เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผมมีนัดกับคุณหมอที่ดูแลโรคต่อมลูกหมากของผมที่โรงพยาบาลรามาธิบดีช่วงบ่าย 3 โมงโดยประมาณ ซึ่งเป็นการนัดหมายล่วงหน้าเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว
แม้จะไม่อยากออกไปไหนเลย เพื่อให้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขตามคำขวัญ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” แต่ก็คงปฏิเสธนัดครั้งนี้ไม่ได้ เพราะจะต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง และยาเดิมใกล้หมด
มาคิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน เราไปพบคุณหมอตรวจต่อมลูกหมากด้วย ถือโอกาสสังเกตการเตรียมตัวสู้รบกับศึกโควิด-19 ของโรงพยาบาลรามาธิบดีด้วย เผื่อจะได้ข่าวคราวติดมือมาฝากท่านผู้อ่านเป็นของแถม
ผมพบว่าบรรยากาศที่ตึกสมเด็จพระเทพรัตน์ เมื่อบ่ายวันอังคารที่ 24 มีนาคม ไม่หนาแน่นเหมือนช่วงปกติ คนไข้ทั่วๆ ไปอาจจะไม่กล้ามาโรงพยาบาล เพราะไม่อยากจะเสี่ยงในช่วงนี้
ทุกๆ หน้าห้องคุณหมอจึงมีคนไข้นั่งรอกันอย่างหลวมๆ โดยทางโรงพยาบาลจะแปะป้ายไว้เลยว่า เก้าอี้ตัวนี้นั่งได้ เก้าอี้ตัวนี้นั่งไม่ได้ ทำให้ เกิดระยะห่าง 1 เมตรตามหลัก Social distancing ทุกประการ
คุณหมอที่ผมไปพบนั้น สนิทสนมกับผมมาก เพราะดูแลรักษากันมากว่า 20 ปีแล้ว โดยมารยาทขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อท่านนะครับ
ท่านดูผลเลือดครั้งก่อนๆ ที่ผมมาตรวจกับหมออื่นๆ เอาไว้ เพราะ หลายๆ ตัวใช้ร่วมกันได้ เห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ก็จ่ายยาตัวเดิมให้พร้อมกับชวนคุยในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอาการเจ็บไข้ของผมเช่นเคย
ถ้าเป็นครั้งก่อนๆ เราจะคุยกันเรื่องการบ้านการเมือง แต่คราวนี้ คุยกันเรื่องการ “โควิด-19” เรื่องเดียวเลย
ท่านทันเหตุการณ์มาก ตอนผมเข้าไปตรวจบ่าย 3 โมงพอดี บิ๊กตู่ แถลงว่า จะมีประกาศฉุกเฉินตั้งแต่บ่าย 2 โมง ท่านรู้ข่าวเรียบร้อยแล้ว
อาจารย์หมอบอกว่าช้าไปหน่อย แต่ก็เห็นใจบิ๊กตู่ เพราะรู้ว่าการ ตัดสินใจในเรื่องที่จะมีผลกระทบต่อคนหมู่มากไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
จากนั้นท่านก็เล่าให้ฟังว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีเตรียมพร้อมมาหลายวัน ตอนนี้เคสผ่าตัดต่างๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องฉุกเฉินหรือจำเป็นจริงๆ จะเลื่อนออกไปหมด เพื่อเตรียมสรรพกำลังไว้สำหรับรับศึกโควิด-19
ทำให้ผมถึงบางอ้อในบัดเดี๋ยวนั้นเลย เพราะก่อนหน้านี้วันเดียวผมก็ได้รับโทรศัพท์เลื่อนนัดส่องกล้องเพื่อตรวจลำไส้จากคุณหมออีกท่านหนึ่งที่นัดผมไว้ล่วงหน้าเกือบๆ 4 เดือนเช่นกัน
การส่องกล้องก็เหมือนผ่าตัดเล็ก เพราะจะต้องทำให้เราหลับซะก่อน แล้วสอดกล้องเข้าไปทางปากสู่บริเวณลำไส้ จึงถูกเลื่อนไปด้วย
ครั้นกลับมาถึงบ้านได้อ่านโพสต์ของคุณหมอที่ใช้นามว่า Prok Laosuwan และแฮชแท็กว่าเป็น วิสัญญีแพทย์ ก็ยิ่งกระจ่างมากขึ้น
กระจ่างว่าเพราะเหตุใด โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย จึงเลื่อนการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนออกไปหมดในระยะนี้
คุณหมอ Prok อธิบายว่า เหตุที่โรงพยาบาลทั้งหลายต้องลดการผ่าตัดเคสไม่ด่วนลง เนื่องจากความจำเป็นที่จะต้องนำบุคลากรที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะพยาบาล) ไปเปิดวอร์ดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น ดังนั้นอะไร ที่เร่งด่วนและจำเป็นก็จะผ่าตัดไปตามเดิม แต่อะไรรอได้ก็ให้รอไปก่อน
บุคลากรสำคัญอีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือ วิสัญญีแพทย์ หรือ “คุณหมอ ดมยา” นั่นเอง จะถูกสั่งการให้เตรียมพร้อมรับมือโควิดโดยเฉพาะ
เหตุเพราะคุณหมอดมยามีความเชี่ยวชาญในการใส่ท่อหายใจมากที่สุดกว่าทุกหมอและทุกพยาบาล สามารถใส่ท่อหายใจได้อย่างละมุนละม่อม ไม่ทำให้ผู้ป่วยโควิดเกิดอาการไอ ต่อต้าน หรือขัดขืน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่เชื้อในห้องผู้ป่วยได้มาก
ปัญหาก็คือ เวลาไปใส่ท่อนั้น จะต้องป้องกันคุณหมอดมยาด้วย ซึ่งก็อาจจะต้องคลุมหน้า คลุมตัวอย่างรัดกุมที่สุด และดีที่สุดคือ ใส่ชุดคล้าย “มนุษย์อวกาศ” ซึ่งโรงพยาบาลต่างๆ ก็มีอยู่ไม่มากนัก
ช่วงนี้ก็อาจจะขาดแคลน จะสั่งซื้อที่ไหน อย่างไร ฝากรัฐบาลช่วยดูแลด้วยก็แล้วกัน
คุณหมอเขียนได้น่ารักมาก แม้จะเสี่ยงมาก อ่านแล้วเสียวแทนท่าน แต่ท่านก็เขียนอย่างสนุกและไม่หวั่นเกรง ขอเชิญเข้า facebook ในชื่อคุณหมอที่ผมเอ่ยไว้ข้างต้น อ่านฉบับเต็มกันได้
อ่านแล้วจะรักคุณหมอ เอาใจช่วยคุณหมอ และรู้สึกขอบพระคุณ ตลอดจนสำนึกในสิ่งที่คุณหมอ คุณพยาบาลทั้งหลายจะต้องทำอย่างหนักหนาสาหัส เพื่อพวกเรานับแต่นาทีนี้เป็นต้นไป.
“ซูม”