เป็นอันว่าจบลงด้วยดีทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมภาวนาไว้ในคอลัมน์วานนี้ เมื่อผู้โดยสารจาก 5 เที่ยวบิน 158 คน หนีกลับบ้านไป 152 คน กลับมารายงานตัวตามเงื่อนเวลา 6 โมงเย็นวันเสาร์ครบถ้วน และเข้าสู่การเก็บตัวในโรงแรมแห่งหนึ่งไปแล้ว
รวมทั้งอีกชุดที่ไปถึงสัตหีบแล้วไม่ยอมเข้าสถานที่กักตัวของกองทัพเรืออีก 29 คน โดยอ้างเงื่อนไขว่าจะต้องไปอยู่รวมกันกับใครก็ไม่รู้ ห้องละ 3 คน ทำให้ทางผู้แทนของกองทัพเรือต้องส่งกลับมาสุวรรณภูมิ แต่ล่าสุด ก็ยอมเข้ารับการกักตัวแล้วเช่นกัน
แม้กระแสสังคมจะยังแรงอยู่เท่าที่อ่านจากคอมเมนต์ต่างๆ ในทุกโซเชียล แต่สำหรับผมถือว่าทุกอย่างจบลงแล้ว
อะไรลืมได้ก็อยากให้ลืม อะไรที่เป็นประเด็นหลัก เป็นประเด็นสำคัญ ควรจะนำมาปรับปรุงแก้ไข สำหรับครั้งต่อๆ ไปก็ให้จดบันทึกเอาไว้ สำหรับเป็นแนวทางปฏิบัติ
เพื่อให้การเดินทางกลับประเทศของคนไทยในช่วงต่อๆ ไป สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีปัญหาอะไรอีก
ก็อยากจะเรียนให้ท่านที่เดินทางกลับประเทศได้รับรู้รับทราบว่า ไม่มีคนไทยในประเทศคนไหนรังเกียจรังงอน หรือไม่อยากจะต้อนรับท่านหรอก เพราะตระหนักดีว่าแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของพวกเราทุกคน
ทุกคนมีสิทธิ์จะกลับมาเมื่อใดก็ได้ แต่เมื่อมาในช่วงไม่ปกติและเป็นอันตรายเช่นนี้ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎ ตามกติกาอย่างเคร่งครัด อย่าสร้างเงื่อนไขให้มากจนเกินไป
อย่าลืมว่าคนไทยในประเทศไทยเราเครียดกันมาเป็นเดือนแล้ว เจอมาตรการตั้งแต่อ่อนมาจนถึงแข็ง แต่พวกเราก็อดทนยอมรับเพื่อความหวังที่จะเอาชนะเจ้าไวรัสวายร้ายโควิด-19 ตัวนี้
จู่ๆ ท่านมาจากประเทศเสี่ยง เอาความกลัว ความวิตกมาเพิ่มให้ แล้วไม่ยอมปฏิบัติตามกฎกติกา ผลก็เลยทำให้คนไทยอารมณ์เสีย ทั้งบ่นทั้งขอประทานโทษด่ากันรึ่มโซเชียลด้วยประการฉะนี้
มาถึงวันนี้เราก็คงจะเปิดสนามบินทั้งสุวรรณภูมิ ทั้งดอนเมืองให้เครื่องบินมาลงได้ตามเดิม และน่าจะมีเครื่องมาลงบ้าง พร้อมกับผู้โดยสารคนไทยเราที่ยังติดค้างอยู่ ซึ่งผมหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาวุ่นวายเหมือนเมื่อ 2 วันที่แล้วนะครับ
เผอิญผมติดตามข่าวกีฬาอยู่ด้วย อ่านโพสต์จาก กิรเดช อภิบาลรัตน์ นักกอล์ฟไทยที่ไปแข่งอยู่ที่อเมริกาแล้วก็สงสารชะมัด เพราะอย่างที่ทราบ ขณะนี้การระบาดที่โน่นแรงมาก การแข่งขันกอล์ฟงดหมด
กิรเดชและภรรยาและเพื่อนนักกอล์ฟไทยอีก 3-4 คน มีทั้ง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล อดีตมือ 1 โลก และ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล พี่สาว มือ 20 กว่าของโลกขณะนี้ และ “โปรแจน” วิชาณี มีชัย นักกอล์ฟหญิงอีกคน พร้อมคุณแม่และแคดดี้อยากกลับเมืองไทย แม้ไม่มีเครื่องกลับ แต่ทาง บริษัท บุญรอดฯ โดยคุณ สันติ ภิรมย์ภักดี ก็อุตส่าห์เช่าเครื่องบินเอกชนที่สหรัฐฯ เตรียมบินกลับมาอยู่แล้ว
มาเจอสนามบินไทยปิด 3 วัน ก็เลยมาไม่ได้ และเมื่อครบกำหนดเปิดทางนี้ เอกสารที่เขาขอจากสถานกงสุลทางโน้น โดยเฉพาะใบรับรองต่างๆ ก็ใช้ไม่ได้เพราะระบุวันเดินทางเอาไว้
ครั้นจะขอใหม่ สถานทูตทางโน้นก็ปิด 15 วัน ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใด ทำให้ โปรอาร์ม หรือกิรเดช ต้องโอดครวญอย่างน่าเห็นใจ พร้อมทั้ง “โปรเม” และโปรอื่นๆ ที่จิตตกกันไปหมดในขณะนี้
ผมเป็นแฟนนักกอล์ฟไทยทั้ง 4 คนนี้ โดยเฉพาะ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ตอนเป็นหมายเลข 1 โลก ผมเขียนถึงหลายครั้ง ช่วงหลังๆ ฟอร์มหลุดหน่อย (เป็นเรื่องธรรมดาของกอล์ฟ) หล่นมาอันดับ 10 ก็ยังเอาใจช่วยขอให้กลับไปอันดับ 1 เร็วๆ
แต่ตอนนี้เรื่องกลับไปอันดับ 1 คงต้องรอไว้ก่อน ขอเอาใจช่วยเต็มที่ ขอให้ “น้องเม” “น้องโม” ตลอดจน “โปรอาร์ม” กิรเดช และ “โปรแจน” ได้กลับบ้านสมมาดปรารถนาโดยเร็วครับ
ผมเข้าใจเลย และเคยเขียนไว้แล้วด้วยตอนไว้อาลัยพี่ สุเทพ วงศ์กำแหง ว่าเพลงของพี่สุเทพที่คนไทยในต่างแดนซึ้งที่สุดก็คือ เพลง “บ้านเรา” นั่นเอง
บ้านเรา แสนสุขใจ…แม้จะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา…
ดังนั้น ในยามทุกข์ยากเช่นนี้ จึงย่อมจะอยากกลับบ้านกันทุกคน…และขอให้ได้กลับเร็วๆ นะครับน้องๆ นักกอล์ฟที่ล้วนแต่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยมาแล้วอย่างล้นเหลือทั้ง 4 รายนี้.
“ซูม”