ข้อเขียนต้อนรับปีใหม่ของผมที่ช่วงหลังๆ นี้กลายเป็นข้อเขียนประเพณี คือจะต้องเขียนถึงทุกๆ ปี เพื่อบันทึกเอาไว้ เสมือนเป็นเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ น้อยๆ ของบ้านเมืองเราไปด้วย…คือข้อเขียนว่าด้วยการ “ไหว้พระ 9 วัด” ในช่วงปีใหม่นั่นแหละครับ
ผมจำไม่ได้แล้วว่าหน่วยราชการไหนเป็นผู้ริเริ่มขึ้น แต่มั่นใจว่าต้องเป็นความริเริ่มของทางราชการแน่ๆ เพราะจะมีการจัดรถเมล์ฟรีวิ่งไปตามวัดสำคัญต่างๆ เพื่อนำพี่น้องประชาชนไปไหว้พระ ณ วัดนั้น จนครบ 9 วัด ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ในยุคแรกๆ ที่เริ่มประเพณีไหว้พระ 9 วัดวันปีใหม่นั้น ผมและครอบครัวจะขับรถออกจากบ้านช่วงสายๆ ไปตั้งหลักที่ วัดเบญจมบพิตรฯ ก่อนเป็นวัดแรก เพราะเมื่อลงทางด่วนยมราชแล้วขับตรงไปหน่อยเดียว จะถึงก่อนวัดอื่น
เป้าหมายถัดไปของเราในปีก่อนๆ จะอยู่ที่สถานที่จอดรถราคาย่อมเยาของ กทม.ที่ย่านบางลำภู ซึ่งเราจะนำรถไปจอดที่นั่น เดินเลยมาหน่อยหนึ่งก็ถึงหน้าวัด บวรนิเวศวิหาร ซึ่งเราจะเข้าไปไหว้ พระพุทธชินสีห์ และ พระไพรีพินาศ ที่วัดนี้
จากนั้นก็จะทิ้งรถไว้ ณ ที่จอดรถของ กทม.นั่นเอง พร้อมกับกระโดดขึ้นรถเมล์ฟรีต่อไปที่ วัดชนะสงคราม, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดพระเชตุพนฯ, วัดราชบพิธฯ, วัดสุทัศนเทพวรารามฯ, วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ไปจบที่วัด ไตรมิตร รวม 9 วัด พอดีเป๊ะ
แต่มาถึงยุคโควิด-19 ระบาด เราไม่สามารถลงจากรถได้ และวัดเกือบทุกวัดก็มักจะให้เข้าอย่างจำกัด ตามมาตรการป้องกันโควิด รวมทั้งบางวัดอาจจะปิดเลย ทำให้คณะของเราต้องหันมาใช้วิธีนั่งรถ “ตระเวนไหว้” ตามเส้นทางต่างๆ แทน
คือนั่งพนมมือขอพรอยู่บนรถขณะชะลอที่หน้าวัด…ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างรวดเร็วเพียงชั่วโมงเดียวก็ครบตามเป้าหมายเรียบร้อย
ดังนั้นในปีนี้เราจึงตั้งใจจะใช้แผนแบบพบกันครึ่งทาง คือเมื่อผ่านวัดใดแล้วพอมีที่จอด เราก็จะแวะจอดแล้วเดินลงไปไหว้ด้วยตัวเราเอง วัดไหนจอดไม่ได้ ก็จะใช้วิธีไหว้ขณะรถวิ่งผ่านเหมือนในช่วงโควิด
วางแผนอย่างดิบดีแล้วเราก็ปฏิบัติตามแผน โดยมุ่งไปที่วัด เบญจมบพิตรฯ เป็นวัดแรกเช่นเคย
ปรากฏว่าได้ที่จอดสมใจหมายและสามารถลงไปไหว้ได้ทั้งครอบครัวครบทุกคน…แม้จะมีนักท่องเที่ยวและคนไทยเราแวะมาที่นี่ค่อนข้างเยอะมาก… แต่ก็ยังพอมีที่ว่างให้พวกเราเดินลงไปได้
หลังจากนั้นปรากฏว่าเราไม่สามารถลงจากรถได้เลย เพราะผู้คนแน่นมากตั้งแต่วัดบวรฯ วัดชนะสงคราม และพอเลี้ยวเข้าถนนราชดำเนินเพื่อไป วัดพระแก้ว ก็เจอปัญหารถติดยาวเหยียดอย่างชนิดไม่เคยเจอมาก่อนเลยในวันปีใหม่
นอกจากรถที่มุ่งหน้าไปวัดพระแก้วแล้ว ผู้คนที่ตัดสินใจลงเดินก็มากมายอย่างชนิดที่ต้องใช้คำว่า “ล้นหลาม” มาอธิบายว่างั้นเถอะ
ที่หน้า พระแม่ธรณีบีบมวยผม มีคนเข้าคิวขอพรท่านยาวเหยียด หลายพันคน และที่ออกเดินผ่านอาคารศาลต่างๆ ไปยังวัดพระแก้ว ผมประมาณว่าหลายหมื่นคนแน่นอน เพราะแน่นไปหมด
มองไปทางสนามหลวงก็จะเห็นรถจอดเต็มทุกพื้นที่….และยิ่งใกล้จะถึงหน้าศาลหลักเมืองและพระบรมมหาราชวัง ผู้คนก็ยิ่งแน่นมากขึ้นอีก เป็นชาวไทยเราเสีย 80 เปอร์เซ็นต์ และเป็นนักท่องเที่ยวอีกสัก 20 เปอร์เซ็นต์
ตลอดเวลาเกือบ 10 ปี ที่ผมมาไหว้พระ 9 วัดปีใหม่ ซึ่งจะมาวัดพระแก้วทุกครั้ง…ผมไม่เคยเห็นผู้คนมากมายเช่นนี้มาก่อนเลยครับ
เราต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเข้าใกล้วัดพระแก้วแล้วยกมือไหว้จากรถในจุดที่ใกล้ที่สุด และเมื่อผ่านไปได้เพื่อไปเลี้ยวทางวังสราญรมย์เพื่อจะไหว้วัดโพธิ์ด้วย ก็ต้องใช้เวลาอีกถึงครึ่งชั่วโมง
สรุปแล้วขนาดใช้วิธีนั่งรถตระเวนยกมือไหว้เรายังใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง…เพราะการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักรอบวัดต่างๆ แต่ก็เป็นการ ติดขัดที่นำความปลาบปลื้มใจมาสู่พวกเราอย่างเหลือล้น
เพราะทุกๆ ใบหน้าของพี่น้องประชาชนนับหมื่น (อาจจะนับแสนคนตลอดทั้งวัน) ล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เต็มไปด้วยความสุข ความอิ่มเอิบ และความหวัง สำหรับปีใหม่ 2566 ที่เวียนมาถึง
ภาพแห่งความสุขนี้จะตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป…สวัสดีปีใหม่อีกครั้งนะครับ!
“ซูม”