“ยกการ์ด” ให้สูงไว้ จะได้ไม่ต้อง “ล็อกดาวน์”

นี่แหละที่ผู้หลักผู้ใหญ่รุ่นเก่าๆ ท่านพูดกันอยู่เสมอว่า คนเราเวลามีเคราะห์ หรือมีเรื่องร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นละก็มักจะมีซ้ำๆ ซากๆ  ตามมาอยู่เสมอๆ

จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้พร้อมเพื่อรับสถานการณ์ร้ายๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กรณีการติดเชื้อโควิด-19 ของคนไทยเราในช่วงนี้นั่นแหละครับ ที่เป็นไปดังเช่นคำสอนคำเตือนของผู้หลักผู้ใหญ่เป๊ะเลย

คือหลังจากที่เกิดเรื่องเพราะสตรีกลุ่มหนึ่งที่ไปทำมาหารับประทานด้วยอาชีพอะไรสักอย่างหนึ่งที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แล้วลักลอบกลับเข้าประเทศไทยที่อำเภอแม่สายโดยช่องทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ผ่านการกักตัว 14 วันตามกฎกติกา

จากนั้นเธอๆ ทั้งหลายก็ออกท่องเที่ยวเดินทางอุตลุดไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ รวมถึงกรุงเทพมหานคร, พิษณุโลก, พิจิตร และราชบุรี ฯลฯ

ต่อมาปรากฏว่าหลายๆ คนของเธอติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้ารับการรักษาตัว ทำให้ความแตกว่าเธอลักลอบกลับมาโดยไม่กักตัวดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เกิดความหวั่นวิตก เพราะไม่ทราบว่าเธอจะเอาเชื้อไปเผยแพร่ที่ไหนบ้าง? โกลาหลอลหม่านไปทั่ว

ที่น่าเห็นใจมากก็คือจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ที่ชัดเจนว่าเธอๆ เหล่านี้ไปเที่ยวแบบกระจาย ทำให้คนไทยที่กำลังจะไปเที่ยวเชียงใหม่ เชียงรายหวาดวิตก…โดยเฉพาะที่เชียงรายถึงขนาดยกเลิกการจองห้องพัก ยกเลิกการเดินทางไปท่องเที่ยวกันเป็นแถวๆ

ทั้งๆ ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว อากาศในภาคเหนือกำลังหนาวเย็น คนไทยจากภาคอื่นๆ นิยมไปสัมผัสความเย็น…ถือเป็นช่วงไฮซีซัน…แต่แล้วรายได้กลับตกฮวบฮาบ เพราะสาวๆเหล่านี้เป็นเหตุ

ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายถึงกับโอดครวญและขู่ว่าอาจจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบรรดาสาวๆ ที่ไม่รับผิดชอบดังกล่าว

สื่อมวลชนต่างๆ รวมทั้งพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ติดตามข่าวนี้ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิติติงผู้ที่ข้ามไปประกอบอาชีพที่ฝั่งพม่าไปตามๆ กัน ที่เห็นแก่ตัว ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่

ผมเองทั้งบ่นทั้งตำหนิในระหว่างสนทนากับเพื่อนๆ ไปแล้วหลายครั้ง วันนี้มีโอกาสเขียนถึงข่าวนี้ก็ขออนุญาตบ่นและตำหนิอย่างเป็นทางการเอาไว้ด้วยก็แล้วกัน

ขณะเดียวกันก็ถือโอกาสวิงวอนขอร้องผู้ที่ยังตกค้างอยู่ที่โน่น ซึ่งผมไม่ทราบว่าจะมีอีกหรือไม่…ถ้ามีก็ขอให้กลับมาทางช่องทางของราชการเถิด อย่าได้หลบหนีไปทางช่องธรรมชาติอีกเลย

มากักตัวกันเสียตามกฎกติกา…ใครเป็นใครติด ทางคุณหมอทางสาธารณสุขเขาจะได้ดูแลรักษาให้ และขณะเดียวกันก็จะสามารถช่วยควบคุมไม่ให้โควิด-19 ที่คุณติดมาแพร่ระบาดไปสู่ประชาชนส่วนใหญ่ได้อีกด้วย

ครับ! ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของเคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นจากความไม่รับผิดชอบของคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นข่าวมาหลายวัน

ล่าสุดก็มีเคราะห์ที่เกิดขึ้นมาอีก คราวนี้เป็นเคราะห์ที่น่าเห็นใจ และสมควรแก่การได้รับกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง

วันที่ผมเขียนต้นฉบับนี่แหละมีข่าวว่าประเทศไทยเรามีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ถึง 19 ราย ส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างประเทศและป่วยในระหว่างกักตัว จึงส่งไปรักษาพยาบาลแล้ว

แต่ก็มีอยู่ 4 ราย ถือว่าเป็นการติดเชื้อในประเทศ เพราะท่านเป็น บุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่สถานกักกันโรคทางเลือกแห่งหนึ่ง

ทั้ง 4 ท่านไม่มีรายละเอียดว่าเป็นแพทย์ เป็นพยาบาล หรือบุรุษพยาบาล เพราะเขาใช้คำว่า “บุคลากรทางการแพทย์” รวมๆ กันไป

ซึ่งก็มีตัวอย่างมาให้เห็นแล้วในหลายๆ ประเทศว่าแม้จะป้องกันตัวเองเต็มที่แต่ก็อาจพลาดพลั้งไปได้บ้าง เพราะงานของท่านนั้นเสี่ยงเหลือเกิน

ผมขอให้กำลังใจและขอเอาใจช่วยให้หายเร็วๆ นะครับ เพราะท่านต้องมาล้มป่วยด้วยการปฏิบัติหน้าที่ที่เสี่ยงอย่างมาก ในฐานะด่านหน้าที่จะปกป้องโรคนี้มิให้ระบาดเข้าสู่ประเทศไทย

บทสรุปสำหรับสถานการณ์โควิดในขณะนี้ก็คือ…ขอให้ตระหนักไว้แต่อย่าตระหนก…และขอให้รีบกลับมายกการ์ดป้องกันตัวเองด่วน เพื่อไม่ให้สถานการณ์รุนแรงไปกว่านี้

ยกการ์ดสูงๆ ไว้ครับ จะได้ไม่ต้องกลับไปล็อกดาวน์กันอีกหน… ท่องประโยคนี้ไว้เลยครับ.

“ซูม”

โควิด, สถานการณ์, โรค, ประเทศไทย, ติดเชื้อ, ช่องทาง, ธรรมชาติ, กรุงเทพมหานคร, ซูมซอกแซก