มาอีกแล้วครับรัฐบาล “สายเปย์” ควักเงินออกมาแจกอีกแล้วรวมทั้งหมดตามที่หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวไว้ถึง 1.5 แสนล้านบาท
เริ่มจากแจกให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนจำนวน 71,742 แห่ง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ภายใต้วงเงิน 14,348.4 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็ก (เช่นยุ้งฉาง ชุมชน, โรงตากพืชชุมชน, โรงสีชุมชน, แหล่งเก็บน้ำชุมชน ฯลฯ)
ตามมาด้วยโครงการพักชำระหนี้หรือลดภาระหน้ีเงินกู้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้แก่สมาชิกที่มีความเดือดร้อน คาดว่าจะมีสมาชิกทั่วประเทศมาขอพักกว่า 5 หมื่นล้านบาท
และตามมาด้วยโครงการสนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ให้แก่กองทุนหมู่บ้านและสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร ฯลฯ ดอกเบี้ยต่ำ โดยผ่าน ธ.ก.ส. เป็นระยะเวลา 3 ปี ค่อยกลับมาเก็บดอกเบี้ยในอัตราของ ธ.ก.ส.ต่อไป
ที่สำคัญก็คือ การแจกเงินช่วยค่าเกี่ยวข้าวนาปีให้พี่น้องชาวนาทั่วประเทศ 4.57 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ ไร่ละ 500 บาท รวมแล้วไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท
ทั้งหมดจะใช้เงินเพื่อแจกพี่น้องชาวนา 4.57 ล้านครัวเรือนที่ว่ารวมแล้ว 26,793 ล้านบาท
อีกหนึ่งมาตรการในแพ็กเกจที่ผ่าน ครม.คราวนี้ หันมาแจกชาวกรุงบ้าง โดยจะแจกเงินค่าดาวน์บ้านให้ฟรีๆ รายละ 50,000 บาท แก่ผู้ท่ีจะซื้อบ้านหลังใหม่ และทำสัญญาระหว่างวันที่ 27 เดือนนี้ ถึง 31 มีนาคมปีหน้า โดยตั้งเป้าไว้ 100,000 ราย
แต่ละรายต้องมีรายได้ไม่เกินเดือนละ 1 แสนบาท หรือไม่เกินปีละ 1.2 ล้านบาท และต้องมีรายชื่ออยู่ในฐานผู้เสียภาษีด้วย
ผมขออนุญาตใส่เครื่องหมาย ฯลฯ ฯลฯ และ ฯลฯ เอาไว้ครับเพราะอาจจะมีบางโครงการที่ผมคัดลอกมาไม่ครบถ้วนหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจก็เลยผ่านไป
เอาเป็นสรุปว่าจะใช้เงินร่วมๆ 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท ตามที่หนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับพาดหัวก็แล้วกัน
แม้ส่วนใหญ่ของเงินก้อนนี้จะลงสู่รากหญ้า โดยเฉพาะจะลงสู่พี่น้องเกษตรกรและชาวชนบทที่ผมเอาใจช่วยและเคยใช้ชีวิตถึงกว่า 30 ปี ในการทำงานกับพี่น้องเหล่านี้
แต่ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยอยู่ดีละครับที่จะแจกแบบนี้
เหตุที่ใช้คำว่า “ไม่ค่อย” ก็เพราะโดยหลักการแล้วผมไม่เห็นด้วยเด็ดขาด แต่จะใจอ่อนยอมเห็นด้วยกับการแจกครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เพราะท่านเตรียมเงินไว้แล้ว ตั้งเป้าไว้แล้ว เหมือนใส่กระสุนและง้างไกปืนไว้แล้ว ยังไงๆ ท่านก็ต้องยิง
ผมก็จะทำใจเสียว่า เอาเถอะ ท่านยิงหรือแจกให้ผู้คนอื่นๆ มาเยอะแล้ว อีหลุ่ยฉุยแฉกมามากแล้ว ขอให้ชาวชนบทได้รับอานิสงส์กับเขาบ้างจะได้ทัดเทียมกัน
แต่จากนี้ต่อไปขออย่าทำอีก ไม่ว่าแจกให้ใครๆ…พอแล้วครับ ยุติเถอะครับ อย่าเปย์ อย่าแจกอะไรฟรีๆ อีกเลย
ผมเรียนแล้วว่าผมเห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ แต่จะต้องเป็นการกระตุ้นที่ชอบธรรมและสร้างสรรค์ มีโครงการ มีการทำงานและเสร็จแล้วจะก่อประโยชน์ต่อไปในระยะยาวด้วย
ไม่ใช่กระตุ้นแบบส่งเสริมการบริโภค ซึ่งจะเกิดการหมุนเวียนแค่วูบเดียวแล้วก็มอดไหม้ ไม่ส่งผลจีรังยั่งยืนอย่างที่ท่านกำลังดำเนินการ
อย่าเอาตัวเลขจีดีพีซึ่งเป็นตัวเลขที่เสกสรรปั้นแต่งในเครื่องคอมพิวเตอร์มาเป็นเป้าหมายในการทำงานมากนัก
พูดกันอยู่นั่นแหละ (โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง) กระตุ้นคราวนี้จะทำให้จีดีพีปี 2562 ขยายตัวได้ 2.8 เปอร์เซ็นต์ มากกว่า 2.6 เปอร์เซ็นต์ที่สภาพัฒน์คาดไว้
จะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ตัวเลขมะโนทั้งนั้นและก็อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น จะเกิดหรือไม่เกิดก็ไม่รู้ หรือเมื่อเกิดขึ้นจริงๆ ใครจะได้ ใครจะเสียก็ไม่รู้
แต่เม็ดเงิน 1.5 แสนล้านบาทที่จะแจกไม่ใช่เงินในอากาศ ไม่ใช่เงิน ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทว่าเป็นเงินจากหยาดเหงื่อของประชาชนขนานแท้
อีกแผล็บเดียวก็จะถึงเดือนมีนาคม 2563 แล้ว คนไทยจะต้องไปเสียภาษีเงินได้ของปีนี้กันแล้ว เห็นหรือยังว่า 1.5 แสนล้านบาทน่ะคือหยาดเหงื่อที่แท้จริงและไม่ใช่ตัวเลขมโน
จะจ่าย จะแจกอะไรโปรดคิดถึงหัวอกคนเสียภาษีบ้างนะครับ.
“ซูม”