ได้เวลา “ถอดหน้ากาก”? “ใจหาย” + “คิดถึง” + “ขอบคุณ”

สื่อมวลชนทุกแขนงรายงานว่า ที่ประชุม “ศบค.” ชุดใหญ่ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” เป็นประธาน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติให้ปรับพื้นที่ประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัดเป็น “พื้นที่สีเขียว” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้เป็นต้นไป

แปลความตามกฎกติกาว่าด้วยเรื่องสีต่างๆ ที่ ศบค.เคยใช้นั้น “สีเขียว” เป็นสีที่ถือว่าดีที่สุด คือแม้จะยังมีการเฝ้าระวังอยู่ แต่ก็ปลดล็อก และผ่อนคลายให้อย่างมากในเกือบทุกเรื่อง

ดังเช่นรายละเอียดที่มีการแถลงเพิ่มเติม หลังการประชุมครั้งนี้ว่า สามารถถอดหน้ากากอนามัยโดยสมัครใจได้ในที่โล่ง หรือในการเล่นกีฬาต่างๆ…สามารถเปิดสถานบันเทิงได้ถึงตี 2 และสามารถเคลื่อนย้าย แรงงานต่างด้าวได้ตามปกติ ฯลฯ

แต่ก็ยังมีการควบคุมดูแลตลอดจนการขอร้องให้ปฏิบัติโน่นปฏิบัตินี่ด้วยความสมัครใจอีกหลายๆ ข้อ เช่น สำหรับกลุ่ม 608 หรือคนอายุ 60 ขึ้นไป+7 โรคและสุภาพสตรีมีครรภ์ทุกอายุ ท่านยัง “แนะนำ” ให้สวมหน้ากากอนามัยต่อไปในทุกๆ โอกาส

หรือในพื้นที่แออัดผู้คนเยอะๆ ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตาม รวมถึงการรวมกลุ่มเกิน 2,000 คน เช่น จัดประชุม จัดสัมมนา จัดการแข่งขันกีฬา หรือคอนเสิร์ตด้วย ยังจะต้องแจ้งต่อคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัดนั้นๆ

ท่านนายกฯ ยังสั่งการกระทรวงสาธารณสุขให้ไปดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนด้วย…โดยเฉพาะการฉีดเข็มกระตุ้น ควรไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 เพื่อเป็น 1 ในเงื่อนไขของการเข้าสู่ “โรคประจำถิ่น” ในโอกาสต่อไป

กล่าวโดยสรุปก็คือ แม้จะปรับเป็นพื้นที่สีเขียวทั้งประเทศ และ “คลายล็อก” ไปเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีการเฝ้าระวัง มีการห่วงใย มีการขอร้องให้ทำโน่นทำนี่เพื่อความปลอดภัยหลายๆอย่างควบคู่ไปด้วย

ต้องขอขอบคุณ ศบค. ขอขอบคุณรัฐบาลและขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขในความห่วงใยต่างๆเหล่านี้

โดยส่วนตัวผมเองในฐานะประชากรกลุ่ม 608 (ความจริงอยู่ในกลุ่ม 808 ด้วยซ้ำ เพราะอายุเกิน 80 ปีแล้ว) ขอน้อมรับคำแนะนำด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

พร้อมกับให้สัญญาว่าจะสวมหน้ากากอนามัยต่อไป แม้จะไปเดินในสวนสาธารณะ หรือที่โล่งๆ ก็ตาม เพราะในทางหนึ่งผมเองก็รู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่นใจที่สวมใส่มา 2 ปีเศษๆ จนหน้ากากอนามัยแทบจะกลายเป็น “อาภรณ์” ประจำกายชิ้นหนึ่งไปเสียแล้ว

เวลาออกจากบ้านแล้วไม่สวมไม่ใส่จะรู้สึกโหวงเหวง ขอประทานโทษ เหมือนลืมสวมใส่ “เสื้อชั้นในคอกลม” อย่างไรอย่างนั้นเลยเชียว

รวมทั้ง “แอลกอฮอล์” ขวดจิ๋ว สำหรับล้างมือด้วย ผมก็ตั้งใจว่าจะพกต่อเหมือนพก “อาวุธ” ประจำตัว นานๆก็จะควักออกมาฉีดใส่มือสังหารเชื้อโรคต่างๆ เผื่อเหนียวเอาไว้

โควิด-19 อาจจะลดน้อยลงแล้ว แต่โรคอื่นๆ เช่น เชื้อไข้หวัด ไข้ธรรมดาทั่วไป อาจจะยังมีอีกเยอะ การล้างมือ หรือฉีดแอลกอฮอล์ บ่อยๆ น่าจะช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ไปได้ในตัว

ส่วนเรื่องฉีดวัคซีนที่ท่านขอร้องมา ขอให้ฉีดให้ได้ 60 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายนั้น ผมก็ขอทำหน้าที่ช่วยประชาสัมพันธ์ขอร้องไปยัง ท่านผู้อ่านทุกท่านอีกแรงหนึ่ง

ใครยังไม่ฉีดไปฉีดเสียด้วยนะครับ โดยเฉพาะพี่น้องชาวชนบทที่มี ข่าวว่า สธ.ส่งวัคซีนลงสู่อำเภอ ลงสู่ตำบล อย่างมากมายในขณะนี้

แน่นอน…งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา และเมื่อโควิด-19 เริ่มซา ก็ย่อมถึงคราต้องถอดหน้ากากทิ้งไว้บ้าน

ผมเองเป็นคนชอบไปงานเลี้ยง และจะรู้สึกเหงาๆ ทุกครั้งเวลาดนตรีขึ้นเพลง “ดึกแล้วคุณขา” เตือนว่างานเลี้ยงจะเลิกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

ดังนั้นเมื่อคุ้นเคยกับหน้ากากจนรู้สึกรักและอบอุ่นใจทุกครั้งที่สวมใส่มากว่า 2 ปีเศษ จึงรู้สึกใจหายที่จะต้องถอดหน้ากาก เช่นเดียวกับงานเลี้ยงที่กำลังจะเลิกราในเวลาไม่นานนักข้างหน้านี้

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับหน้ากากอนามัย ขอบคุณมากสำหรับ แอลกอฮอล์ล้างมือ เราจะคิดถึงนายตลอดไปนะจ๊ะ.

“ซูม”

ข่าว, ถอดหน้ากาก, โควิด 19, หน้ากาก, อนามัย, ซูมซอกแซก