ด้วยรักและอาลัย “หัวลำโพง” เหตุผลที่ยังไม่อยากให้เลิก

ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงบ่ายๆ ของวันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งสำนักข่าวออนไลน์บางสำนักรายงานว่าจะมีการประชุมที่กระทรวงคมนาคม เพื่อชี้ขาดว่าจะหยุดการเดินรถไฟทุกขบวนเข้าสู่หัวสถานีหัวลำโพงภายใน 23 ธันวาคม 2564 หรือไม่

เพราะแต่เดิมนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทยมีแผนว่าจะหยุดเดินรถไฟจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเข้าสู่หัวลำโพง ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้เหลือไว้เพียงรถไฟชานเมือง 22 ขบวน ที่จะให้เดินไปก่อนถึงปี 2570 เพื่อให้ประชาชนชานเมืองมีโอกาสปรับตัว

แต่ก็มีข่าวว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คุณ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ท่านมีคำสั่งให้ยกเลิกขบวนที่เหลือภายใน 23 ธันวาคมนี้เลย …เพราะหากยังให้เดินต่อไปอีก จะเป็นการยากต่อการนำที่ดินรอบๆ สถานีไปพัฒนาในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นโครงการใหญ่มากของการรถไฟ

เพราะใครที่ไหนเขาจะอยากมาลงทุน ถ้าหากไม่ชัดเจนว่าจะหยุดเดินรถทั้งหมดเข้าสู่หัวลำโพงเมื่อใด?

ผมไม่ทราบว่าการประชุมเมื่อวันจันทร์จะลงเอยอย่างไร? และข้อเขียนวันนี้ซึ่งไม่ค่อยเห็นด้วยกับคุณศักดิ์สยามจะทันกาลหรือไม่?

แต่มาคิดอีกทีเรื่องใหญ่มากๆ แบบนี้น่าจะมีการเสนอไปขอมติสุดท้ายจากคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน คงไม่สิ้นสุดหรือยุติแค่กระทรวงคมนาคมหรอก…การแสดงความคิดเห็นจึงยังน่าจะดำเนินการได้

ประกอบกับในช่วง 2-3 วันมานี้ เริ่มมีบุคคลที่มีความรู้ความคิด และประชาชนจำนวนมาก แสดงความคิดเห็นต่อต้านการ “หักดิบ” ของท่านรัฐมนตรีคมนาคมผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ออกมาเป็นระยะๆ ผมก็ขอถือโอกาสนี้ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยก็แล้วกัน

สำหรับผมเองนั้น มีทั้งส่วนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับคุณศักดิ์สยามใน 2 ประเด็นดังต่อไปนี้

ประเด็นแรกผมเห็นด้วยในการที่จะใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์กลางของการคมนาคม และขนส่งในระบบรางต่อไปในอนาคต เพราะลงทุนไปแล้วอย่างมหาศาล ควรจะนำมาใช้ประโยชน์โดยเร็ว

ประกอบกับสถานีกลางบางซื่อก็ถือว่าไม่ไกลจากศูนย์กลางความเจริญของ กทม.มากนักในปัจจุบัน เพราะอยู่เลยจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 ไปเพียงนิดเดียว พี่น้องประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดสามารถจะเดินทางไปจุดหมายอื่นๆ ได้ไม่ยาก…

ในส่วนที่ผมไม่เห็นด้วยกับคุณศักดิ์สยามก็คือ ผมยังต้องการให้ใช้ สถานีหัวลำโพง ต่อไป สำหรับขบวนรถชานเมืองอีก 22 ขบวนไปตามแผนเดิมคือ พ.ศ.2570 หรือหากจะร่นเข้ามาอีกก็น่าจะเป็นปี 2566 หรือ 2567 เป็นอย่างน้อย

เหตุผลข้อแรกก็เหมือนกับที่หลายๆ ท่านได้แสดงความเห็นไว้แล้วคือ เห็นใจพี่น้องต่างจังหวัดที่อาศัยขบวนรถเหล่านี้มาทำงานใน กทม. แบบมาเช้าเย็นกลับ ซึ่งข่าวว่ามีจำนวนนับเป็นหมื่นคนในแต่ละวัน

การยืดเวลาออกไปจึงเท่ากับเป็นการให้เวลาและให้โอกาสพี่น้องเหล่านี้ในการปรับตัวเองได้มากขึ้น

แต่เหตุผลที่ผมให้นํ้าหนักเป็นพิเศษคือ เหตุผลที่การรถไฟอ้างว่าจะนำที่ดินรอบๆ หัวลำโพงไปพัฒนาในเชิงพาณิชย์ เพื่อหวังจะนำรายได้มาแก้ปัญหาการขาดทุนของรถไฟนั่นต่างหาก

ผมมองว่าการลงทุนสร้างอาคารพาณิชย์ อาคารที่อยู่อาศัย (คอนโด) อาคารสำนักงานที่เรียกว่ามิกซ์ยูสนั้นมีมากเกินไปแล้วสำหรับ กทม. ในปัจจุบัน

เท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้กลายเป็นโครงการร้างไปเสียจำนวนมาก…ยิ่งมาเจอปัญหาโควิด-19 กระหน่ำซํ้า ยิ่งจะร้างหนักขึ้นไปอีก

การฝันที่จะใช้ที่บริเวณรอบๆ หัวลำโพงในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่างๆ จึงเป็นความฝันที่ไม่สมจริงและควรชะลอออกไป

เหนืออื่นใดมีข่าวว่าอาจจะต้องแก้ “ผังเมือง” เพื่อให้สามารถสร้างตึกสูงปรี๊ดในบริเวณนี้ ซึ่งแต่เดิม “ห้ามสร้าง” อีกด้วย

ยิ่งจะทำให้อาณาบริเวณแห่งนี้มีตึกสูงปรี๊ดเกิดขึ้นขัดแย้งกับที่เคยเป็นอยู่ จะทำให้ภาพที่ออกมาขัดลูกหูลูกตาอย่างบอกไม่ถูก

ผมจึงเห็นว่าควรจะชะลอโครงการ “ฝันเฟื่อง” ที่อาจจะเป็น “ฝันร้าย” ของชาติด้วยการขึ้นตึกรามต่างๆ ให้มาเป็นตึกร้างในอนาคตเอาไว้ก่อน

หาก “หลานศักดิ์สยาม” จะเสนอมาให้แก้ผังเมืองเพื่อสร้างตึกสูงรอบๆ หัวลำโพงอย่างที่มีข่าวละก็…อย่ายอมง่ายๆ นะครับลุง!

“ซูม”

ข่าว, หัวลำโพง, หยุด, การเดินรถไฟ, สร้างตึก, สถานีรถไฟ, ซูมซอกแซก