เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงจะได้อ่านข่าวจากสื่อออนไลน์สื่อสิ่งพิมพ์ หรือได้ดูสารคดีเชิงข่าวของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัลหลายๆ ช่องกันมาบ้างแล้ว
เกี่ยวกับการร่วมแรงร่วมใจฮึดสู้ไวรัส “โควิด-19” ที่เข้ามาบ่อนทำลายธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมทั่วโลกอย่างไร้ความปรานี ส่งผลให้สายการบินเอย โรงแรมเอย และการจัดทัวร์ต่างๆ เอย ต้องหยุดการให้บริการอย่างกะทันหัน
รวมทั้ง โรงแรมเอเชีย 1 ในจำนวนโรงแรมรุ่นแรกๆ ที่สร้างขึ้นในยุคประเทศไทยเริ่มส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวเมื่อ 60 ปีที่แล้วด้วยเช่นกัน
จากข่าวที่เผยแพร่ในสื่อมวลชนแขนงต่างๆ สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า แม้วิกฤติครั้งนี้จะหนักหน่วงแค่ไหนก็ตาม แต่โรงแรมเอเชียก็พร้อมสู้โดยไม่ “เลย์ออฟ” หรือเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งมีถึง 500 กว่าคน แม้แต่คนเดียว
เพื่อดำเนินตามนโยบายของนาย กำพล เตชะหรูวิจิตร อดีตประธานและผู้ก่อตั้งโรงแรมเอเชีย ซึ่งล่วงลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ซึ่งจะสั่งสอนน้องๆ และลูกๆ อยู่เสมอว่า “พนักงานอยู่กับเรา มีส่วนช่วยเหลือเราในการทำธุรกิจ บางคนอยู่มานานมาก ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งก็มี ดังนั้น ไม่ว่าเจอวิกฤติขนาดไหน เราจะต้องไม่ทอดทิ้งพวกเขา”
แต่การจะอยู่เฉยๆ อย่างเดียวโดยไม่มีทางรู้ได้ว่า วิกฤติโควิด-19 จะไปหยุดตรงไหน ก็อาจจะกลายเป็นการกอดคอกันจมน้ำไปทั้งหมดก็ได้ หากไม่มีรายรับใดๆ เข้ามาเลย
จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้บริหารโรงแรมเอเชียรุ่นใหม่ตัดสินใจเปิดร้านอาหารเฉพาะกิจ ขึ้นที่บริเวณริมถนนหน้าโรงแรมเป็นที่สะดุดตาของผู้ที่ขับรถผ่าน
สำหรับอาหารที่จัดทำจะเป็นลักษณะ “ข้าวกล่อง” ที่ตั้งชื่อเป็นพิเศษว่า “ข้าวกล่องโรงแรมเอเชีย” จำหน่ายในสนนราคาเดียว 80 บาทต่อกล่อง มีทั้งชุดติ่มซำ ขนมจีบ 3 ลูก ซาลาเปา 2 ลูก, ข้าวหมูแดง/หมูกรอบ, ข้าวผัดไก่/หมู พร้อมไข่ดาว, ข้าวผัดอเมริกัน (แฮมไก่ ไส้กรอกไก่ ปีกไก่ไข่ดาว) และข้าวผัดสับปะรด (ใส่กุนเชียง) เป็นต้น
ส่วนพวกอาหารเส้นก็มีทั้งผัดไทยไก่/กุ้ง, ผัดซีอิ๊วไก่/หมู เฝอไก่/หมู/เนื้อ/หมูยอ, บะหมี่ฮกเกี้ยนหมู, สปาเกตตีซอสมะเขือเทศไก่/มังสวิรัติ, กระเพาะปลาน้ำแดง, กระเพาะปลาผัดแห้ง, ฯลฯ แค่นี้หลายๆท่านก็คงจะรู้สึกหิวแล้วละ
ทั้งนี้ โรงแรมจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-19.00 น. สามารถโทร.สั่งอาหารได้ที่โทร. 08- 3540-9626 หรือไลน์@asiahotelbkk สามารถจะมารับได้เองโดยไม่ต้องลงจากรถ หรือถ้าสั่งเกิน 200 บาท ทางโรงแรมก็พร้อมจะไปส่งให้ฟรีภายในรัศมี 2 กิโลเมตร
สำหรับ โรงแรมเอเชียราชเทวี นั้น ต้องถือเป็น 1 ในตำนานโรงแรมไทย เพราะเริ่มเปิดบริการมาตั้งแต่ พ.ศ.2509 กว่า 54 ปี หรือเกินกึ่งศตวรรษไปแล้วในขณะนี้
จากความคิดริเริ่มของคุณ กำพล เตชะหรูวิจิตร ซึ่งมองเห็นความเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เริ่มพัฒนาขึ้นตามนโยบายของ แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2504-2509) ของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งได้มีการก่อตั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือ อสท.ขึ้นก่อน เมื่อปี 2503
ปรากฏว่าเมื่อมีการใช้แผนฉบับนี้ยอดนักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นเป็นลำดับจนโรงแรมทันสมัยที่มีอยู่ในขณะนั้นแทบไม่พอต้อนรับนักท่องเที่ยว ต่างประเทศที่เริ่มแห่กันมาเมืองไทย
คุณกำพลจึงตัดสินใจสร้าง โรงแรมเอเชีย ขึ้นโดยมีเป้าหมายที่จะให้เป็นโรงแรมในระดับ 4 ดาว คือมีมาตรฐานที่นักท่องเที่ยวยอมรับ แต่ราคาอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และเพิ่มบริการที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าพักเป็นหลัก
ก่อนหน้านี้คุณกำพลดำเนินธุรกิจของครอบครัวในฐานะตัวแทนจำหน่ายโต๊ะบิลเลียดและสนุ้กเกอร์ พร้อมอุปกรณ์จากต่างประเทศ ในนามของบริษัท “ไต้ฮวด” ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างดียิ่งของบรรดานักบิลเลียดนักสนุ้กเมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว
เรื่องราวของบริษัท “ไต้ฮวด” เป็นที่เล่าขานกันในหมู่คนไทยเชื้อสายจีนไหหลำมายาวนานจนกลายเป็นตำนานของการสู้ชีวิตอีกตำนานหนึ่ง จากการที่บิดาของคุณกำพล ซึ่งเดินทางมาเมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบเช่นเดียวกับนักธุรกิจจีน ที่ประสบความสำเร็จในอดีต
ท่านมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ แถวๆ หน้าเฉลิมกรุง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเก็บหอมรอมริบได้ก็ซื้อโต๊ะบิลเลียดมาโต๊ะหนึ่ง เปิดบริการคู่ไปกับร้านกาแฟของท่าน
จนในที่สุดก็กลายเป็นร้านโต๊ะบิลเลียดโต๊ะสนุ้กที่มีชื่อเสียง มีหลายโต๊ะและมีหลายๆ ร้านในเวลาเดียวกัน
ต่อมาเมื่อคุณกำพลเรียนจบจาก โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชยการ ก็ออกมาช่วยบิดาดำเนินกิจการโต๊ะบิลเลียด ด้วยการขยายธุรกิจไปสู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายโต๊ะและอุปกรณ์จนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศดังได้กล่าวไว้แล้ว
เมื่อหันมาดำเนินธุรกิจโรงแรมในปี 2509 ด้วยความสามารถของคุณกำพลและน้องๆ ที่เรียนจบจากต่างประเทศกลับมาช่วยเหลือธุรกิจครอบครัว เช่น คุณอมร เตชะหรูวิจิตร ที่สังคมไทยรู้จักชื่อเสียงเป็นต้น ทำให้โรงแรมเอเชียประสบความสำเร็จจนสามารถขยายไปสู่พัทยาในนามของ เอเชียพัทยา และยังมีที่รังสิต ในชื่อ โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ต (เซียร์ รังสิต) อีกด้วย
ในการทำงานเพื่อสังคม คุณกำพลได้รับเลือกให้เป็น นายกสมาคมตระกูลหรู หลายสมัย และได้เข้าไปช่วยเหลือในกิจกรรมของ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่ง รองประธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จนถึงวาระสุดท้ายของท่าน
แม้จะจากไปกว่า 6 ปีแล้ว คำสั่งสอนของท่านในเรื่องการช่วยเหลือสังคมโดยรวมและการดูแลผู้ร่วมงานในบริษัทยังคงอยู่ในความทรงจำ ของลูกๆ ท่านที่ขึ้นมาเป็นผู้บริหารโรงแรมเอเชีย ในปัจจุบันอยู่เสมอ
เป็นที่มาของการร่วมแรงร่วมใจฝ่าโควิด-19 ของพนักงานโรงแรมเอเชีย ด้วยการออกมาจำหน่าย “ข้าวกล่อง” ดังที่เป็นข่าว
สู้สู้นะครับ ทีมงานซอกแซกขอให้กำลังใจ ไม่เฉพาะแต่โรงแรมเอเชียเท่านั้น แต่ขอมอบให้แก่ทุกๆ โรงแรมในประเทศไทย ที่ตกอยู่ในสภาวะหนักหนาสาหัสอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนไปด้วยพร้อมๆ กัน.
“ซูม”