ในท่ามกลางข่าวไวรัสมหาภัยโควิด-19 ยึดหน้า 1 และหน้าในๆ ของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ตั้งแต่ข่าวหัวยักษ์ไปจนถึงข่าวเล็กข่าวน้อย ตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีธนาคารอยู่ธนาคารหนึ่ง สามารถแทรกตัวเข้ามาเป็นข่าวกับเขาด้วยหลายครั้งหลายหน
ธนาคารออมสิน นั่นแหละครับ โผล่ออกมาเป็นข่าวครั้งแรกช่วงต้นเดือนเมษายน ก่อนที่รัฐบาลจะออกมาตรการใหญ่ ใช้เงินถึง 1.9 ล้านล้านบาทเสียด้วยซ้ำ
นั่นก็คือ โครงการสินเชื่อฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งแบ่งวงเงินกู้ออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทแรก กู้สูงสุด 10,000 บาทต่อราย ดอกเบี้ย 0.10 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนชำระสูงสุด 2 ปี แถมพักชำระหนี้ 6 งวดแรก ประเภทที่ 2 กู้สูงสุด 50,000 บาท ดอกเบี้ยเดือนละ 0.35 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี
เห็นข่าวแล้วก็ดีใจแทนผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระต่างๆ ซึ่งจะต้องตกงาน หรือต้องหยุดออกขายเร่ หรือออกขับรถรับจ้างในช่วงนี้…ธนาคารออมสินเขาเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (15 เม.ย.) นะครับ รีบหาข้อมูลรีบหารายละเอียดแล้วไปลงทะเบียนขอกู้กันได้เลย
อีกข่าวหนึ่งจาก ธนาคารออมสิน เหมือนกันบอกว่า ลูกค้าเก่าของธนาคารหลายรายที่ได้รับเงินเยียวยางวดแรก 5,000 บาทจากรัฐบาล ปรากฏว่า พอจะไปเบิกมาใช้ก็หน้าเหี่ยวไปตามๆ กัน เพราะโดนธนาคารนำไปหักชำระหนี้เงินกู้เก่าซะงั้น
แต่ทันทีที่ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ชาติชาย พยุหนาวีชัย ทราบเรื่อง ท่านก็ออกมาขอโทษทันทีว่า เพราะทุกอย่างใช้ระบบอัตโนมัติ พอเงินเข้าปุ๊บ เครื่องคอมพ์ก็จะหักไปชำระหนี้ปั๊บ ตามโปรแกรมที่เขียนไว้
บัดนี้ ท่านสั่งเคลียร์แล้ว ฉะนั้นใครก็ตามที่ได้รับเงินเยียวยาแล้วโดนเครื่องหักไว้ให้แจ้งเรื่องขอคืนเงินด่วนที่ www.gsb.or.th หรือโทรศัพท์ไปที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1115 ได้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.
ฉับไว ทันเหตุการณ์จริงๆ ท่านผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนปัจจุบัน
อ่านข่าวทั้ง 2 ข่าวนี้แล้วก็ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า อีกเพียง 2 เดือน เท่านั้น ท่านผู้อำนวยการ ชาติชาย พยุหนาวีชัย ก็จะต้องเกษียณจากตำแหน่งเสียแล้ว
เพราะท่านจะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่จะถึง ซึ่งตามกฎกติกาของรัฐวิสาหกิจนั้น ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละองค์กรจะเกษียณทันที เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
นั่นก็หมายความว่า 15 มิถุนายนปีนี้ ธนาคารออมสินจะต้องสูญเสีย ผู้อำนวยการ ที่มี ความสามารถโดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของธนาคารรัฐธนาคารนี้ไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง
เพราะไม่เพียงแต่ท่านจะสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่ธนาคารอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมาดำรงตำแหน่งเท่านั้น ท่านยังสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ หรือการ Re-Brand ธนาคารออมสินให้ก้าวหลุดจากภาพของธนาคารเด็กๆ หรือจากภาพของธนาคารล้าสมัยให้เป็นธนาคารที่ทันสมัยและไฮเทคได้อย่างเหลือเชื่อ
กลายเป็น Digital Bank เปิด platform ที่เรียกว่า Mymo ขึ้นมาตอบสนองความต้องการการใช้บริการทางการเงินในทุกช่วงชีวิตของลูกค้า ไม่ว่าการออม การลงทุน การประกันชีวิต ประกันภัย และการขอสินเชื่อ ฯลฯ ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่อย่างดียิ่ง
เป็นผลให้ในการสำรวจการรับรู้ภาพลักษณ์ของธนาคารต่างๆ โดยสถาบันบริหารธุรกิจศศินทร์ ในเรื่องของการพัฒนาไปสู่ความทันสมัยนั้น ปรากฏว่า ธนาคารออมสินก้าวพรวดจากที่ล่างๆ มาเป็นที่ 2 ของประเทศไทย แพ้ธนาคารไทยพาณิชย์เพียงธนาคารเดียว
แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของการเป็นธนาคารเพื่อสังคม เพื่อคนระดับรากหญ้า และลูกค้ารายเล็กรายน้อย รวมไปถึง SMEs ทั่วประเทศ
ผลงานเหล่านี้นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านได้รับการยกย่องจาก วารสารการเงินธนาคาร ให้เป็นนักการเงินแห่งปีถึง 2 สมัย และจากนิตยสาร ดอกเบี้ย ให้เป็นนักการธนาคารแห่งปี 2 สมัยเช่นกัน
ผมถึงได้บอกว่าเสียดายที่ท่านผู้อำนวยการ ชาติชาย พยุหนาวีชัย จะเกษียณพ้นจากตำแหน่งในอีก 2 เดือนข้างหน้าเสียแล้ว
จริงๆแล้ว คนอายุ 60 ปียุคนี้เขาถือว่าเป็นวัย “กลางคน” เท่านั้นนะครับ ยังจะอยู่รับใช้ประเทศชาติได้อีกนานมาก…เรามาลุ้นกันดีกว่าครับว่า ท่าน ผอ.ออมสินท่านปัจจุบันจะไปรับใช้ชาติบ้านเมือง ในตำแหน่งไหน? หรือที่ไหน? ในอนาคตอันไม่ไกลจากนี้!
“ซูม”