ในที่สุดหวยรัฐมนตรีคลังก็ออกมาเรียบร้อย ปรากฏว่าเป็นไปตามชื่อที่สื่อคาดไว้เป๊ะ ได้แก่ คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ในรัฐบาล คสช.ชุดสุดท้ายของบิ๊กตู่นั่นเอง
ท่านผู้อ่านคงจำได้ ทันทีที่มีข่าวว่าบิ๊กตู่ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อ รมว.คลังแล้วนั้น สื่อทุกสำนักต่างก็ฟันธงไปที่คุณอาคมอย่างเป็นเอกฉันท์ พร้อมกับอ้างว่าบิ๊กตู่ต้องตั้งคุณอาคมแน่ๆ ด้วยเหตุผลที่คล้ายๆ กัน
บทวิเคราะห์ของสื่อสำนักหนึ่งให้เหตุผลข้อแรกที่บิ๊กตู่จะเลือก “อาคม” ว่าเป็นเพราะท่านคือ 1 ในผู้ใกล้ชิด จะเรียกว่า “คนในบ้าน” ที่บิ๊กตู่รู้มือรู้ใจก็ไม่ผิดนัก
เหตุผลที่สอง ดูจากโปรไฟล์ประวัติการทำงาน “อาคม” เป็นข้าราชการประจำที่เกือบทั้งชีวิตรับราชการในสังกัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ลุงปลื้มนักปลื้มหนา… โดยตำแหน่งสุดท้ายของคุณอาคมก็คือ เลขาธิการสภาพัฒน์ นั่นเอง
ผมเห็นด้วยกับบทวิเคราะห์นี้ครับ และขอสนับสนุนการตัดสินใจของบิ๊กตู่พร้อมด้วยเหตุผลเพิ่มเติมส่วนตัวของผมที่ว่า ถ้า “บิ๊กตู่” หาใครไม่ได้แล้วจริงๆ คุณอาคมก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
กล่าวไปแล้วควรจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ด้วยซ้ำ เพราะคุณอาคมนั้นมีคุณสมบัติเหมาะสมทุกประการที่จะรับตำแหน่งนี้
แต่เข้าใจว่าคุณอาคมคงไม่ยอมรับช่วงนั้น เพราะอยากพักผ่อนบ้าง เพราะตั้งแต่เกษียณมา 4-5 ปี ยังไม่ได้พักผ่อนเลย
เมื่อบิ๊กตู่ไปทาบทามครั้งแรกท่านจึงปฏิเสธ
ดังนั้น เมื่อมีพระบรมราชโองการฯ อย่างชัดเจนแล้วเช่นนี้ ผมก็ขอแสดงความยินดีและขอขอบคุณที่ท่านยอมรับตำแหน่งที่จะเหนื่อยและหนักมากนับแต่วันแรกที่ท่านเริ่มงาน
แม้ในช่วงที่ผมทำงานอยู่สภาพัฒน์จะไม่เคยทำงานกับท่าน แต่จากการที่ท่านเป็นดาวรุ่งคนหนึ่งของ สภาพัฒน์ ที่ได้รับทุนและได้รับการคัดเลือกให้ไปเรียนปริญญาโทด้านการพัฒนาเศรษฐกิจที่ William College ซึ่งเป็นหลักสูตรที่โด่งดังมาก จึงเป็นที่กล่าวขวัญถึงของข้าราชการทั่วไป และทำให้ผมเริ่มรู้จักท่านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
William College เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยหมายเลข 1 ในการสอนวิชา Liberal Arts หรือ ศิลปศาสตร์ ของสหรัฐฯ จากการจัดอันดับของหลายๆ สถาบันที่มีชื่อเสียงรวมทั้ง US News World Reports อันโด่งดัง
ต่อมา William College ได้มีการเปิดหลักสูตรปริญญาโทว่าด้วย “การพัฒนาเศรษฐกิจ” และก็กลายเป็นหลักสูตรที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติอย่างมากเช่นกัน
แต่ละปีตัวแทนมหาวิทยาลัยจะบินไปคัดเลือกหัวกะทิของประเทศต่างๆ มาเรียน รวมทั้งประเทศไทยเขาก็มาคัดเลือกหัวกะทิทางด้านเศรษฐศาสตร์ของเราไปทุกๆ ปีในอดีต
เช่น ดร.แสง สงวนเรือง, ดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล, เกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, ธรรมรักษ์ การพิสิษฎ์ ฯลฯ และ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ดาวรุ่งดวงใหม่ของสภาพัฒน์ในยุคโน้น
สำหรับประวัติการรับราชการที่สภาพัฒน์แบบม้วนเดียวจบของคุณอาคมก็ถือว่ามาได้อย่างราบรื่น ผ่านตั้งแต่หัวหน้าฝ่าย ผู้อำนวยการกอง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ช่วยเลขาธิการ รองเลขาธิการ และเลขาธิการ ตามลำดับส่วนความเป็น “คนในบ้านบิ๊กตู่” นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาของการรับราชการที่จะต้องมีสายสัมพันธ์ หรือ “คอนเนกชัน” อะไรกันบ้าง
คุณอาคมเรียน วปอ.ก่อนบิ๊กตู่ถึง 4 รุ่น (อาคมรุ่น 46 บิ๊กตู่ ปรอ. 20 หรือ วปอ.50)…อ้าว แล้วมารู้จักกันได้ไงล่ะเนี่ย?
เผอิญ วปอ.รุ่น 46 ที่อาคมเรียนนั้นมีสุภาพสตรีท่านหนึ่งชื่อ นราพร จันทร์โอชา เข้าเรียนด้วย และสนิทสนมกันอย่างดียิ่ง สมัยเรียนจึงทำให้อาคมพลอยสนิทกับสามีของท่านอาจารย์นราพรไปด้วย
แต่คำว่า “คอนเนกชัน” ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าคุณเลือกคนที่คุณ “คอนเนก” ด้วย…ด้วยหลักคุณธรรม และธรรมาภิบาล คือ เลือกเพื่อนเก่งที่สุดของคุณมาทำงาน
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ น่าจะเป็น (เพื่อนภรรยา) ที่บิ๊กตู่เลือกได้อย่างมีธรรมาภิบาล ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ดังที่ผมบรรยายไว้
ผมไม่แน่ใจว่า นักลงทุนไทย นักลงทุนเทศ จะขานรับหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวผม…คาดว่าน่าจะขานรับนะครับ เพราะในสถานการณ์อย่างนี้ นี่คือบุคคลที่เหมาะที่สุดแล้วครับ.
“ซูม”