ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงบ่ายๆของวันอังคารที่ 28 กันยายน 2564 ครับ––ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 10 ปีฉลู ตามปฏิทินจันทรคติแบบไทยๆของเรา

ที่ต้องบอกข้างขึ้นข้างแรมเอาไว้ด้วยก็เพราะอยากจะบันทึกไว้ให้ครบครันน่ะครับ เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกตื่นเต้นยินดี และถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งเลยทีเดียว

จะอะไรเสียอีกล่ะครับ…ยอดติดเชื้อใหม่โควิด-19 ของประเทศไทยเรานั่นเอง ทาง ศบค. เพิ่งแถลงเมื่อช่วงเที่ยงๆ ว่า ยอดวันนี้อยู่ที่ 9,489 (อ่านว่าเก้าพันสี่ร้อยแปดสิบเก้า) รายเท่านั้น

นับเป็นวันแรกในรอบ 2 เดือนเศษๆ ที่ผ่านมาที่ตัวเลขติดเชื้อใหม่รายวันของเรากลับลงมาตํ่ากว่า “หลักหมื่น” อีกครั้งหนึ่ง

ผมจำได้ว่าเราอยู่ที่หลัก 9,000 กว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เป็นวันสุดท้าย คืออยู่ที่ 9,692 ราย และจากนั้นพอ 17 กรกฎาคม ก็ขึ้นไปที่ 10,082 ราย เกินหมื่นรายเป็นวันแรก แล้วก็ขึ้นเกินหมื่นตลอดมา

ขึ้นพรวดไปเรื่อยๆ จนเกิน 20,000 ก็เคยอยู่ ก่อนที่จะลดลงมาใหม่ เข้าใกล้หลักหมื่นเมื่อวานนี้ แล้วก็ตํ่ากว่าหมื่นในวันนี้ (28 ก.ย.) อีกครั้ง

รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 เดือนกับ 10 วัน ที่ตัวเลขของเราทะลุหมื่น ก่อนจะลดลงมาเป็นหลักพัน พอให้มีความหวังมีกำลังใจกันได้บ้าง

แม้ตัวเลข 9,692 ราย จะยังสูงมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่เราเคยติดวันละไม่กี่ร้อยในยุคโน้น…แต่พอมาเทียบกับยุควันละหมื่นกว่าๆ ไปจนถึง 2 หมื่นแล้วไซร้…ตัวเลข 9 พันกว่ากลายเป็นตัวเลขที่สวยงามขึ้นมาทันที

ผมก็ได้แต่หวังว่าเราจะคงอยู่ที่หลักพันไปเรื่อยๆ และยิ่งลงไปหลักพันต้นๆ ได้ก็จะดีใจเป็นที่สุด

ผมเคยอ่านคำให้สัมภาษณ์ของคุณหมอบางท่านว่าการระบาดในช่วงที่ 4 หรือเวฟที่ 4 กำลังจะคลี่คลายลง…แม้จะยังมีการแพร่เชื้อติดเชื้อกันอยู่ แต่ก็จะไม่แรงเหมือนช่วงต้นๆ เวฟ

ที่น่าเป็นห่วงก็คือ เจ้าเชื้อโควิดอาจจะมีการกลายพันธุ์ หรือพันธุ์ใหม่ที่กลายเรียบร้อยแล้วจากประเทศอื่นแพร่เข้ามาในบ้านเรา…จนอาจเกิดระบาดในเวฟใหม่ ซึ่งจะเป็นเวฟที่ 5 ได้

ท่านอาจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ท่านโพสต์ไว้เมื่อ 2 วันก่อนว่า ขณะนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯของท่านกำลังอยู่ในระหว่างปฏิบัติตามคำขวัญประจำชาติในอดีตคำขวัญหนึ่ง

นั่นก็คือ “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์” คือช่วงนี้สงครามในสนามรบที่จะต้องสู้กับโควิดเริ่มจะเบาลงมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อันได้แก่ คุณหมอ คุณพยาบาล ของท่านเริ่มจะมีโอกาสพักผ่อนกันบ้าง

ทางโรงพยาบาลเองก็ถือโอกาสซ่อมโน่นซ่อมนี่ต่อเติมห้องผู้ป่วยหอผู้ป่วยให้เข้มแข็งขึ้น…เพื่อเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์นั่นเอง

เพราะไม่แน่ว่าการระบาดรอบที่ 5 หรือเวฟ 5 จะกลับมาเมื่อไร? หากกลับมาโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ จะได้พร้อมรบในทันที

ผมขอภาวนาว่าอย่ากลับมาอีกเลยครับ และหวังว่าพวกเราชาวไทยทั้งหลายคงจะช่วยกันระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎกติกาของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการกลับมารอบใหม่ไม่ให้รวดเร็วจนเกินไป หรือถ้าไม่กลับมาอีกเลยจะดีที่สุดว่างั้นเถอะ

ก็พอดีในวันเดียวกันนี้มีข่าวการผ่อนคลายออกมาตรการต่างๆ มาอีกแยะ ตั้งแต่ขยายเวลาเปิดห้าง เปิดโรงหนัง เปิดสนามกีฬา ลดการกักตัวเข้าไทยเหลือ 7 วัน ฯลฯ รวมไปถึงการเตรียมตัวเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. ของ 10 จังหวัด

ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีเพื่อเป็นการช่วยให้คนไทยเราหายเครียด และมีความสุขกันบ้าง…รวมทั้งเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้นมาบ้างก่อนที่ลมหายใจจะเหลือน้อยลงกว่านี้

แต่ก็คงต้องยึดหลักค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ทำและอย่าประมาทเป็นอันขาด ซึ่งทาง ศคบ.ก็มิได้ประมาท ยังมีการกำหนดเงื่อนไข ปลีกย่อยอีกมาก

ผมได้ข่าวว่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆ ห้างแน่นขนัด ชนิดห้างแทบแตกไปเลย โดยเฉพาะแถวๆ บางนา ทั้งรถทั้งคน เอี้ยดไปหมด

ก็เอาเถอะ เราอัดอั้นมานานแล้ว ขอปลดปล่อยบ้าง…แต่ก็อย่าลืมปฏิบัติตามกฎของการ “ยกการ์ด” อย่างเคร่งครัดด้วยก็แล้วกัน

สวมหน้ากากอนามัย…รักษาระยะห่าง…หมั่นล้างมือ…และสำคัญที่สุดอย่าลืมฉีดวัคซีนเป็นอันขาด…นัดไว้ที่ไหนรีบไปฉีดเลย.

“ซูม”