ตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 4% ยากส์! แต่ก็เอาใจช่วย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดเผยผ่านรายการ “นายกรัฐมนตรีเล่าเรื่อง” ในเพจไทยคู่ฟ้าว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีนี้ให้ขยายตัวเฉลี่ยถึงร้อยละ 4 ให้จงได้

ท่านยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง แต่ถ้าทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจในการผลักดันก็เป็นไปได้ที่จะประสบผลสำเร็จ

โดยในส่วนของรัฐบาลนั้นพร้อมที่จะเร่งดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและแบ่งเบาภาระผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่เศรษฐกิจไทยสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเต็มที่

รวมทั้งความพยายามที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งจะมีส่วนสำคัญยิ่งในการที่จะทำให้แผนเปิดประเทศเพื่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะค่อยๆ กลับคืนมา

ก่อนหน้านี้เพียงวันเดียวในการสัมมนา “ปี 2021 ประเทศไทยไปต่อ” ของหนังสือพิมพ์มติชน…รองนายกรัฐมนตรี สุพัฒนพงษ์พันธ์มีเชาว์ ก็ได้กล่าวในการแสดงปาฐกถาพิเศษว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 4 ให้จงได้

ท่านรอง สุพัฒนพงษ์ ให้เหตุผลว่าที่รัฐบาลเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4 แม้สถาบันต่างๆ จะคาดว่าน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2 กว่าๆ หรือ 3 กว่าๆ ก็เพราะขณะนี้ตัวเลขการออมเงินของคนไทยสูงขึ้นกว่า 11 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นวงเงินถึง 1.5-1.6 แสนล้านบาท

ถ้าสามารถนำเงินก้อนนี้ออกมาใช้จ่ายได้ก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะโตร้อยละ 3 กว่านั้น ให้เป็นร้อยละ 4 ได้อย่างแน่นอน

ท่านได้สั่งการให้กระทรวงการคลังหามาตรการจูงใจให้ประชาชนนำเงินฝากก้อนมหึมาก้อนนี้ออกมาใช้จ่าย หรือนำไปลงทุนให้มากที่สุดที่จะมากได้ เพื่อการเดินไปถึงเป้าหมายร้อยละ 4 ดังกล่าว

ต้องยอมรับว่าการที่จะผลักดันการขยายตัวของจีดีพีปีนี้ไปถึงเป้าหมายที่ว่านี้แม้จะมีทางเป็นไปได้แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

รัฐบาลไทยจะต้องทำงานหนักมากกว่านี้ และภาคเอกชนไทยก็จะต้องให้ความร่วมมือด้วยอย่างเต็มที่

ก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกประจำประเทศไทยเพิ่งปรับตัวเลขการพยากรณ์เศรษฐกิจเสร็จหมาดๆคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้เต็มที่ประมาณร้อยละ 3.4 เท่านั้น

ท่านมองว่าเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมาพึ่งพาการท่องเที่ยวต่างประเทศ สูงมากถึง 13-15 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี

แต่ปีนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเปิดประเทศได้เมื่อไรจึงเป็นการยากที่จะเร่งการเพิ่มจีดีพีให้ได้มากไปกว่านี้

อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกท่านนี้ก็แสดงความชื่นชมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในหลายๆประเด็น โดยเฉพาะงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยซึ่งอยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีถือว่าค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

สำหรับตัวผมเองมองว่าเป้าหมายเพิ่มจีดีพี 4 เปอร์เซ็นต์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างแน่นอนแต่ก็ไม่ขัดข้องอะไรที่จะตั้งเป้าสูงไว้

เพราะในการทำงานอะไรก็ตาม เราควรจะตั้งความหวังให้สูงไว้ก่อนจากนั้นก็หาทางเดินไปสู่ความหวังอย่างเต็มที่…ได้แค่ไหนก็แค่นั้น

ผมมองว่าเศรษฐกิจโลกยังไม่ชัดเจนนักว่าจะฟื้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวของโลกผมไม่แน่ใจว่าจะกลับคืนมาง่ายๆ

การระบาดทั่วโลกยังแรงอยู่ ทำท่าจะแผ่วแล้วก็กลับพุ่งขึ้นมาอีก แม้แต่ในสหรัฐฯ และยุโรปที่ว่ามีการฉีดวัคซีนไปมากแล้วก็ตาม

นอกจากสถานการณ์โควิด-19 โลกและเศรษฐกิจโลกจะไม่ค่อยแน่นอน อันจะส่งผลในเชิงลบต่อการค้าโลกและการท่องเที่ยวโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมาที่บ้านเราแล้ว

เราเองก็ยังมีปัญหาด้านการเมืองที่น่ากังวลใจ ทั้งในแง่การเมืองในสภาและการเมืองในท้องถนน ซึ่งก็ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวแรงเดี๋ยวเบาอยู่ตลอด…ล่าสุดดูเหมือนจะกลับมาแรงอีกแล้ว

จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่บิ๊กตู่กับคณะของท่านจะผลักดันหรือขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแลนด์ให้ไปถึง 4 เปอร์เซ็นต์อย่างที่คาดหวัง

แต่ก็เอาเถอะครับ มองจากมุมเศรษฐกิจ…ยังไงๆ ก็ต้องให้กำลังใจสิ่งที่บิ๊กตู่และทีมงานเศรษฐกิจของท่านกำลังคิดกำลังทำอยู่…

ขอให้โชคดีนะครับบิ๊กตู่และท่านรองฯ สุพัฒนพงษ์…ไม่ได้ 4 เปอร์เซ็นต์ ก็ขอให้ได้ 3.9 เปอร์เซ็นต์นะครับ ยังไงๆ ก็ดีกว่า 3.4 เปอร์เซ็นต์ ที่ธนาคารโลกคาดไว้ละน่า.

“ซูม”

ข่าว, เศรษฐกิจ, จีดีพี, การเมือง, ไทย, ขยายตัว, ซูมซอกแซก