“โควิด” ทะลวง “ครม.” แล้ว ชาวบ้านอย่างเราๆ ทำไงดี?

ผมหลบไปเขียนเรื่องอื่นๆ ด้วยความสุขใจสลับฉากได้แค่ 2 วัน ต้องกลับมาเขียนเรื่องใหญ่ที่เป็นความทุกข์ทั้งของชาวโลกและชาวไทยอีกแล้วละครับ

เรื่องโควิด-19 อะราวด์เดอะเวิลด์ เจ้าไวรัสวายร้ายที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกนั่นแหละครับ…ตั้งแต่เดือนมกราคมปีกลายมาจนถึงบัดนี้ หนึ่งปีกับ 4 เดือนแล้ว ยังไม่สร่างซาแต่อย่างใด

ทำท่าจะซาให้ชื่นใจได้พักหนึ่งแต่แล้วก็หวนกลับมาใหม่ โดยเฉพาะระดับโลกดูเหมือนจะกลับมาเป็นรอบ 3 แล้วในขณะนี้ และสถานการณ์ของโลกก็ยังหนักมาก ณ นาทีปัจจุบัน

ขณะผมเขียนต้นฉบับบ่ายๆ วันพุธ ยอดติดเชื้อรายวันของโลกก็ยังสูงถึง 576,360 ราย ถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์สูงมาก ทำให้ตัวเลขรวมสะสมของโลกขึ้นไปอยู่ที่ 133 ล้านรายเศษๆ เรียบร้อย

ส่วนยอดเสียชีวิตทั้งโลกวันนี้ก็ยังสูงเช่นกัน…อยู่ที่ 11,802 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมเท่ากับ 2 ล้าน 8 แสนกว่าราย ขยับใกล้หลัก 3 ล้านเข้าไปเรื่อยๆ

ปีเศษๆ มีคนเสียชีวิตไปแล้วเกือบ 3 ล้านรายทั่วโลก และยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนลงง่ายๆ แม้จะมีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางแล้วก็ตาม คงต้องใช้คำพูดว่าโหดร้ายทารุณเหลือเกินเจ้าไวรัสมหาภัยพันธุ์นี้

มาที่บ้านเราบ้าง…ขณะที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ต้องบอกว่าใจสั่นมือสั่นไปหมดละครับ จากข่าวทุกกระแสที่พุ่งเข้ามาสู่โต๊ะข่าวของเรา

โดยเฉพาะข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีอาการไข้ขึ้น ต้องเข้าโรงพยาบาลที่บุรีรัมย์ และในที่สุดก็มีการยืนยันว่าผลการตรวจเชื้อของท่านเป็นบวก

แปลว่าท่านรัฐมนตรีติดโควิด-19 เข้าให้แล้วจริงๆ อย่างที่เป็นข่าวเล่าลือกันมาหลายวัน

ยุ่งกันไปทั้ง ครม.และกระทรวงคมนาคมละครับทีนี้…ท่านเคยประชุมกับใครมาบ้าง พบปะใครมาบ้าง คงต้องเปิดไทม์ไลน์หาบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเพื่อไปตรวจหาเชื้อและกักตัว 14 วัน เพื่อดูอาการตามกฎกติกาของ ศบค.ต่อไป

ที่สำคัญท่านรัฐมนตรีท่านก็มีงานเยอะเสียด้วย ทั้งงานราษฎร์งานหลวงในช่วงนี้ โดยเฉพาะงานทำบุญพรรคภูมิใจไทยเมื่อวันที่ 6 เมษายน ซึ่งนักการเมืองรวมทั้งรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลไปร่วมทำบุญด้วยอีกหลายท่าน

เป็นเหตุให้ต้องไปตรวจเชื้อกันอย่างขนานใหญ่ และคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะมีใครบ้างที่โชคร้ายติดเชื้อไปจากคลัสเตอร์งานทำบุญใหญ่ที่ว่า

นอกจากรายของท่านรัฐมนตรีศักดิ์สยามซึ่งล้มเจ็บแล้ว วันนี้ยังมีข่าวรัฐมนตรีอีกหลายท่านที่ยังไม่ถึงขั้นเจ็บไข้ แต่ต้องกักตัว 14 วันไปด้วย

เพราะพบหรือสัมผัสคุณศักดิ์สยามบ้าง หรือไปพบผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ บ้าง อย่างเช่น ท่านรัฐมนตรีศึกษาธิการ ตรีนุช เทียนทอง ที่มีข่าวว่ามีผู้มาแสดงความยินดีแก่ท่านติดเชื้อโควิด-19 จึงจำเป็นที่ท่านจะต้องกักตัวด้วยเช่นกัน แมผลการตรวจเชื้อจะไม่พบอะไรก็ตาม

ส่วนท่านรอง วิษณุ เครืองาม ซึ่งประชุมร่วมกับคุณตรีนุช ก็มีข่าวว่าขอลาไปกักตัวอีกราย แม้ระหว่างประชุมจะสวมหน้ากากตลอด แต่เพื่อความสบายใจคงต้องกักตัวเอาไว้ก่อน

ฯลฯ และ ฯลฯ แปลว่ายังมีข่าววุ่นๆ ของรัฐมนตรีและลามไปถึงท่าน ส.ส.หรือ ส.ว.ด้วยอีกมากมายหลายข่าว แต่ผมไม่มีเนื้อที่จะเขียนถึง จึงขอใส่เครื่องหมาย ฯลฯ เอาไว้ด้วยประการฉะนี้

ในขณะที่ยอดติดเชื้อของประเทศไทยเราในวันนี้ (7 เม.ย.64) ก็พุ่งไปถึง 334 ราย มากกว่าเมื่อวานซึ่งสูง 250 ราย เสียอีก…ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมของเราไปอยู่ที่ 29,905 ราย

กว่าต้นฉบับผมจะตีพิมพ์คงจะเกิน 30,000 อย่างแน่นอน

สรุปว่ามาถึงจุดนี้ สถานการณ์บ้านเราค่อนข้างหนักหน่วงจริงๆ ครับ ผมไม่อยากใช้คำว่าเข้าขั้นวิกฤติ เพราะจะทำให้ตื่นตระหนกเกินไป

ถึงเวลาที่เราจะต้องเริ่มคุมเข้มตัวเราเองอีกครั้งหนึ่งละครับ ไม่ว่ามาตรการล่าสุดของ ศบค.จะออกมาอย่างไร?

ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราจะต้องใช้นโยบาย “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” อย่างเข้มงวด ด้วยความสมัครใจกันอีกครั้ง

จะต้องทำงานที่บ้าน, เดินทางให้น้อยที่สุด, พบปะผู้คนให้น้อยที่สุด, ลดการออกไปกินอาหารนอกบ้าน, งดออกไปบันเทิงนอกบ้าน ฯลฯ

ไม่งั้นเอาไม่อยู่ละครับ โควิด-19 ระลอก 3 ที่กำลังระบาดในประเทศไทย

ลงได้กองบัญชาการสูงสุดในการสู้โควิด–19 อย่างคณะรัฐมนตรียังโดนทะลวงได้แบบนี้…แนวรบอื่นๆ จะต้านไหวได้ยังไงล่ะ?

“ซูม”

ข่าว, โควิด19, ประเทศไทย, ติดเชื้อ, รัฐมนตรี, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ, วิษณุ เครืองาม,​ ซูมซอกแซก