“32 ปี” นางงามจักรวาล “ปุ๋ย” ยังรักประเทศไทยเสมอ

วันนี้ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศจากเรื่องเครียดๆ อย่างไวรัสมหาภัยโควิด-19 มาเขียนถึงเรื่องเบาๆ ที่เป็นความหลังอันสดชื่นรื่นรมย์ของคนไทยเราสักวันนะครับ

เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะตรงกับเวลาค่ำๆ ของวันที่ 24 พฤษภาคมที่สหรัฐฯ มีรายงานข่าวว่า “น้องปุ๋ย” หรือคุณ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน อดีตนางงามจักรวาลชาวไทย ได้โพสต์ภาพและข้อความลงไอจีของเธอ ที่ทำให้คนไทยอ่านแล้วซึ้งไปตามๆ กัน

“น้องปุ๋ย” ได้ตำแหน่งนี้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.1988 หรือ พ.ศ.2531 ในการประกวดที่กรุงไทเป นับจากวันนั้นถึงวันนี้ครบ 32 ปีพอดีเป๊ะ

เธอเริ่มด้วยประโยคที่ว่า เธอเพิ่งได้รับภาพแห่งความทรงจำอันยิ่งใหญ่ (ภาพเธอในชุดราตรีสวมมงกุฎนางงามจักรวาล) ซึ่งเธอเห็นแล้วก็รู้สึกเหลือเชื่อว่า วันเวลาผ่านไปถึง 32 ปีแล้ว

เธอ “ขอบคุณ” ประเทศไทยและคนไทยที่เชื่อมั่นในตัวเธอ และช่วยให้เธอเปลี่ยนชีวิตจากเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งให้กลายเป็นคนที่ “โชคดีที่สุด” ในจักรวาล

“น้องปุ๋ย” เขียนบอกด้วยว่า ทุกวันนี้เธอได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามตลอดจนความมีน้ำใจอันใหญ่หลวงของคนไทยให้แก่ลูกๆ ของเธอ ซึ่งพวกเขาก็รู้สึกเป็นเกียรติและน้อมรับด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

ก่อนส่งท้ายด้วยรูปหัวใจ รูปประนมมือไหว้และธงชาติไทยตัวจิ๋วและแฮชแท็ก #Thailand #missuniverse #onceinalifetime

ต้องยอมรับว่าทันทีที่ข่าวจากไต้หวันมาถึงเมืองไทยว่า คุณพรทิพย์ หรือที่สมัยโน้นเรียกกันว่า “น้องปุ๋ย” ได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาล (สมัยนี้คงต้องเรียกว่า มงฯลง) คนไทยแทบจะส่งเสียงเฮทั้งประเทศ

ไปไหนมาไหนจะได้ยินแต่คำพูดที่ว่า “รู้ข่าวยัง…ปุ๋ยได้นางงามจักรวาล” รึ่มกันไปหมด

เช้าวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับขายเกลี้ยงแผง รวมทั้งไทยรัฐที่พิมพ์เพิ่มไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าก็ขายหมดเกลี้ยงเช่นเดียวกัน

ช่วงนั้นไทยรัฐยังพิมพ์ขาวดำอยู่ พิมพ์สีเฉพาะพาดหัวสีเขียวเท่านั้น…ดังนั้น ภาพของน้องปุ๋ยในชุดมงฯ ลงจึงเป็นภาพขาวดำ

ท่าน ผอ.กำพล วัชรพล ไปสังเกตการณ์การจำหน่ายตามแผงต่างๆ ด้วยตนเอง กลับมาบอกพวกเราที่โรงพิมพ์ว่า นี่ขนาดขาวดำยังขายดีถึงเพียงนี้ ถ้าพิมพ์สีจะขายดีขนาดไหน

คู่แข่งเราเขาพิมพ์สีสวยมาก…ถ้าวันภรณ์ทิพย์กลับบ้าน…เราไม่พิมพ์ภาพสีสู้เขา อาจจะแพ้เขาก็ได้

โชคดีที่ภรณ์ทิพย์ยังไม่กลับบ้าน เพราะเธอจะต้องไปกับกองประกวด และที่อื่นอีกพักใหญ่ก่อนมาเมืองไทย ทำให้เรามีเวลาเตรียมตัว

จริงๆ ผอ.กำพลท่านซื้อเครื่องพิมพ์ 4 สีมานานแล้ว และก็พิมพ์ฉบับพิเศษเนื่องในวาระสำคัญๆ ต่างๆ ไปหลายครั้ง เพียงแต่ไม่ได้พิมพ์ 4 สีทุกวันเท่านั้น

จากนั้นมาท่านก็สั่งพิมพ์สีทุกวัน เพื่อรอรับการกลับบ้านของภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศไทย

ผมโชคดีที่มีโอกาสได้อยู่ในเหตุการณ์ที่สาวไทยของเราได้เป็นนางงามจักรวาลทั้ง 2 คน…ยุค คุณอาภัสรา หงสกุล ผมยังไปยืนโบกมือต้อนรับคุณปุ๊กพร้อมกับมวลมหาชนนับหมื่นที่ สะพานขาว

มาถึง คุณปุ๋ย ผมก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับความชื่นชมคลั่งไคล้และดีใจสุดๆ ของคนไทยอยู่เป็นปี รวมทั้งได้สัมผัสความรู้สึกที่คนไทยหันหลังให้เธอชนิดหมดความรักไปดื้อๆ เมื่อคุณปุ๋ยเปิดตัวแฟนหนุ่มของเธอออกมา ทำให้คนไทยอกหักไปทั้งประเทศ

หลายปีต่อมา แม้คุณปุ๋ยจะหายไปจากความทรงจำของคนไทย แต่ตัวเธอเองไม่เคยลืมคนไทยและยังคิดถึงประเทศไทยอยู่เสมอ

จนวันหนึ่งเมื่อชีวิตของเธอแปรเปลี่ยนอีกครั้ง ได้แต่งงานกับคุณ เฮอร์เบิร์ต ไซมอน มหาเศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับมีทรัพย์สิน 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (102,400 ล้านบาท) เจ้าของทีมบาสเกตบอล อินเดียนา เพเซอร์ส อันลือเลื่อง

เธอก็จัดตั้งมูลนิธิปีกนางฟ้า (Angels Wings Foundation) มาดูแลให้การศึกษาแก่เด็กไทยในชนบท รวมทั้งยังมีทุนสำหรับไปเรียนต่อในระดับปริญญาที่สหรัฐฯอีกด้วย

เป็นการยืนยันว่าปุ๋ยรักคนไทยและขอบคุณประเทศไทยจริงๆ และยังรักเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้…โดยเฉพาะประกาศรับสมัครนักเรียนไทยรุ่นล่าสุด เพื่อไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ ของเธอ เพิ่งจะครบกำหนดไปเมื่อ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง.

“ซูม”