เป็นข่าวใหญ่ฮือฮาพอสมควรทีเดียวสำหรับการเดินสายเยี่ยมเยียนหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้วเป็นต้นมา
เหตุที่เป็นข่าวใหญ่ก็เพราะเมื่อท่านไปเยี่ยมหนังสือพิมพ์ฉบับไหน ก็จะได้ขึ้นเป็นหัวข่าวหน้า 1 ใหญ่บ้างเล็กบ้างในหนังสือพิมพ์นั้นๆ
ดังเช่นในวันที่ท่านมาเยือนพวกเราชาวไทยรัฐ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พอรุ่งขึ้นวันศุกร์ ไทยรัฐกรอบเช้าก็พาดหัวยักษ์ว่า
“นายกฯ ตู่เยือนไทยรัฐ…ประกาศชัด หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ… ขอฟังขับเคลื่อนประเทศ”
พร้อมด้วยภาพท่านเดินเข้าสู่สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และภาพหมู่ถ่ายร่วมกับผู้บริหารและคอลัมนิสต์ของทั้ง 3 สื่อในเครือไทยรัฐ กรุ๊ป อันได้แก่ หนังสือพิมพ์-ออนไลน์ และไทยรัฐทีวี
ของฉบับอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เท่าที่ผมติดตามอ่านก็พบว่าทุกฉบับที่ท่านไปเยือนมาแล้วนั้น ต่างก็นำขึ้นเป็นข่าวใหญ่พาดหัวหน้า 1 ทั้งสิ้น
เรียกว่าได้เนื้อที่ข่าวและเป็นข่าวในเชิงบวกอย่างมาก สำหรับการ “เดินสาย” ของบิ๊กตู่ในครั้งนี้
จะเป็นความคิดริเริ่มของท่านเอง หรือจะเป็นคำแนะนำจากที่ปรึกษาท่านใดท่านหนึ่ง หรือหลายๆ ท่านก็แล้วแต่เถอะ ผมขอแสดงความชื่นชม และขอบคุณบิ๊กตู่ ไว้ ณ ที่นี้
ขอบคุณที่ท่านให้เกียรติแก่หนังสือพิมพ์และเป็นฝ่ายยื่นไมตรีเสนอตัวมาขอพบขอพูดคุยปรึกษาหารือ โดยส่งจดหมายมาล่วงหน้า
ส่วนความชื่นชมนั้นก็มาจากการแสดงออกระหว่างการสนทนาที่เต็มไปด้วยความนิ่มนวลอ่อนโยน กระตือรือร้น รับฟังคู่สนทนา รีบจดประเด็นสำคัญลงสมุดเล่มโตที่ถือมาด้วย และรับปากว่าจะนำข้อเสนอดีๆ ไปใช้
ผิดกับบิ๊กตู่ที่เราเห็นในจอทีวี ซึ่งเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ดุดัน หน้ามุ่ย ตัดบท ดุนักข่าวเหมือนครูดุนักเรียน ฯลฯ
กลายเป็น “นิวตู่” หรือบิ๊กตู่คนใหม่ไปโดยสิ้นเชิงว่างั้นเถอะ
ท่านย้ำหลายครั้งว่า ที่ท่านมาหาพวกเราสื่อหนังสือพิมพ์ไม่ใช่จะมาหาเสียง หรือหาการสนับสนุน แต่มาหาเพราะวิธีการทำงานแบบใหม่ หรือ “นิวนอร์มอล” ของท่านนั่นเอง
คือจะต้องรับฟังความเห็นหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าภาคเอกชน พ่อค้า นักธุรกิจ นักการเงินการธนาคาร พี่น้องประชาชนทั่วไป รวมทั้งสื่อมวลชนด้วย แล้วท่านจะนำมาบูรณาการเข้าด้วยกัน อันจะทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างถูกต้องและได้ผลสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
ถ้าจะว่าไปแล้ว การบริหารงานด้วยการฟังความคิดเห็นรอบด้าน แล้วนำมาบูรณาการให้เป็นหนึ่งเดียว มิใช่ของใหม่แต่อย่างใด
เมื่อบิ๊กตู่ ซึ่งอาจไม่เคยใช้ ท่านนำมาใช้ และถือว่าเป็นนิวนอร์มอลของท่าน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีและขอสนับสนุนให้ท่านใช้วิธีนี้ต่อไป
ก็มาถึงเรื่องที่จะต้องขอบคุณบิ๊กตู่อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ที่ท่านบอกพวกเราว่าข้อเสนออะไรที่ดีๆ จากพวกเรา ท่านจะนำไปใช้นั้น…ปรากฏว่าท่านนำไปใช้จริงๆ ครับ…ใช้อย่างทันทีทันควันเสียด้วย
ได้แก่ ข้อเสนอให้มีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจขึ้นมาศูนย์หนึ่งให้ทำหน้าที่คล้ายๆ ศบค. ในการสู้รบกับโควิด-19 นี่แหละ แต่ศูนย์ใหม่นี้จะทำหน้าที่ในการสู้รบกับเศรษฐกิจ อันเป็นผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง
ให้ทำหน้าที่ติดตามผลปฏิบัติงานตามมาตรการฟื้นฟูต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาแล้วว่าทำอะไรถึงไหน? ได้ผลอย่างไร? ติดขัดอะไร?
ขณะเดียวกันก็ให้ทำหน้าที่ในการกระตุ้น ประสาน และผลักดัน เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ได้อย่างแท้จริง
ถือเป็นกองบัญชาการส่วนหน้าสำหรับการทำสงครามเศรษฐกิจสู้กับผลกระทบที่เกิดจากโควิด-19 โดยตรงว่างั้นเถอะ
เสร็จแล้วก็ให้มีการแถลงข่าวประจำวัน มีการประชุมเรื่องไหน ที่เกี่ยวข้องก็เอามาบอกมา มาแถลง…ให้ประชาชนรับรู้
ถ้าจะให้ดีหาโฆษกเก่งๆ พูดเรื่องเศรษฐกิจได้คล่องแคล่ว หล่อหน่อยๆ สวยนิดๆ แบบโฆษก ศบค. ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ในการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน
พวกเราเสนอปุ๊บ บิ๊กตู่รับปั๊บเลย และวันรุ่งขึ้นในการประชุมคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ท่านก็สั่งการให้ตั้ง “ศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด–19” ให้เป็น ศบค. ด้านเศรษฐกิจขึ้นทันทีทันควัน
เห็นไหมล่ะ ว่าการเดินสายรับฟังความเห็นของทุกๆ ฝ่าย ก็ได้ประโยชน์อย่างนี้แหละ.
“ซูม”