บัวลอย “มือถือ” เชียงราย ในวัน “เหงา” เพราะโควิด

ไปเชียงรายกับมูลนิธิไทยรัฐ เพื่อร่วมสัมมนากับคณะผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 111 แห่งจากทั่วประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงรายงวดนี้ หัวหน้าทีมซอกแซกตั้งใจว่าจะไม่เขียนเรื่องซอกๆ แซกๆ ในทำนองเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ หรือกินโน่นกินนี่ ฯลฯ อะไรอีกแล้วละ

เพราะไปจังหวัดเหนือสุดสยามจังหวัดนี้ มาบ่อยมากในช่วง 3-4 ปีหลัง…ไปทีไรก็เก็บมาเขียนติดต่อกันครั้งละ 4-5 สัปดาห์ จนอาจจะกล่าวได้ว่าเขียนครบทุกแง่มุมที่ควรเขียนแล้วละ

แต่เอาเข้าจริงๆ ก็อดเขียนไม่ได้ครับ เพราะ โรงแรมเวียงอินทร์ สถานที่จัดสัมมนาของมูลนิธิไทยรัฐ และเป็นสถานที่พักของผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคน รวมทั้งหัวหน้าทีมซอกแซกด้วย ตั้งอยู่ในใจกลางของตัวเมืองเชียงรายพอดิบพอดี

อยู่ในหมุดหมายที่สำคัญหมุดหนึ่งของจังหวัด เพราะมี ไนต์บาร์ซาร์ หรือ ตลาดนัดกลางคืน เป็นจุดเด่นอยู่ในบริเวณใกล้ๆ ห่างจากโรงแรมที่เรานอนเพียงแค่ 80 เมตรเท่านั้นเอง

ย่านไนต์บาร์ซาร์ของเชียงรายถือเป็นจุดรวมของการขายสินค้าพื้นเมืองของจังหวัดที่เหมาะแก่การซื้อเป็นของฝาก และการเดินเล่นชิลๆ ในยามหัวค่ำ

แต่ที่ดังที่สุดและกลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงของนักท่องเที่ยวไทยมากที่สุดในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมานี้ เห็นจะหนีไม่พ้น “ของหวาน” สุดอร่อย “บัวลอยมือถือ” ของ ป้าอ้วน ที่ดังขนาดกล่าวขานกันว่า ใครมาเชียงรายแล้วไม่ได้ชิม ถือว่ายังมาไม่ถึงเชียงรายเลยทีเดียว

“บัวลอยมือถือ” ของป้าอ้วน เชียงราย ตั้งอยู่ที่ปากซอยทางเข้า ไนต์บาร์ซาร์ นี่แหละครับ ไม่ใช่ร้านถาวร แต่เป็นรถเข็น พอสัก 5 โมงกว่าจะมีคนเข็นรถมาจอดที่บริเวณปากซอย แล้วก็เปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป โดยจะมีลูกค้ามายืนเข้าคิวรอซื้อยาวเหยียด ไม่เกิน 2 ทุ่มครึ่งจะหมดเกลี้ยง

ที่เรียกว่า “บัวลอยมือถือ” ก็เพราะร้านป้าอ้วนไม่มีที่นั่งรับประทาน ป้าแกจะตักใส่ถ้วยกระดาษเล็กๆให้ซื้อไปยืนรับประทานแถวๆ นั้น หรือจะเดินไป รับประทานไปก็แล้วแต่สะดวก

หัวหน้าทีมซอกแซกเคยเขียนถึงบัวลอยป้าอ้วนไว้แล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 หรือเมื่อ 3 ปีก่อนโน้น

ดังนั้น…เมื่อมีโอกาสมานอนพัก ณ โรงแรมที่อยู่ใกล้ทั้งย่านท่องเที่ยวลือชื่อ และร้านขนมอร่อยในตำนานเช่นนี้ ไม่ถือโอกาสออกไปเดินเที่ยว พร้อมกับเขียนรายงาน “อัปเดต” ให้ท่านผู้อ่านทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดบ้างละก็ อาจจะเข้าข่ายทำความผิดตามมาตรา 157 คือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เอาเลยนะเนี่ย

ว่าแล้วหัวหน้าทีมซอกแซกก็ออกเดินดุ่มๆ จากโรงแรมเวียงอินทร์เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มของคืนวัน อังคารที่แล้ว (22 กันยายน) ไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงไนต์บาร์-ซาร์เรียบร้อย

เหตุที่ต้องรอถึง 3 ทุ่มค่อยเดินก็เพราะต้องนั่งชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของเชียงรายในงานเลี้ยงรับรองผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยาทั่วประเทศจนจบเรียบร้อยเสียก่อน

ปกติเวลา 3 ทุ่ม ไม่น่าจะเป็นเวลาที่ดึกเกินไปนัก เท่าที่จำได้จากที่มาเชียงรายหลายครั้ง 4 ทุ่มเกือบ 5 ทุ่ม บริเวณไนต์บาร์ซาร์ยังคึกคักอยู่เลย

แต่เมื่อ 3 ทุ่ม อังคารที่แล้ว ไนต์บาร์ซาร์เชียงรายเงียบสนิท มีร้านค้าหน่วยกล้าตายเปิดขายเสื้อผ้าพื้นเมืองอยู่เพียงไม่กี่ร้าน

ณ บริเวณ ลานกลางเวียง ซึ่งเป็นลานที่ตั้งวงดนตรีวงเล็กๆ สลับกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ มีนักร้องกับนักดนตรีนั่งร้อง นั่งบรรเลงอย่างเหงาๆ อยู่ 2 คน และมีคนฟังอยู่โต๊ะเดียวแค่ 7 คนเท่านั้นเอง

คืนแรกหัวหน้าทีมลืมไปสนิทว่า “ร้านบัวลอยป้าอ้วน” อยู่แถวๆ นี้ เนื่องเพราะ ป้าอ้วน ท่านเก็บร้านไปแล้วตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่ง และบริเวณปากซอยที่ร้านป้าตั้งอยู่ก็เงียบซะจนจำไม่ได้เลยว่านี่คือที่ตั้งของร้านบัวลอยชื่อดังแห่งเชียงราย

นี่แหละ พิษสงของโควิด-19 ละ ทำให้จังหวัดเชียงรายที่เคยเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สุดแสนคึกคักในยามค่ำคืน กลายเป็นจังหวัดหงอยเหงาไปอย่างเหลือเชื่อ

คืนวันรุ่งขึ้น หัวหน้าทีมซอกแซกตั้งใจจะกลับมาอีกหน เพราะไปหาข่าวที่โรงแรมแล้วทราบว่า “บัวลอยป้าอ้วน” ยังอยู่ที่เดิม และเมื่อมาสำรวจตอน 5 โมงเย็น ก็เจอ “รถเข็น” ที่หน่วยหน้าป้าอ้วนส่งมาจอดรออยู่เรียบร้อย

ตั้งใจว่าสักทุ่มจะเดินไปรับประทานสัก 2 ถ้วย แบบถือ 2 มือเลย ให้สมกับที่คิดถึงและอยากรับประทานมากๆ เพราะหลังจากรับประทานเมื่อปี 2560 แล้วก็ยังไม่ได้ลิ้มรสอีกเลย

ก็ปรากฏว่าฝนเกิดตกลงมาอย่างหนัก จะเดินมารับประทานก่อนก็ไม่ได้ ประกอบกับมีนัดจะต้องไปรับประทานที่อื่นๆ กับคณะของมูลนิธิไทยรัฐ ก็เลยหมดโอกาสที่จะได้แวะไปยืนเข้าคิวร้านป้าอ้วนดังที่ตั้งใจไว้

แต่วาสนาจะได้รับประทาน ปรากฏว่ากลับจากงานเลี้ยงตอนดึกถึงโรงแรม ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดเชียงรายทราบว่าพวกเราต้องการรับประทานมากๆ จึงแวะไปเข้าคิวซื้อมาฝากโดยใส่ถุงพลาสติกแทนถ้วยกระดาษมือถือมาให้

พร้อมกับรายงานว่าช่วงนี้คิวไม่ยาวมากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นคนเชียงรายมาซื้อกันเอง แต่ก็ยังขายหมดทุกคืน แม้จะช้ากว่าช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนก็ตาม

จะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้รับประทานจากถ้วยมือถือหรืออย่างไรไม่ทราบ…แม้คอฟฟีช็อปโรงแรมจะช่วยเอาไปใส่ถ้วยใหม่อย่างดีมาให้ ก็รู้สึกไม่อร่อยเท่า

อย่าน้อยใจนะครับป้าอ้วน ที่รีวิวเที่ยวนี้จากหัวหน้าทีมซอกแซกบอกว่าอร่อยน้อยลง…คงเป็นเพราะบรรยากาศไม่ให้ และกินผิดที่ผิดทาง และ “ผิดถ้วย” นั่นเอง

รอไว้โควิด-19 เหือดหายซะก่อน และรอให้จังหวัดเชียงรายกลับมาคึกคักอย่างเก่า จะหาโอกาสแวะไปเข้าคิวกินจากถ้วย “มือถือ” อีกครั้งนะครับป้าอ้วนครับ จะได้อร่อยเหมือนเดิม

ป.ล. ขออนุญาตลงรูปตัวเองหน่อยนะครับ เพื่อเป็นการยืนยันว่าตอน 5 โมงเย็นไปยืนที่แผงบัวลอยป้าอ้วน เชียงราย…มาจริงๆ.

“ซูม”

บัวลอย, บัวลอยมือถือ, บัวลอยป้าอ้วน, จังหวัดเชียงราย, ซูมซอกแซก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ของอร่อย “เชียงราย” อร่อยสไตล์ “ซอกแซก”