เชื่อแล้ว! คนชื่อทรัมป์ อันตรายหมายเลข 1 ตัวจริง

วันนี้ผมคงต้องขออนุญาตอ้างอิงข้อเขียนประจำปีของไทยรัฐ “จากใจไทยรัฐ สู่ผู้อ่าน” ในหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอังคารที่ 31 ธันวาคม ส่งท้ายปีเก่า 2562 อีกสักครั้งละครับ

เพราะในคอลัมน์เปิดหัวใจคอลัมน์นี้นอกจากจะเขียนเป็นเชิงไม่อยากให้ใช้วาทกรรมที่ว่า “ปีนี้เผาหลอก ปีหน้าเผาจริง” เพราะเป็นการแช่งประเทศไทยที่เกินเหตุไป…ซึ่งผมก็ได้หยิบยกมาอธิบายให้เหตุผลเพิ่มเติมไปแล้วเมื่อวันก่อน

“จากใจไทยรัฐ” ยังกล่าวเป็นเชิงให้จับตาดูท่านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นของคนเยอรมันระบุว่าท่านเป็น “บุคคลอันตรายอันดับ 1 ของโลก” เอาไว้ด้วย

แม้คุณทรัมป์จะเตรียมลงนามในข้อตกลง “เฟส 1” ของการเจรจาเพื่อนำไปสู่การยุติสงครามการค้ากับจีน (ข่าวล่าสุดบอกจะลงนาม 15 มกราคมนี้) ซึ่งดูเหมือนจะทำให้เศรษฐกิจโลกในปี 2020 ดีขึ้นก็ตาม

แต่จากการที่คุณทรัมป์จะอยู่บริหารประเทศอย่างน้อยก็ 11 เดือนเต็มก่อนจะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนจะมีลูกป่วนอะไรออกมาอีกก็ไม่รู้

“จากใจไทยรัฐ” ใช้คำว่า “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจทรัมป์” ซึ่งดัดแปลงมาจากภาษิตโบราณของไทยที่สอนใจคนไทยไว้ว่า “อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน” นั่นเอง

แล้วก็เป็นดังเช่นภาษิตฉบับดัดแปลงที่ว่านี้เลยครับ…คือเราไม่สามารถจะวางใจท่านประธานาธิบดีทรัมป์ได้จริงๆ

ขึ้นปีใหม่ ค.ศ.2020 มาเพียง 3 วัน คือวันศุกร์ที่ 3 มกราคมเท่านั้น

คุณทรัมป์ก็ออกคำสั่ง ให้สังหาร พล.อ.กอซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ “คุดส์” ของอิหร่านโดยใช้ฝูงบินโดรน ติดอาวุธของสหรัฐฯยิงระเบิดเข้าใส่ พล.อ.กอซิม จนร่างแหลกละเอียดเสียชีวิตไปพร้อมกับผู้ติดตามอีก 5-6 คน

ในบริเวณพื้นที่สนามบินนานาชาติ กรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ขณะที่ พล.อ.กอซิม และคณะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจบางอย่างที่นั่น

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า พล.อ.ของอิหร่านท่านนี้คือผู้ทรงอำนาจ “อันดับ 2” รองจากท่านผู้นำสูงสุด อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี และว่ากันว่าอยู่เบื้องหลังในนโยบายสำคัญของอิหร่านเกือบทุกเรื่อง

การเสียชีวิตของ พล.อ.กอซิม จึงนำมาซึ่งความโกรธแค้นอย่างใหญ่หลวงของท่านผู้นำอิหร่าน จนถึงขั้นออกมาประกาศก้องโลกว่า จะตอบโต้สหรัฐฯ เพื่อชำระแค้นในทุกรูปแบบ

รวมทั้งประชาชนชาวอิหร่านก็ออกมาตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน กลางกรุงเตหะรานว่าจะตอบแทนการกระทำของสหรัฐฯอย่างสาสม

แล้วจะไม่ให้โลกทั้งโลกระอุขึ้นในฉับพลันทันใดได้อย่างไรล่ะครับ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงกราวใหญ่เมื่อเย็นวันศุกร์ หลังจากเพิ่งจะขึ้นมาอย่างน่าชื่นใจ เมื่อวันพฤหัสบดี

ที่จะเดือดร้อนมาถึงเราและโลกทั้งโลกด้วยก็ราคาน้ำมันนั่นแหละครับ เมื่อค่ำวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กพุ่งพรวดขึ้นถึง 1.87 เหรียญ ปิดที่ 63.05 เหรียญต่อหนึ่งบาร์เรล และที่ลอนดอนก็ขึ้นถึง 2.35 เหรียญ ปิดที่ 68.60 เหรียญต่อหนึ่งบาร์เรล

ถ้าเหตุการณ์บานปลายต่อไปอีกแบบหยุดไม่อยู่ ราคาน้ำมันก็มีสิทธิ์จะกระฉูดต่อไปเรื่อยๆ

ล่าสุดท่านเลขาธิการสหประชาชาติ อันโต นิโอ กูเตอร์เรส ได้ออกมาขอร้องให้ทุกๆ ฝ่ายที่เป็นคู่กรณี รวมทั้งผู้นำของโลกทั้งหลาย จงใช้ความอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด เพราะโลกไม่อาจปล่อยให้เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซียขึ้นได้อีกครั้ง

จะมีผู้นำคนไหนเชื่อฟังหรือไม่? คงต้องติดตามกันต่อไป

สำหรับคุณทรัมป์ ผมคิดว่าท่านคงไม่ฟังเท่าไหร่หรอก เพราะท่านทั้งโพสต์ทวิตเตอร์ และออกมาบอกกล่าวคนอเมริกันด้วยวาจาว่า ท่านสั่งจัดการเอง เพราะ พล.อ.กอซิม เป็นภัยต่อชีวิตของคนอเมริกัน ทำให้คนอเมริกันเสียชีวิตไปมากแล้ว และต่อไปก็จะเสียเพิ่มอีกถ้าไม่กำจัด

สรุป ไว้วางใจประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้จริงๆ ครับ แค่ 3 วัน ของศักราชใหม่ก็ป่วนโลกซะแล้ว…

ขณะเดียวกันก็ชักเห็นด้วยกับคนเยอรมันแล้วละว่าคนชื่อทรัมป์คือบุคคลอันตรายหมายเลข 1 ของโลกตัวจริง!

“ซูม”