สำหรับคนรุ่นผมที่เกิดในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 และต่อเนื่องมาเล็กน้อยที่เรียกกันว่า Silent Generation หรือบางครั้งก็โดนแซวว่ารุ่น “มนุษย์ปู่” นั้น ส่วนใหญ่จะมีนักฟุตบอลในดวงใจ หรือนักฟุตบอลที่รักมากชอบมากอยู่ 2 คน
คนแรกก็คือ “เปเล่” หรือ “เจ้าไข่มุกดำ” แห่งบราซิล อายุครบ 80 ปีบริบูรณ์ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา…แม้จะมีข่าวเรื่องเจ็บป่วยกระเสาะกระแสะอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู
ส่วนคนที่สองก็คือ ดิเอโก มาราโดนา หรือ “เสือเตี้ย” แห่งทีมชาติอาร์เจนตินา ฟ้าขาว ที่อายุเพิ่งครบ 60 ปีบริบูรณ์ เมื่อปลายเดือนตุลาคม…แต่อีกไม่ถึงเดือนถัดมา (26 พ.ย. ตามเวลาบ้านเรา) ก็ถึงแก่กรรมอำลาจากโลกนี้ไปด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
นำความช็อก ความเสียดาย และความอาลัยมาสู่แฟนลูกหนังรุ่น “มนุษย์ปู่” อย่างพวกผมสุดที่จะประมาณได้
แฟนบอลไทยส่วนใหญ่ เริ่มรู้จักชื่อเสียงเรียงนามและในที่สุดก็ยกนิ้วให้ ดิเอโก มาราโดนา รวมทั้งกลายเป็นแฟนติดตามเขาอย่าง เหนียวแน่น นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 หรือ ค.ศ.1986 ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 13 ที่เม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ เป็นต้นมา
“เสือเตี้ย” สร้างตำนานไว้ถึง 2 ตำนาน ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งดังกล่าว…ตำนานแรกก็คือ การใช้มือช่วยในการทำประตู 1 ประตู ในการแข่งขันกับทีมชาติอังกฤษในรอบ 8 ทีม ส่งผลให้ทีมฟ้าขาวขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 51
ถ้าเป็นยุคนี้ซึ่งมีระบบ VAR ใช้กล้องทีวีช่วยในการตัดสิน เขาน่าจะโดนริบประตูนั้น เพราะชัดเจนมากว่า “แฮนด์บอล”
แต่เมื่อเป็นยุคโน้นและมันเกิดขึ้นเร็วจนกรรมการผู้ตัดสินมองไม่เห็น ทำให้อาร์เจนตินาได้ประตู…แล้วประตูนั้นก็ได้รับการขนานนามว่า “หัตถ์พระเจ้า” ตราบมาจนถึงวันนี้
สำหรับตำนานที่ 2 ก็อยู่ในแมตช์เดียวกันนี่แหละ…คือหลังจากประตู “หัตถ์พระเจ้า” ที่น่ากังขาแล้ว ดิเอโก มาราโดนา ก็ยิงได้อีก 1 ประตู ในอีก 4 นาที ถัดมา ทำให้อาร์เจนตินาขึ้นนำ 2-0
เสือเตี้ยลากบอลจากแดนของเขาเองผ่านกลางสนาม แล้วก็เลื้อยผ่านนักเตะอังกฤษถึง 4 คน ได้แก่ ปีเตอร์ เบียร์ดลีย์, ปีเตอร์ รีด, เทอร์รี บุชเชอร์ และเทอร์รี เฟนวิค แล้วก็เทอร์รี บุชเชอร์ อีกครั้งก่อนจะซัลโวผ่านมือของนายทวาร ปีเตอร์ ชิลตัน ในที่สุด
นี่คือประตูที่ได้รับการโหวตจากแฟนบอลทางออนไลน์ ในปี 2002 ให้เป็น “ประตูแห่งศตวรรษ” หรือ “Goal of the Century” และยังไม่มีการโหวตครั้งใหม่มาหักล้างแม้จนบัดนี้
ผมไม่แน่ใจว่า คนไทยเราจะได้ดูการถ่ายทอดสดนัดนี้หรือไม่ เพราะช่วงนั้นเรามักถ่ายสดเฉพาะคู่เปิดสนาม แล้วก็คู่ชิงชนะเลิศเท่านั้น…อย่างมากก็ได้ดูสดรอบเซมิไฟนอลแถมให้ในบางปี
แต่เหตุการณ์ “หัตถ์พระเจ้า” และการยิงประตู “แห่งศตวรรษ” ที่ว่าเกิดขึ้นในรอบ 8 ทีม หรือควอเตอร์ไฟนอล ซึ่งยุคนั้นยังไม่ถ่ายทอด
ส่วนในนัดชิงคนไทยได้ดูถ่ายทอดสดตั้งแต่ต้นจนจบและร่วมเป็นสักขีพยานในชัยชนะ 3-2 ของทีมฟ้าขาวเหนือทีม เยอรมันตะวันตก ซึ่งแม้มาราโดนาจะซัลโวประตูไม่ได้เลย แต่ก็เล่นได้อย่างโดดเด่นมาก
ที่สำคัญในรอบเซมิไฟนอลซึ่งพิชิต เบลเยียม ไป 2-0 นั้น…“เสือเตี้ย” ซัลโวคนเดียวทั้ง 2 ประตู
ทำให้ ดิเอโก มาราโดนา เข้าสู่ทำเนียบนักเตะในดวงใจคนหนึ่งของคนไทยนับแต่นั้นมา
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1986 นั้น เป็นการทายผลฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ของไทยรัฐ (ครั้งแรกปี 1982 ที่ สเปน เป็นเจ้าภาพ และ อิตาลี ได้แชมป์)
ช่วงนั้นยังไม่มีการจัดเก็บสถิติที่สมบูรณ์ แต่ประมาณว่ามีผู้ส่งไปรษณียบัตรมาร่วมทายผลกับไทยรัฐในนัดที่มาราโดนา และฟ้าขาวเป็น แชมป์โลกในปีดังกล่าวกว่า 20 ล้านฉบับ
ก็ขอสรุปส่งท้ายคอลัมน์วันนี้ด้วยความรักความอาลัยเป็นอย่างยิ่ง และขอให้ดวงวิญญาณของ “อัจฉริยะลูกหนัง” ซึ่งบัดนี้ได้กลับคืนไปสู่ “หัตถ์พระเจ้า” แล้ว จงสุขสงบตราบกาลนิรันดร์.
“ซูม”