ข่าว “อนุทิน” ติดโควิด เตือนสติ “โรคนี้” ยังอยู่กับเรา

เมื่อช่วงเที่ยงๆ ของวันอังคารที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา มีข่าวกึ่งลือ กึ่งกระซิบเผยแพร่ออกมาว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอนุทิน ชาญวีรกูล ติดโควิดเสียแล้ว

ต่อมาอีกพักใหญ่ๆ ท่านปลัดสาธารณสุข คุณหมอเกียรติภูมิ วงศ์รจิต ก็ออกมาคอนเฟิร์มว่ารองฯ อนุทินติดโควิดจริงๆ

สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า ในการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 170 ของ สำนักงานองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE 170th General Assembly) ที่กรุงปารีส ระหว่าง 19-21 มิถุนายนนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย พร้อมด้วย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อนำเสนอศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย ในการที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน “เอ็กซ์โป” วาระพิเศษ ว่าด้วยการท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2028

จากนั้นก็ออกเดินทางต่อพร้อมกับคณะไปร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหาร UNAIDS หรือ โครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 50 ที่นครเจนีวา ในวันที่ 21-24 มิถุนายนต่อทันที

รองฯ อนุทินซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานที่ประชุมได้ร่วมประชุมอยู่ตลอด จนมีมติที่สำคัญเกี่ยวกับโรคเอดส์หลายเรื่อง พร้อมกับเสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมกรรมการบริหารของโครงการนี้ครั้งต่อไป (ครั้งที่ 51) ในเดือนธันวาคมปีนี้

จากนั้นรองฯ อนุทินก็เดินทางกลับมาประเทศไทยและมีอาการปวดกล้ามเนื้อและระคายคอ ผลการตรวจ ATK ออกมาเป็นบวก และจากการสอบสวนโรคคาดว่า ติดเชื้อระหว่างการไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ เพราะต้องมีการพบปะพูดคุยและสัมผัสมือกับผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรองฯ อนุทินฉีดวัคซีนป้องกันครบตามเกณฑ์แล้ว ทำให้ไม่มีอาการป่วยที่รุนแรง แพทย์จึงสั่งให้แยกตัวเพื่อความปลอดภัย 1 สัปดาห์ที่บ้าน และไม่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด

ผมอ่านข่าวทั้งหมดนี้หลายเที่ยว ก่อนที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ที่ทราบว่ารองฯ อนุทินมิได้เจ็บป่วยอะไรมากนัก

โล่งอกประการแรกก็เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และมีเป้าหมายอยู่ที่รองฯ อนุทินด้วยเช่นกัน

หากรองนายกฯ ไปติดโควิด-19 เพราะแอบไปเที่ยวบาร์ทองหล่อ หรือเที่ยวผับอะไรสักผับหนึ่ง ก็จะกลายเป็นประเด็นให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้อย่างดุเดือดอีก 1 ประเด็น

เมื่อติดเพราะไปทำงานคือไปเสนอตัวให้มาจัดงานใหญ่ด้านท่องเที่ยวที่ภูเก็ต และไปเป็นประธานการประชุมระดับสหประชาชาติ หรือ UN ที่เกี่ยวกับโรคเอดส์ที่ยังคงเป็นโรคที่จะต้องช่วยกันดูแลผู้ป่วยต่อไปเช่นนี้

ฝ่ายค้านขืนนำไปอภิปรายก็จะเป็นการเพิ่มคะแนนนิยมให้แก่คุณอนุทินเสียเปล่าๆ

โล่งอกประการที่ 2 ก็เพราะคุณอนุทินท่านฉีดวัคซีนมาแล้วถึง 6 เข็ม มีทั้งซิโนแวค 2 เข็ม, แอสตรา 2 เข็ม, ไฟเซอร์ 1 เข็ม และไฟเซอร์ ซ้ำล่าสุดเมื่อ 13 มิถุนายนอีก 1 เข็ม เป็นเข็มที่ 6

แสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนครบโดส และฉีดเสริมด้วยนั้นเป็นผลดีดังที่ WHO กล่าวไว้ว่า วัคซีนอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะช่วยลดความรุนแรงของเชื้อได้แน่นอน ดังที่รองนายกฯซึ่งติดเชื้อเข้าไปแล้ว ทว่ามีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เพราะฉะนั้นใครที่ยังฉีดไม่ครบโดส และทำท่าจะเลิกฉีดเพราะเห็นว่าสถานการณ์ดูดีมากแล้ว กรุณากลับไปฉีดเสียโดยด่วน

เนื่องจากโควิด-19 ยังวนเวียนอยู่ในโลกนี้รวมทั้งบ้านเราด้วย ฉีดๆ ไว้น่าจะเป็นผลดีทั้งแก่ตัวเองและแก่ส่วนรวมอย่างแน่นอน

เมื่อวานนี้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังไปฉีดเข็มที่ 5 เลยครับ พร้อมกับเชิญชวนด้วยว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนของ กทม.ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง กำลังเปิดให้บริการฉีดอย่างเต็มที่

ถึงแม้ตัวเลขวันนี้ขณะผมเขียนยอดติดเชื้อใหม่ของไทยจะอยู่ที่ 1,761 ราย และอยู่ในหลัก 1,700 กว่ามา 2 วันแล้ว แต่ก็อย่าประมาทครับ

ผมเชื่อที่คุณหมอ ประสิทธ์ิ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศิริราช พยาบาล และคุณหมอ ยง ภู่วรวรรณ แห่งคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ ให้สัมภาษณ์เตือนไว้เมื่อวันก่อนว่า ของจริงน่าจะมากกว่าตัวเลขนี้ 10 เท่า

แปลว่าของจริงๆ อาจจะยังติดวันละหมื่นกว่าๆ เกือบ 2 หมื่นนะครับเนี่ย ทำเป็นเล่นไปเถอะ…ประมาทได้เสียเมื่อไรล่ะไทยแลนด์ของเรา.

“ซูม”

ข่าว,​โควิด 19, รองนายกฯ, อนุทิน ชาญวีรกุล, ซูมซอกแซก