ตั้งใจไป “สวนผึ้ง” แต่กลับ “ถึง” อิตาลี

เมื่อวันจันทร์ถึงวันพุธที่ผ่านมาหมาดๆ นี้เอง หัวหน้าทีมซอกแซก และญาติสนิทมิตรสหายกลุ่มใหญ่รวมแล้ว 20 ชีวิตพอดี ชวนกันไปนอนค้างที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อเฉลิมฉลองการปลดล็อก “โควิด–19” ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นมา

เช่นเดียวกับคนไทยทั้งประเทศแหละครับอัดอั้นตันใจมานานแล้ว อยากไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่จะแย่อยู่แล้ว พอปลดล็อก เลิก “ศบค.” ปุ๊บ และเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรปั๊บ…การเดินทางท่องเที่ยวก็เริ่มคึกคักในฉับพลัน

ข่าว, สวนผึ้ง, ท่องเที่ยว, ลา ทอสคานา, La Toscana, ราชบุรี, ซูมซอกแซก

ลูกหลานทีมงานซอกแซกชุดหนึ่งมีญาติผู้ใหญ่อยู่ที่จังหวัดราชบุรี เวลาแวะไปเยี่ยมญาติมักจะเลยไปที่อำเภอสวนผึ้งอยู่เสมอๆ จึงขันอาสาจัดรายการ “ทัวร์เฉลิมฉลองการปลดปล่อย” ของเราครั้งนี้ โดยการยกขบวนไปที่อำเภอสวนผึ้งพร้อมกับการันตีว่าพวกเราจะต้องชอบ “รีสอร์ต” ที่เธอจองไว้ให้อย่างแน่นอน

นอกจากนั้น เธอยังยํ้าอีกว่าที่ “สวนผึ้ง” มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใจเด็กๆ อยู่หลายแห่ง และมีร้านอาหารอร่อยๆ ถูกปากผู้ใหญ่หลายร้าน

ฟังแล้วก็อดใจไม่ไหว…หัวหน้าทีมซอกแซกจึงตัดสินใจถอดตำแหน่ง “หัวหน้า” ออกชั่วขณะ เพื่อไปเป็น “ลูกน้อง” ติดตามทีมของลูกๆ หลานๆ ชุดนี้ไปนอนค้างและท่องเที่ยวที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ตามคำเชิญชวน

อิ่มอกอิ่มใจกลับมาพร้อมกับเรื่องราวและถ้อยคำพาดหัวซอกแซกสัปดาห์นี้ที่ว่า “ตั้งใจไปสวนผึ้ง…แต่กลับไป “ถึง” อิตาลี” มาฝากท่านผู้อ่านด้วยประการฉะนี้

เหตุใดจึงตั้งชื่อเรื่องว่าไป “ถึง” อิตาลีล่ะ? สวนผึ้งอยู่ใกล้ชายแดนเมียนมาน่าจะใช้คำว่า…ไปถึงเมียนมาซะมากกว่า?

ก็คงจะเป็นเพราะตัวอาคารรีสอร์ตที่เราไปพักค้างนั่นแหละครับ เขาสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดงๆ ตามแบบฉบับของบ้านเรือนในชนบทของอิตาลี ที่หลายๆ ท่านคงจะเคยเห็นมาแล้วในภาพถ่ายหรือปฏิทินต่างๆ

แม้แต่ชื่อรีสอร์ตเขาก็ตั้งไว้ว่า ลา ทอสคานา (La Toscana) ซึ่งในเว็บไซต์แนะนำรีสอร์ตอธิบายว่าเป็นภาษาอิตาเลียน หมายถึง “เดอะ ทัสคานี” ชื่อแคว้นๆ หนึ่งในอิตาลีตอนกลางที่มีเนินเขาวิวภูเขาและต้นไม้สวยงามต่างๆ รอบๆ อาคารบ้านเรือน

เมื่อเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้มาพบเห็นบรรยากาศ ของที่นี่เมื่อ 15 ปีก่อนโน้น จึงตัดสินใจว่าจะต้องเนรมิตให้ใกล้เคียงกับ “ทัสคานี” ของอิตาลี มากที่สุด จึงให้สถาปนิกออกแบบเป็นอาคารทรงอิตาลี ดังที่เห็นในภาพประกอบที่หัวหน้าทีมซอกแซกหยิบยืมมาจากเว็บไซต์ของโรงแรมนั่นเอง

เมื่อเข้าไปในห้องพักเขาก็ออกแบบให้เหมือนไปนอนที่อิตาลีอีกนั่นแหละ…ห้องนอนกว้างขวาง ห้องนํ้ากว้างขวาง แถมด้วยอ่างนํ้าเบ้อเริ่มเทิ่มชนิดต้องออกแรงปีนเข้าไปอาบนํ้าให้อีก 1 อ่าง นอกเหนือจากฝักบัวธรรมดาๆ

โชคดีมากที่ต้นสัปดาห์ที่แล้วลมหนาวเริ่มมาเยือนภาคกลางของประเทศไทยและไปถึง อ.สวนผึ้งด้วย ทำให้ช่วงเช้าๆ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20 องศา…ก็เลยรู้สึกเหมือนว่าได้ไปถึงเมืองชนบทเล็กๆของ อิตาลี หรือ “เดอะ ทัสคานี” เข้าให้จริงๆ

นอกจากวิวสวย อาคารสวยแล้ว ที่รีสอร์ต หรือโรงแรมเล็กๆ แห่งนี้ยังทำอาหารได้ถูกปาก อีกด้วย…มื้อเย็นทั้ง 2 มื้อ คณะของเราจึงจ่อมกันอยู่ที่ห้องอาหารของรีสอร์ต รับประทานกันไปคุยกันไป โดยไม่ต้องออกไปที่ไหนเลย

อาหารจานเด็ดของที่นี่มีหลายๆ จาน แต่ที่ทุกคนมาแล้วต้องสั่งก็คือ “พิซซ่า” นั่นแหละครับ…รสชาติจะเหมือนที่อิตาลีหรือเปล่าไม่ทราบ แต่สำหรับพิซซ่าเห็ดของที่นี่…ถือเป็นทีเด็ดประจำร้านเลยทีเดียว ไม่สั่งไม่ได้ว่างั้นเถอะ

พูดถึงเรื่องอาหารการกิน นอกจากที่โรงแรม หรือรีสอร์ตของเราแล้ว คณะยังมีโอกาสไปรับประทาน อาหารอร่อยๆ ช่วงกลางวันมาอีก 2 ที่ ขอแนะนำไว้ ณ ที่นี้ด้วย เริ่มจาก “ครัวม่อนไข่” อาหารไทยๆ อร่อยมาก โดยเฉพาะเขียวหวานปลากราย และ ต้มโคล้งปลาคัง+ปลาคังผัดฉ่า ยกนิ้วให้เลย

อีกหนึ่งร้านอาหารที่แวะไปและถือว่าฝากท้องได้เลยก็คือที่ “สวนผึ้งไฮแลนด์” ซึ่งนอกจากอาหารอร่อยๆ แล้ว ก็มีอะไรต่อมิอะไรให้ดูแยะมาก ตั้งแต่สวนญี่ปุ่น, บ่อปลาคาร์ป, การเลี้ยงสัตว์ ให้อาหารสัตว์ต่างๆ ที่เด็กๆจะอยู่ได้เป็นครึ่งวันเลยทีเดียว

ที่เที่ยวที่ประทับใจอีกที่ที่แวะไปด้วยก็คือ Alpaca Hill หรืออัลปาก้า ฮิลล์ ซึ่งจะมีแพะมีแกะ มีสัตว์เลี้ยงต่างๆ มาให้เด็กๆ ได้ดูชมและสัมผัสใกล้ๆ จำนวนมาก

รวมทั้งเจ้าตัว อัลปาก้า สัตว์หน้าตาคล้ายอูฐ (เขาว่าอยู่ในวงศ์เดียวกัน) มีมากที่อเมริกาใต้ แถวๆ เปรู โบลิเวีย เอกวาดอร์ ฯลฯ ซึ่งมีข่าวว่าฟาร์มนี้สั่งเข้ามาหลายตัว และตั้งชื่อฟาร์มรองรับ แต่วันที่เราไปมีให้ดูแค่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งก็ยังคุ้มค่าที่มีให้ดูเพราะเด็กๆ ชอบมาก

ในการเข้าชมเข้าเล่นเกมสนุกๆ ตามฟาร์มต่างๆส่วนใหญ่จะต้องเสียค่าผ่านประตูในสนนราคาหัวละหลายร้อยบาทอยู่เหมือนกัน

แต่ก็โชคดีที่เขาจะยกเว้นไม่เก็บจากผู้สูง อายุ…ใคร 65 ปีแล้ว ยื่นบัตรประชาชนให้เขาดู ก็สามารถเดินเข้าได้เลย เพียงแต่ไม่มีสิทธิ์ไปเล่นของเล่นหรือไปให้อาหารสัตว์ต่างๆ เท่านั้นเอง

ครับก็เป็นสิ่งละอันพันละน้อยจากสวนผึ้ง นึกอะไรออกก็เขียนแบบยำใหญ่ ไม่ได้ลำดับเหตุการณ์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่นัก

ขอบคุณลูกๆ หลานๆ ที่มาชวนหัวหน้าทีมซอกแซกไปเที่ยวสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ทำให้มีโอกาสสัมผัสกับความสุขอีกรสชาติหนึ่งเหมือนไปอิตาลีมาจริงๆ อย่างที่พาดหัวไว้

ที่สำคัญต้องขอบคุณโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ของรัฐบาลไว้ ณ ที่นี้ ที่มีส่วนอย่างมากในการจูงใจให้พวกเราออกเที่ยวในครั้งนี้ ในราคาประหยัด เนื่องจากรัฐช่วยจ่ายส่วนหนึ่ง

ใครบอกว่าลุงตู่ไม่มีผลงาน…นี่แหละผลงานกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรงเลยนะเนี่ย

แอบถามมาแล้วว่าที่รีสอร์ต “อิตาลี” เต็มตลอด 2 คืนที่พวกเราไปนอนค้างนั่นน่ะมาด้วยสปอนเซอร์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกันทุกๆ ห้องเลยครับ.

“ซูม”