จาก…ปรากฏการณ์ “แตงโม” ถึง…อะแมน คอลด์ “ระวิ”

คงต้องยอมรับว่าข่าวการเสียชีวิตของ “น้องแตงโม” น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง ด้วยการพลัดตกจากเรือเร็ว หรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เป็น “ปรากฏการณ์ข่าว” ที่มีการติดตามและพูดถึงมากที่สุดข่าวหนึ่งในรอบเกือบๆ 60 ปีที่ผมเข้าสู่วงการสื่อมวลชน

อาจเป็นเพราะผู้เสียชีวิต หรือน้องแตงโม เป็นดาราที่โด่งดังมากเป็นที่รู้จักอย่างดีของแฟนๆ โทรทัศน์ และแฟนภาพยนตร์อยู่แล้ว…อย่างไรเสีย การเสียชีวิตของเธอก็ต้องเป็นข่าวใหญ่หน้า 1 และของสื่อโทรทัศน์ต่างๆ

ยิ่งเมื่อการเสียชีวิตของเธอเป็นไปอย่างมีเงื่อนงำ และคำให้การของผู้ที่อยู่บนเรือลำเดียวกันก็น่าสงสัยแถมขัดแย้งกันเอง…ก็ยิ่งทำให้แฟนๆของเธอ หรือบุคคลที่เสพข่าวทั่วๆไปพลอยสงสัยไปด้วย

ประกอบกับยุคนี้เป็นยุคสื่อสารทันสมัย จนถึงขั้นที่ข่าวสารใหม่ๆหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารแต่ละข่าว สามารถเผยแพร่ได้อย่างรวดเร็ว แบบวินาทีต่อวินาทีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ

ทำให้เกิดปรากฏการณ์อีกประการหนึ่งขึ้นมาด้วย ได้แก่ “นักสืบโซเชียล” ซึ่งมีการนำคลิป นำภาพ นำหลักฐาน นำข้อสันนิษฐานต่างๆ มาช่วยสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์เสริมกำลังตำรวจ ทำให้ความสนใจในเหตุการณ์กรณีน้องโมพุ่งกระฉูดขึ้นอีกหลายเท่า

เรื่องราวของน้องแตงโมจะไปจบอย่างไร ยังคาดเดาไม่ถูก…แต่ก็เหมือนข่าวทุกข่าวที่ยังไงๆ ก็ต้องมีวันจบในที่สุด

แต่ในขณะที่ข่าวยังไม่จบ และยังมีการขุดคุ้ยประเด็นต่างๆ กันอย่างเมามันนั้น ผมก็ฝากให้สื่อหลักทั้งหลายได้ยึดหลักจริยธรรม มโนธรรม ในการเสนอข่าวสารให้มากที่สุดและขอให้นึกอยู่เสมอว่า น้องแตงโมได้เสียชีวิตไปแล้ว เราควรให้เกียรติต่อดวงวิญญาณที่ไม่มีสิทธิ์โต้เถียงใดๆ ทั้งสิ้นของเธอเหนือสิ่งอื่นใด

แล้วก็มาถึงพาดหัวคอลัมน์ผมวันนี้ที่มีใจความว่า “จากปรากฏการณ์แตงโมถึงอะแมน คอลด์ ระวิ” ซึ่งหลายๆ ท่านอาจสงสัยว่า อะแมน หรือผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ “ระวิ” คือใครและมาเกี่ยวข้องกับข่าวนี้อย่างไร?

คำตอบก็คือ คุณ “ระวิ โหลทอง” ประธานใหญ่ของเครือ สยามสปอร์ต ซินดิเคต “เจ้าพ่อสื่อกีฬา” นั่นแหละครับ

สาเหตุที่ผมเห็นว่าคุณระวิเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อย ก็เพราะคุณระวินี่แหละที่เป็นเจ้าของกองประกวด มิสทีนไทยแลนด์

ตัวจริงเสียงจริงก่อนที่จะส่งมอบให้แก่ลูกชายคนโต คุณวิลักษณ์ โหลทอง เป็นเจ้าของกิจการในปัจจุบันนี้

และตำแหน่ง “รองมิสทีนไทยแลนด์” ปี 2545 มิใช่หรือครับที่เป็นสะพานให้น้องแตงโมก้าวเดินไปสู่ความเป็นดาราโด่งดังในที่สุด

ก่อนหน้าโน้นที่ปรึกษากองประกวด มิสทีนไทยแลนด์ รายหนึ่ง ที่ท่านผู้อ่านไทยรัฐน่าจะรู้จักมักคุ้นอย่างดียิ่งก็คือคุณ อ้วน อรชร นักข่าวสายนางงามคนหนึ่งของไทยรัฐเราในอดีต

คุณอ้วน อรชร นี่แหละที่ยุให้คุณระวิ โหลทอง เทกโอเวอร์กองประกวดมิสทีนไทยแลนด์ เมื่อ พ.ศ.2545 หรือ ค.ศ.2002 และเพียงปีแรกเท่านั้น…มิสทีนไทยแลนด์ยุคใหม่ก็ดังระเบิด

ดังที่สุดก็คือ “น้องเชียร์” ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ กับ “น้องแตงโม” ที่เข้าประกวดรุ่นเดียวกัน โดยน้องเชียร์ได้สวมมงกุฎและน้องแตงโมได้รองอันดับที่ 4 แต่มีการประกาศชื่อเพียงรองอันดับ 3 เท่านั้น

นอกจากน้องเชียร์ น้องแตงโมแล้ว มิสทีนไทยแลนด์ หรือรองรุ่นหลังๆที่โด่งดังก็มี “น้องมะนาว” ศรศิลป์ มณีวรรณ์, อาเมเรีย จาคอป และ ชรินพร เงินเจริญ 2 ธิดาวานรต่างยุคต่างสมัย ฯลฯ เป็นต้น

น่าเสียดายที่โควิด-19 เข้ามาระบาดในบ้านเราเสีย 2 ปีเต็ม ทำให้การประกวดมิสทีนไทยแลนด์ต้องหยุดไปด้วย 2 ปีเต็มๆ เช่นกัน

ผมก็ได้แต่หวังว่าเมื่อโควิด-19 ซาสนิทลงแล้ว…การประกวดมิสทีนไทยแลนด์จะกลับมาใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นแหล่งเพาะต้นกล้าทาง ความงามและการแสดงดังเช่นที่ได้ดำเนินการมาตลอดเกือบ 20 ปีดังกล่าว

ป.ล. ก่อนจบผมเงยหน้ามองปฏิทินทำให้นึกขึ้นได้ว่าข้อเขียนวันนี้ จะลงตีพิมพ์ในไทยรัฐฉบับวันที่ 8 มีนาคม 2565 ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดครบ 80 ปีของเสี่ย ระวิ โหลทอง พอดิบพอดี…ก็ขอถือโอกาสนี้อวยชัยให้พรและขอต้อนรับสู่หมายเลข 8 เลขมงคลของชาวจีนด้วยจตุรพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ เทอญ

หรือจะเพิ่มพรที่ 5 คือ “ธนะ” (ที่แปลว่า เงินตรา) ด้วยก็ได้ นะครับ เพื่อเป็นที่พึ่งของเพื่อนฝูงตลอดไป.

“ซูม”

ข่าว,​ แตงโม, นิดา, มิสที่ ไทยแลนด์, ระวิ โหลทอง, การประกวด, นางงาม, ซูมซอกแซก