เมื่อตอนที่เชื้อไวรัสมหาภัยโควิด-19 บุกเข้าประเทศไทย ช่วงแรกๆ ราวๆ ต้นปี 2020 หรือ พ.ศ.2563 นั้น คนไทยเราทุกๆภาคไม่ว่าเหนือ ใต้ อีสาน ตะวันออก ตะวันตก ต่างเป็นทุกข์กันอย่างมาก
เนื่องเพราะผลกระทบของการระบาดทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการเข้มข้นหลายอย่าง รวมทั้งมาตรการ “ชัตดาวน์” ปิดเมือง ปิดจังหวัด ปิดประเทศ อยู่หลายๆ วันเป็นระยะๆ
ธุรกิจไทยทุกสาขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก และที่หนักกว่าเพื่อนก็คือธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่เคยเฟื่องฟูนั่นเอง
มีการปิดบริษัท มีการเลิกจ้างงาน ทำให้คนตกงานนับไม่ถ้วน…คาดกันว่าผู้คนนับสิบล้านคนทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบในช่วงดังกล่าว
แต่เราก็ได้เห็นนํ้าใจคนไทยในช่วงนั้นเช่นกัน เมื่อคนมีเงินมีทองเหลือใช้และไม่เจอผลกระทบต่างก็ออกมาช่วยเหลือสังคม…มีการนำอาหารทั้งสดและแห้งออกมาแจกจ่ายกัน
เกิดปรากฏการณ์ “ตู้ปันสุข” ขึ้นทั่วประเทศไทย
ขณะเดียวกันก็เกิดขบวนการ “ให้กำลังใจ” ซึ่งกันและกันมีทั้งหนังสือออกมาหลายๆเล่ม และเพลงออกมาหลายเพลงในช่วงนั้นภายใต้ พุทธภาษิต ที่เป็นคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
ผมได้รับแจกหนังสือมาหลายเล่ม…เล่มหนึ่งเขียนโดย “ท่าน ว.” ว.วชิรเมธี…ตั้งชื่อหนังสือว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” เช่นกัน
เมื่อได้รับหนังสือมาแล้ว ผมก็นำมาช่วยเขียนต่อให้ พร้อมกับยกตัวอย่างว่า “ความทุกข์นั้นจะไม่อยู่นานหรอก…เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” ร่วมให้กำลังใจท่านผู้อ่านและพี่น้องประชาชนอีกแรงหนึ่ง
ที่ไหนได้…ความทุกข์เรื่องโควิด-19 นั้น กลับไม่ “เดี๋ยว” อย่างที่เราคาดหวังกันไว้
ระยะเวลาก็ทอดยาวไปเรื่อยๆ ผ่านไปทั้งปี 2563, 2564 มาจนวันที่ 1 มีนาคม 2565 ย่างเข้าเดือนที่ 3 ของปี 2565 แล้ว ยอดติดเชื้อใหม่ในบ้านเราก็ยังสูงเฉียดๆ 25,000 คนต่อวัน
น่าจะเป็น “เดี๋ยว” ที่นานที่สุดนะครับ ท่าน ว.ครับ
แต่ก็ดูเหมือนว่า “เคราะห์” ของชาวโลกจะยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เพราะในขณะที่ปัญหาโควิด-19 ก็ยังไม่จบดีนั้นเอง
ปรากฏว่า โลกเราก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีก เมื่อกองทัพรัสเซียบุกเข้าสู่ยูเครนเป็นข่าวใหญ่ตึงตังจนถึงเข้าขั้นวิตกกันว่าจะเป็นชนวนไปสู่ “สงครามโลก ครั้งที่ 3” หรือไม่
ที่สำคัญแม้จะไม่บานปลายไปถึงสงครามโลก ครั้งที่ 3 ก็ตาม แต่ถ้าหากการสู้รบยังไม่หยุด และการควํ่าบาตรทางเศรษฐกิจของมหาอำนาจตะวันตกต่อรัสเซีย ซึ่งจะค่อยๆ ส่งผลกระทบมากขึ้นในอีกไม่นานนัก ข้างหน้า…ชาวโลกก็ยังจะต้องเผชิญความทุกข์อย่างหนักต่อไป
ทุกข์จากภัยเศรษฐกิจนั่นแหละครับ…เพราะในช่วงโควิด-19 ระบาด 2 ปีแรก ทำให้เศรษฐกิจโลกทรุดลงไปมาก…ก็หวังกันว่าเมื่อโควิดซาลง เศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น…เมื่อผู้คนทั่วโลกหันมากินมาใช้และออกเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งมีการลงทุนโน่นนี่นั่นเกิดขึ้น
แต่เมื่อเกิดสงครามขึ้นเช่นนี้…ก็จะทำให้วงจรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งหลายสะดุดลงไปในทันที
มิหนําซํ้าก็ยังจะทำให้นํ้ามันแพง ต้นทุนการผลิตสินค้าและการขนส่งต่างๆ แพงตามมาด้วย ก่อให้เกิดเงินเฟ้อทั่วโลก
เมื่อเศรษฐกิจไม่ฟื้น การจ้างงานยังไม่กระเตื้อง รายได้คนยังไม่เพิ่มเท่าไรนัก มาเจอเงินเฟ้อ ของแพง กระหน่ำเข้าให้อีกแบบนี้ จะทำให้ความทุกข์เพิ่มขนาดไหนก็ลองคิดกันดูนะครับ
แต่จะทำยังไงได้ล่ะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด…เมื่อกรรมเก่าของพวกเรามวลมนุษยชาติยังไม่หมด ก็ต้องกัดฟันสู้ต่อไป
ผมก็ขอนำคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี และท่านผู้แต่งหนังสือเรื่อง “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” อีกหลายๆเล่ม มามอบแก่ท่านผู้อ่านอีกครั้งหนึ่งในวันนี้และขอให้สู้ต่อไปนะครับ อย่าเพิ่งท้อถอยเสียก่อน
ยังไงๆ เดี๋ยวความทุกข์ทั้งหลายก็จะผ่านไปอยู่ดีแหละครับ เพียงแต่เป็น “เดี๋ยยยยว” ที่ยาวหน่อย (เพราะมีตัว ย.หลายตัว) ก็ขอให้อดทนอดกลั้นสู้ต่อ…อย่าเพิ่งถอดใจไปเสียก่อนก็แล้วกัน.
“ซูม”