ยังคงเป็นข่าวใหญ่เขย่าขวัญชาวโลกต่อไป สำหรับเจ้าเชื้อ “กลายพันธุ์” โควิด-19 ที่มีรหัสหรือโค้ดว่า “B.1.1.529” และองค์การอนามัยโลกตั้งชื่อให้เรียบร้อยแล้วว่า “Omicron”

พร้อมกับประกาศให้เป็นเชื้อไวรัสที่เข้าข่าย “น่ากังวล” หรือ Variant of Concern (VOC) ซึ่งมีคุณสมบัติในการระบาดได้เร็วกว่า เผยแพร่ออกไปได้อย่างกว้างขวางกว่า และมีอันตรายกว่าทุกสายพันธุ์ที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้

ที่สำคัญเจ้าเชื้อล่าสุดนี้ยังมีความสามารถในการหลบหลีกวัคซีนทุกยี่ห้อที่มีการผลิตขึ้น และฉีดให้แก่มนุษย์ทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

ด้วยอิทธิฤทธิ์ที่ร้ายกาจเช่นนี้จะไม่ให้ประเทศต่างๆทั่วโลกไม่ว่าใหญ่หรือเล็กเกิดความหวาดหวั่นได้อย่างไรล่ะ?

ดังที่เคยเขียนรายงานไว้แล้วเมื่อวานนี้ว่าทั้งสหรัฐฯ, แคนาดา, สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป ฯลฯ ต่างก็ออกมาตรการคุมเข้มถึงขั้นห้ามผู้เดินทางจากแอฟริกาใต้ และกลุ่มประเทศในแอฟริกาอีก 7-8 ประเทศ เดินทางเข้าสู่ประเทศตนเองเลยทีเดียว

รวมทั้งประเทศไทยเราที่ผมพบว่าเว็บไซต์ข่าวของ BBC เสนอข่าวว่าประเทศไทยก็ประกาศห้ามนักเดินทางจาก 8 ประเทศเข้าประเทศด้วย…ก่อนเว็บไซต์ข่าวไทยๆ เราถึงกว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อวันเสาร์ก่อน

เป็นการยืนยันว่ารัฐบาลไทยก็ตระหนักถึง “ปัญหา” ที่อาจจะเกิดจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน และเตรียมการที่จะป้องกันไม่ให้สายพันธุ์ใหม่นี้ระบาดเข้าสู่ประเทศเราอย่างเต็มที่

พร้อมๆ ไปกับการระมัดระวังดังกล่าว…รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการเปิดประเทศต่อไป สำหรับผู้เดินทางหรือประชาชนจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในรายชื่อความเสี่ยงสูงว่าจะมีเชื้อโอมิครอน

ผมก็หวังว่าในช่วงเดือนนี้และเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะหนีหนาวมาจากประเทศในเขตหนาว คงจะเดินทางมาพักผ่อนในบ้านเราตามเป้าหมายที่คาดไว้

แต่ก็ฝากให้ท่านที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหลายเผื่อใจไว้บ้าง ว่าทุกวันนี้ประเทศในเขตหนาว โดยเฉพาะในยุโรปกำลังเผชิญการระบาดระลอกใหม่อย่างหนักหนาสาหัสมาก

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี สาธารณรัฐเช็ก ฯลฯ ก็ตรวจเจอเชื้อโอมิครอนด้วยเช่นกัน แม้จะยังไม่มากนัก แต่ก็ สร้างความหวั่นวิตกแก่รัฐบาลของประเทศดังกล่าวอย่างมากถึงขั้นกลับมาใช้มาตรการเข้มข้นกันอีก

น่าจะส่งผลกระทบมาถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาบ้านเราแน่ๆ จะมากหรือน้อยเท่านั้น…ขอให้ท่านที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวทำใจล่วงหน้าเอาไว้

อีกประเด็นที่ผมเป็นห่วงมากก็ตรงที่คุณหมอทั้งหลายพูดกันว่าเจ้าโอมิครอนนั้นสามารถหลบหลีกวัคซีนทุกยี่ห้อได้…ซึ่งแปลว่าวัคซีนดั้งเดิมที่มีอยู่อาจรับมือกับเชื้อใหม่ไม่ไหว

ยังอุ่นใจก็ตรงที่คุณหมอ แอนโทนี ฟอซี ที่ปรึกษาประธานาธิบดีไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่ท่านออกมาให้สัมภาษณ์ CNN วันก่อน เผอิญผมได้ฟังพอดี…ท่านบอกว่าแม้วัคซีนเก่าจะป้องกันการติดเชื้อใหม่ตัวนี้ได้ลดลง…แต่ท่านเชื่อว่าความสามารถในการช่วยไม่ให้ป่วยหนัก หรือเสียชีวิตน่าจะยังเหมือนเดิม

ท่านจึงขอให้คนอเมริกันของท่านไปฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน…อย่ากลัว อย่าดื้อ หรืออย่าแอนตี้กันอยู่เลย

ผมก็หวังว่าบ้านเราจะใช้นโยบายเดียวกัน และเห็นด้วยกับคุณหมอฟอซี ใครยังไม่ได้ฉีดวัคซีนรีบไปฉีดเสียนะครับ มาถึงวันนี้เรามีเหลือเฟือแล้ว พอเพียงแล้ว ยี่ห้อดีๆ ทั้งนั้น

แต่เมื่อฉีดแล้วก็ยังคงต้องระมัดระวังกันต่อไปนะครับ ยังต้องสวมหน้ากาก ยังต้องพกแอลกอฮอล์ และหมั่นล้างมืออยู่เสมอ รวมทั้งยังต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ด้วย ห้ามประมาทเด็ดขาด

อย่าลืมละกันครับว่าโควิด-19 สายพันธุ์เก่ายังวนๆ เวียนๆ อยู่กับเราวันละ 5,000-6,000 อยู่ตลอด…ถ้าช่วยกันทำให้ตัวเลขลดลงไปเรื่อยๆ จะอุ่นใจมากขึ้น

อย่าเผลอให้กลับมาเป็นวันละหมื่นๆ กว่าๆ อีกก็แล้วกัน และจะต้องไม่ใช่สายพันธุ์โอมิครอนด้วย เพราะแค่ของเดิมเดลตาก็เหนื่อย จะแย่อยู่แล้ว เจ็บแล้วต้องจำนะครับ คุณหมออนุทิน.

“ซูม”