วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีตัวจริงเสียงจริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญนับแต่วันที่ 24 สิงหาคมเป็นต้นมา
ดังนั้น ผู้จะทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ก็คือ ท่านรองนายกรัฐมนตรีอันดับที่ 1 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นเอง
คงไม่ใช่ครั้งแรกที่พลเอกประวิตรทำหน้าที่นี้แทนนายกฯ เพราะตลอดเวลาที่เป็นรองนายกฯ คู่บารมีบิ๊กตู่มายาวนานนั้น บิ๊กตู่ท่านไปราชการต่างประเทศหลายๆ วันหลายๆ ครั้ง ซึ่งตามระเบียบปฏิบัติบิ๊กป้อมก็น่าจะทำหน้าที่แทนไปบ้างแล้ว
แต่ที่ครั้งนี้กลายเป็นเรื่องตื่นเต้นและผมเดาว่า วันนี้ผู้สื่อข่าวคงจะไปรอทำข่าวการประชุม ครม.ครั้งแรกของนายกฯ รักษาการหนาแน่นเป็นพิเศษและน่าจะรายงานข่าวตั้งแต่กิริยาอาการ-อารมณ์-ความรู้สึก ของ “บิ๊กป้อม” รวมไปถึง “สาระ” หรือมติการประชุมอย่างละเอียด ก็เพราะเป็นการประชุมครั้งแรกที่บิ๊กป้อมจะทำหน้าที่แทนบิ๊กตู่ อันเนื่องมาจากบิ๊กตู่ต้องหยุดเพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญนั่นเอง
เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และเนื่องจาก “บิ๊กป้อม” ก็มีคนรักเท่าผืนหนัง คนไม่รักเท่าผืนเสื่อ จึงกลายเป็นเป้าที่ผู้คนทั้ง 2 ฝ่าย อยากจะรู้ว่าบิ๊กป้อมจะโชว์ฟอร์ม
วันแรกเป็นอย่างไรบ้าง
ผมเองแม้จะวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างแจ้งชัดไม่รักท่าน ไม่ชังท่าน…แต่ก็อยากรู้ว่าการทำหน้าที่ “นายกฯ” ในการประชุม “คณะรัฐมนตรี” ที่ผมเห็นว่า “สำคัญมาก” ของท่านจะเป็นอย่างไร?
ที่สำคัญช่วงปลายเดือนสิงหาคมย่างเข้าสู่เดือนกันยายนนั้น เป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการบริหารราชการแผ่นดิน
เพราะจะเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณเก่า 2565 ก่อนจะเข้าสู่เดือนแรกของปีงบประมาณใหม่ 2566 ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
น่าจะมีโครงการต่อเนื่องหลายๆ โครงการ และขณะเดียวกันก็น่าจะมีโครงการใหม่ๆ อีกหลายโครงการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566-2570) ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมเช่นกัน
คนที่สนใจใคร่รู้ว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าไปอย่างไร? จะมีพัฒนาการไปในทางไหนบ้าง? จึงอดเป็นห่วงไม่ได้…เพราะในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ผู้เล่นหมายเลขหนึ่งตัวจริงไม่สามารถลงสนามได้ บรรดากองเชียร์ทั้งหลายย่อมอยากจะรู้ว่าผู้เล่นตัวสำรองที่ลงแทนจะทำหน้าที่ได้ดีเพียงใด?
แต่ก็ยังเบาใจว่าบรรดาโค้ช ผู้ช่วยโค้ชทั้งหลายยังอยู่ครบ…โดยเฉพาะข้าราชการประจำที่ทำหน้าที่ “ติว” นายกฯ ตู่ก่อนประชุม ครม. ตั้งแต่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, เลขาธิการคณะรัฐมนตรี, เลขาธิการสภาพัฒน์ ฯลฯ ต่างก็เข้าไปชี้แจงรายละเอียดต่างๆ แก่บิ๊กป้อมเรียบร้อยแล้ว
ที่ผมยังเป็นห่วงอยู่มาก เพราะแม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะเป็นไปตามกฎกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทุกประการ และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในที่สุดแล้วไม่ว่าผลจะออกมาทางใด ก็มีกติกามารองรับตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างชัดเจน
แต่ก็อาจจะมีบางกลุ่ม บางฝ่ายไม่ยอมรับคำตัดสิน อันอาจจะนำไปสู่การประท้วงต่างๆ ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาได้
ก็ขอให้ทุกๆ ฝ่ายยอมรับกติกาให้ความเคารพต่อคำตัดสินของศาลและปฏิบัติตามการตัดสินอย่างเคร่งครัด…ทุกอย่างก็จะเดินหน้าต่อไป
ในกรณีที่บิ๊กตู่ไม่ได้กลับมา เชื่อว่าคงไม่มีอะไรวุ่นวายเกิดขึ้น… บิ๊กป้อมท่านคงอยู่รักษาการอีกพักหนึ่ง เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากรายชื่อที่เสนอไว้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
แต่ในกรณีที่ศาลมีมติว่ากลับมาได้นี่ซี…ฝ่ายไม่ชอบบิ๊กตู่อาจจะทำอะไรเกินเลยขึ้นมาได้…จึงอยากจะขอร้องไว้อีกครั้งในวันนี้
ขอให้ทำใจเสียว่า ยังไงๆ บิ๊กตู่ก็จะอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน เพราะราวๆ พฤษภาคม-มิถุนายนปีหน้าก็จะเลือกตั้งใหม่กันแล้ว
วิธีสกัดไม่ให้บิ๊กตู่กลับมาอีกก็คือไม่เลือกพรรคที่เสนอชื่อท่าน…แค่นี้บิ๊กตู่ก็หมดสิทธิ์ที่จะกลับมาอย่างถาวรแล้วครับ
นี่คือการปฏิบัติตาม “กฏกติกา” ที่ผมเสนอไว้…และถ้าทำได้ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไป…ขอฝากทุกๆ ฝ่ายไว้ด้วยนะครับ.
“ซูม”