เมื่อ 2 วันก่อนมีข่าวใหญ่อยู่ข่าวหนึ่งเกิดขึ้นในบ้านเรา แต่โดนข่าวม็อบกลบเสียจนกลายเป็นข่าวเล็กไปถนัดใจ ข่าวสุภาพสตรีชาวฝรั่งเศสมาติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ผ่านการกักตัว 14 วัน จึงออกไปเที่ยวพักผ่อนที่สมุย…แล้วก็ไปเกิดอาการขึ้นที่นั่น…นั่นแหละครับ
ผมขออนุญาตหยิบข่าวนี้มาเขียนถึงสลับข่าวม็อบสักวันนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ผมเห็นว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทยและคนไทยไม่แพ้ข่าวม็อบเช่นกัน
กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า สุภาพสตรีฝรั่งเศสรายนี้ติดเชื้อในประเทศไทยเราแน่นอน เพราะสอบสวนโรคย้อนหลังกลับไปแล้วไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าติดมาจากประเทศต้นตอที่เธอเดินทางมา
ขณะเดียวกันกลับไปพบเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ห้อง “ฟิตเนส” หรือห้องออกกำลังกายของโรงแรมในจังหวัดสมุทรปราการที่เป็นโรงแรมกักตัวสตรีฝรั่งเศสนั่นเอง…จึงน่าจะเป็นไปได้ที่เธอติดมาจากห้องฟิตเนสดังกล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้แปลความได้ว่า มี “เชื้อโควิด-19” อยู่ในประเทศไทยของเราแน่นอน อาจจะไม่มากเหมือนที่อื่นแต่ก็มีแน่ๆ
จึงจำเป็นที่เราจะต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เชื้อโควิด-19 ซึ่งมีอยู่บ้างในประเทศไทยเราดังกล่าวแพร่เชื้อหรือระบาดออกไปจนกลายเป็นมีมาก หรือระบาดหนักมากรอบ 2 แบบที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ผมยังคงติดตามสถานการณ์ “โควิด-19” อะราวนด์ เดอะเวิลด์” ตามประสาคนแก่ที่มีเวลาว่างก็ค้นนั่นอ่านนี่แก้เหงาไปเรื่อยๆ
ขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่าสัปดาห์ที่ผ่านมานับจากวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม มาจนถึงวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม สถานการณ์โควิด-19 ของโลกอยู่ในขั้น “น่าห่วงใย” อย่างมากครับ
มีการติดเชื้อใหม่วันละ 3 แสนกว่ามาตลอด ซึ่งก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่ากังวลใจอยู่แล้ว…ปรากฏว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม, วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม และวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม ตัวเลขติดเชื้อใหม่ทั่วโลกกระฉูดทะลุ 450,000 รายต่อวันถึง 3 วันติดต่อกัน น่ากังวลใจขึ้นอีกหลายเท่า
ประเทศที่หนักมากก็คือ สหรัฐอเมริกากับประเทศในยุโรปนั่นเอง
สหรัฐฯ ที่ทำสถิติติดเชื้อใหม่ในวันเดียวถึง 81,210 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และรุ่งขึ้นวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. ก็ยังสูงถึง 79,449 ราย
ของยุโรปเพิ่มกันประเทศละหมื่นรายกว่าต่อวันหลายประเทศ และที่หนักสุดลอตนี้คือ ฝรั่งเศส ที่พุ่งเกินวันละ 40,000 ราย ถึง 2 วันซ้อน คือวันศุกร์กับวันเสาร์ จนถึงขั้นต้องประกาศ “เคอร์ฟิว” ไปกว่า 20 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ
สหราชอาณาจักรก็ไม่เบา วันละ 2 หมื่นกว่าราย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายวัน แม้วันอาทิตย์ก็ยังปาเข้าไปถึง 23,012 ราย
ที่สเปน, อิตาลี, เยอรมนี ฯลฯ เกินหลักหมื่นต่อวันทั้ง 3 ประเทศ
กลุ่มประเทศละตินอาจจะทรงตัวไปพอสมควร แต่กระนั้นก็ยังติดใหม่วันละ 10,000 ขึ้นไปจนถึง 20,000 ขึ้น อย่างบราซิลเป็นต้น
อินเดียดูลดไปจากวันละ 8 หมื่น หรือ 7 หมื่น…แต่ล่าสุดก็ยังอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นกว่าต่อวัน ซึ่งต้องถือว่ายังแยะอยู่ดี
สำหรับข้างบ้านเราที่เคยมีข่าวอยู่ 2 ประเทศ คือเมียนมากับมาเลเซียก็ยังหนักอยู่ครับ
เมียนมา สัปดาห์ที่แล้วติดเชื้อวันละ 1,000 กว่ารายทุกวัน รวมถึงวันอาทิตย์ติดวันเดียว 1,400 กว่าราย จนยอดสะสมของเมียนมามาอยู่ที่ 43,788 ราย และเสียชีวิตทั้งหมดกว่า 1,000 รายเข้าไปแล้ว
มาเลเซียก็ยังติดวันละ 700-800 ราย จนถึงล่าสุดเมื่อวันเสาร์ 1,228 ราย ถือว่าเยอะมาก
นี่คือภาพสรุปอย่างย่อที่สุดเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังคงแรงอยู่ และอาจจะแรงไปอีกนาน…เป็นเรื่องที่เราประมาทไม่ได้เลย
แน่นอน…เรื่องการเปิดประเทศ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่องการที่จะให้ทุกสิ่งกลับมาเหมือนเดิม ผู้คนจะได้ออกมาใช้จ่ายออกมาเที่ยวดังเดิมตามสถานที่ ตามเมืองตามจังหวัดที่ควรแก่การเที่ยว ทั้งคนไทยเราเองและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นนโยบายที่จำเป็นต้องทำ
ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ เพียงแต่ต้องย้ำว่า ขอให้ทำด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่เท่านั้น
สำหรับพวกเราประชาชนทั่วไปก็ขอให้สวมหน้ากาก ล้างมือเว้นระยะห่างเท่าที่จำเป็นกันต่อไป…อย่าเพิ่งเบื่ออย่าเพิ่งรำคาญนะครับ
เพราะไวรัสวายร้ายโควิด–19 ยังไม่ไปไหน ยังอาละวาดอยู่ทั่วโลก และที่ข้างบ้านเรานี่เอง…เผลอวันไหนกลับมาระบาดในบ้านเราวันนั้น ประมาทไม่ได้เลยครับ.
“ซูม”