกียรติจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร วรญาณ บุญณราช ในฐานะเจ้าบ้านเป็นผู้กล่าวต้อนรับ

ในส่วนของฝ่ายสงฆ์นั้นได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ วีรยุทฺโธ) เจ้าอาวาส วัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย เนปาล ซึ่งเดินทาง จากอินเดียมาร่วมเป็นสักขีพยาน และร่วมสวดชยันโตให้แก่ผู้ได้รับรางวัล พร้อมด้วยพระภิกษุชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูปจาก คณะพุทธศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

พิธีมอบรางวัลจบลงอย่างยิ่งใหญ่เกือบ 4ทุ่ม ด้วยการยิงพลุสวยงามสว่างไสว เสียงดังกึกก้องไปตลอดโค้งน้ำของแม่น้ำโขง

นับเป็นพิธีมอบรางวัลที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร…โดยเฉพาะทุกครั้งที่ประกาศรายนามผู้ได้รับรางวัลจะมีเสียงสวดชยันโตดังกระหึ่มขึ้นนั้นเป็นห้วงเวลาที่ประทับใจอย่างหาที่สุดมิได้

หัวหน้าทีมซอกแซกรู้สึกปีติยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญไปร่วมงานนี้ และขอแสดงความชื่นชมสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ซึ่งโดยผลงานที่ดำเนินการมาทั้งหมดน่าจะมีโอกาสได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่งจากสถาบันใดสถาบันหนึ่ง ในฐานะองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดเช่นเดียวกัน.

“ซูม”