ผมเขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านเมื่อวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคมว่า…ผมมีความตั้งใจอย่างสูงยิ่งที่จะไปร่วมในพิธีจุดเทียนรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 “พ่อของแผ่นดิน” ณ ท้องสนามหลวง พร้อมๆ กับพี่น้องประชาชนที่ผมเชื่อมั่นว่าจะต้องไปร่วมพิธีอย่างล้นหลามแน่นอน
แต่หากไม่สามารถไปร่วมได้ด้วยเหตุผลใดก็ตามผมก็จะนั่งเฝ้าจอทีวีเพื่อชมการถ่ายทอดสด และส่งใจไปร่วมกับพี่น้องที่ท้องสนามหลวง เหมือนที่เคยปฏิบัติมาเมื่อครั้งพระองค์ท่านยังทรงพระชนม์ชีพ
ผลปรากฏว่า ผมเลือกวิธีที่สองครับ เพราะเช็กข่าวตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ กับน้องๆ โต๊ะข่าวไทยรัฐ ทราบว่าพี่น้องประชาชนเดินทางกันไปสนามหลวงแล้วอย่างเนืองแน่นมาก คงไม่สะดวกแน่ๆ หากคนสูงอายุอย่างผมจะไป เบียดเสียดกับพี่น้องประชาชนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การนั่งดูที่บ้านก็ได้ความซาบซึ้งและความตื้นตันใจ ไปอีกแบบหนึ่ง…เนื่องจากโทรทัศน์ของเรายุคนี้ ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลนั้นคมชัดมาก
สามารถเก็บภาพและถ่ายทอดภาพผู้คนจำนวนมหาศาลที่รอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่เสด็จฯ ไปทรงร่วมพิธีกับพี่น้องประชาชนชาวไทย ณ ท้องสนามหลวง เป็นครั้งแรกมาให้ผู้ชมทางบ้านได้ดูชมอย่างชัดเจน และครบถ้วนในทุกแง่มุม
นำมาซึ่งความประทับใจอย่างใหญ่หลวงของประชาชนชาวไทยที่ได้เห็นภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำให้ผมตัดสินใจว่าวันรุ่งขึ้น (อาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม) ซึ่งยังมีงาน “วันพ่อแห่งชาติ” ที่รัฐบาลจัดขึ้น ณ บริเวณรอบๆ พระบรมมหาราชวัง เหลืออีก 1 วันนั้นผมไม่ควรพลาดโอกาสอีกแล้ว
เพราะผู้คนย่อมจะเบาลงไม่แน่นขนัดเหมือนวันที่ 5 ธันวาคม จึงน่าจะมีพื้นที่ให้ผู้สูงอายุอย่างผมสามารถเดินไปมาได้โดยไม่ต้องเบียดเสียดผู้คนอื่นๆ มากนัก
ว่าแล้วเวลาประมาณ 5 โมงเย็นเศษๆ ของวันที่ 6 ธันวาคมผมก็วานให้ลูกๆ ขับรถไปส่งในจุดที่ใกล้ๆ บริเวณงานที่สุด ซึ่งก็ปรากฏว่าเข้าไปได้จนถึงหน้ากระทรวงกลาโหมเลยทีเดียว
ที่ผมเดาผิดไปบ้างก็ตรงที่เดาว่าผู้คนจะไม่หนาแน่นมากนักแต่ที่ไหนได้พอไปเข้าจริงๆ ก็พบว่าผู้คนยังคงเดินทางมาอย่างมากมายไม่ขาดสายไม่ขาดตอนเลยจากช่วงเย็นๆ ไปจนถึงหัวค่ำ
โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว กล่าวได้ว่าผู้คนแน่นพอๆ กับช่วงเทศกาลปีใหม่หรืออาจจะมากกว่าด้วยซํ้า
แต่ด้วยระบบการจัดระเบียบที่ดีของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ทำให้ผู้คนที่แน่นขนัดรอบๆ พระอุโบสถสามารถเข้าไปกราบสักการะในบริเวณพระอุโบสถได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งผมด้วยในที่สุด
เมื่อออกจากวัดพระแก้วมาแล้ว ผมก็ใช้เวลาในการเดินชมนิทรรศการทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีมาออกร้านตั้งแต่หน้ากระทรวงกลาโหม ไปจนสุดถนนสนามไชย ด้วยความเพลิดเพลินไปโดยตลอด
บางช่วงเวลาก็จะมีขบวนพาเหรดการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ออกมาเดินให้ประชาชนดูชมช่วยเติมบรรยากาศให้คึกคักมากยิ่งขึ้น
ยิ่งค่ำผู้คนก็ยิ่งแน่น และยิ่งค่ำเราก็ยิ่งเห็นความงดงามของดวงไฟที่ประดับอยู่รอบๆ ทั้งรอบรั้วพระบรมมหาราชวังและกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ในบริเวณดังกล่าว…สวยสดงดงามอย่างบอกไม่ถูก
เป็นความสุข และความประทับใจที่ผมจะจดจำรำลึกไว้ตลอดไป และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนนับแสนๆ คนที่ไปร่วมงานนี้ โดยเฉพาะที่ไปอย่างล้นหลาม เมื่อวานนี้ (5 ธันวาคม) จะจดจำไปชั่วกาลนานเช่นกัน
ที่น่าภูมิใจก็คือคนไปร่วมงานมิใช่จะมีเฉพาะท่าน ส.ว. หรือคนสูงวัยรุ่นผมเท่านั้น…ผมพบว่ายังมีคนหนุ่มคนสาวและเด็กๆ อีกจำนวนมากอาจจะมากกว่าผู้สูงอายุเสียอีกที่ไปร่วมงานทั้งที่สนามหลวงและสนามไชย
นี่คือพี่น้องชาวไทยที่มีความจงรักภักดี และยึดมั่นในสถาบันหลักทั้ง 3 ของประเทศ อันได้แก่ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”
นี่คือพี่น้องชาวไทยที่จะร่วมมือกันสร้างสรรค์ จรรโลงและปกป้องสถาบันหลักทั้ง 3 ของเราให้อยู่ยั่งยืนยงไปตราบนานเท่านานในวันข้างหน้า
ก็ขอฝากไว้กับคนรุ่นหลังจำนวนมากมายมหาศาลที่ผมพบเห็นทั้งจากจอโทรทัศน์ และที่ไปสัมผัสด้วยตนเองในวันรุ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
อย่าให้ใครที่ไหนมาทำลาย “ความงดงาม” ของ 3 สถาบันหลัก ของเราเป็นอันขาดนะครับ เพราะนี่คือ “เอกลักษณ์ไทย” ที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในโลกอย่างแท้จริง.
“ซูม”