ช่วงนี้กระแสเที่ยวจีนมาแรงแซงทางโค้งจริงๆ แล้วสายเที่ยวแบบเราจะย่อมพลาดได้ไง ด้วยทัศนียภาพสุดอลังการ และความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์แบบสุดๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย สวยปังสุดๆ
ว่าแต่สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจีนมีเยอะขนาดนี้ จะเที่ยวไหนกันดี สำหรับนักเที่ยวสายอินดี้ชอบความอินไซด์ในเรื่องของที่เที่ยวจีน มาทางนี้เลย ทัวร์ครับ (Tourkrub) เว็บไซต์ที่รวบรวมทัวร์ที่ดีที่สุกไว้ให้มากมาย ได้รวมที่เที่ยวจีนในแบบที่คนท้องถิ่นไปเที่ยวแล้วยังต้องไปซ้ำมาให้แล้ว
เช็คราคาและ จองทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)
1. Jiuzhaigou (จิ่วไจ้โกว)
แหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน ในเขตเมืองเฉิงตู ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย จิ่วไจ้โกวขึ้นชื่อเรื่องความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ และความสวยงามทางธรรมชาติจนได้รับยกย่องให้เป็น “แดนเซียนแห่งโลกมนุษย์” หรือ “ดินแดนแห่งเทพนิยาย” เปรียบได้ราวกับสวรรค์บนดินที่ทุกคนควรต้องได้มาเยือนสักครั้งในชีวิตก่อนตายเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงใบไม่เปลี่ยนสี ซึ่งจัดเป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดของจิ่วไจ้โกว ระหว่างเดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน
พิกัด : Jiuzhaigou
2. ภูเขาสีรุ้งตันเซีย อุทยานธรณีวิทยาจางเย๋ตันเซีย (Rainbow Mountain, Zhangye colorful Danxia Scenic spot)
อุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติของจีน ที่มีลักษณะภูมิทัศน์โดดเด่นแปลกตา และสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 2010 กับภูเขาหัวโล้น ซึ่งมีลวดลายสีสันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่หาดูได้ยาก กับภูเขาหินทรายสีขาว เหลือง ส้ม แดง ไล่เฉดสีวางตัวสลับซับซ้อน ทอดยาวไปทั่วบริเวณ ตั้งอยู่ในมณฑลกานซู เมืองจางเย่ ทางตอนเหนือของดินแดนมังกร
พิกัด : Zhangye colorful Danxia Scenic spot
3. ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว (Crescent Moon Lake)
Crescent Moon Lake หรือชื่อภาษจีนว่า เย่ว์หยาเฉวียน โอเอซิสกลางทะเลทราย กับทะเลสาบรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว กลางทะเลทราบโกบี ในเมืองตุนหวง มณฑลกานซู ทางตะวันตกของจีน ทะเลสาบรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ ความยาวกว่า 300 เมตร ความกว้าง 50 เมตร มีความลึก 5 เมตรโดยประมาณ ที่น้ำไม่เคยเหือดแห้ง โอบล้อมด้วยเนินทรายขนาดใหญ่โดยรอบบริเวณ ถือเป็นทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาไม่เหมือนใคร
พิกัด : Crescent Moon Lake
4. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain)
เทือกเขาขนาดเล็ก ตั้งอยู่ใกล้เมืองลี่เจียง ในมณฑลยูนนาน หนึ่งในทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองจีน กับทัศนียภาพของภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี แม้จะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน แต่มีระดับความสูงถึง 5,596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยไฮไลท์ของ Jade Dragon Snow Mountain แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงทัศนียภาพของภูเขาหิมะสีขาวโผนเท่านั้น แต่ยังมีทะเลสาบ Blue Moon Valley อันสวยงามบริเวณเชิงเขาอีกด้วย
พิกัด : Jade Dragon Snow Mountain, Yulong
5. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Nation Forest Park)
สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองจีนอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดัง และเป็นที่นิยมจากการเป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องอวตาร (Avatar) ด้วยภูมิประเทศที่มีลักษณะเฉพาะตัว แปลกตา สวยงาม ของยอดเขาสูงลิบจำนวนนับไม่ถ้วนที่โผล่ยื่นขึ้นมาเหนือท้องฟ้า ท่ามกลางสายน้ำที่เลี้ยวลดคดเคี้ยวทอดตัวยาวลัดเลาะไปตามเชิงเขา ป่าไม้เขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ และสภาพอากาศชื้นๆ ที่มีไอหมอกลอยล้อทิวเขาเกือบตลอดเวลา
พิกัด : Zhangjiajie
6. อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huanglong National Scenic Reserve)
อุทยานแห่งชาติหวงหลงหรือ Yellow dragon Gully อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันมีชื่อเสียงของจีน ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน โดดเด่นด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศ โดยมีไฮไลท์เด็ดอยู่ที่ ทะเลสาบสีเขียวมรกต และบ่อน้ำพุร้อนหลากสีที่ไล่ระดับลดหลั่นกันมาเป็นชั้นๆ อย่างงดงาม ท่ามกลางป่าเบญจพรรณอันอุดมสมบูรรณ์ จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1992 โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ถือเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดของที่นี่
พิกัด : Huanglong National Scenic Reserve
7. น้ำตกเต๋อเทียน (Detian Waterfall)
น้ำตกที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนจีน – เวียดนาม ในมณฑลหนานหนิง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของจีน และยังมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก แถมเป็นน้ำตกชายแดนที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียอีกด้วย น้ำตกเต๋อเทียน (Detian Waterfall) หรือที่ทางฝั่งเวียดนามเรียกว่า Ban Gioc Waterfall มีความกว้าง 200 เมตร สูงประมาณ 30 – 70 เมตร จากทางฝั่งประเทศจีน น้ำตกเต๋อเทียน จะแบ่งออกได้เป็น 3 ชั้น มีกระแสน้ำเป็นสายไหลลดหลั่นกันลงสูงแอ่งน้ำสีเขียวมรกตด้านล่างสุดอลังการ
พิกัด : Detian Waterfall
8. หมู่บ้านโบราณหงชุน ( Hongcun Village)
หมู่บ้านโบราณหงชุน ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาหวงซาน กับหมู่บ้านชาวจีนเก่าแก่ดั้งเดิมซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปีที่โดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวจีนได้อย่างลึกซึ้ง ลงตัว ด้วยธรรมชาติของแม่น้ำสายใหญ่ที่ทอดตัวผ่านหน้าหมู่บ้าน และภูเขาสีเขียวชอุ่มสูงชันที่ตั้งตระหง่าโอบล้อมหมู่บ้านอยู่ทางด้านหลัง รายล้อมด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ และทัศนียภาพอันงดงามราวกับภาพวาด จนทำให้ที่นี่รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจางองค์การ UNESCO ในปี 2000 อีกด้วย
พิกัด : Hongcun Village
9. มองโกเลียใน (Inner Mongolia)
ที่เที่ยวฮิปๆ สไตล์คนจีนท้องถิ่น กับทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสีเขียวอมเหลืองของมองโกเลียใน ที่ต้องจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นสวรรค์ของช่างภาพ ซึ่งต้องบอกว่าถ้าใครไม่รู้คงคิดว่าสถานที่นี้ไม่ได้อยู่ในเมืองจีน เพราะวิวทิวทัศน์ที่ห่างไกลการธรรมชาติของป่าเขียวขจี แม่น้ำ ทะเลสาบ และสถาปัตยกรรมจีนๆ แต่กลับรายล้อมด้วยทุ่งหญ้า ตัดกับท้องฟ้าโปร่งสดใส พร้อมกับภาพดอกกวางตุ้งบานในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคมโดยประมาณ ที่ราวกับหลุดออกจากแผ่นดินจีนไปแล้ว
พิกัด : Inner Mongolia
10. ทะเลสาบชิงไห่ (Qinghai Lake)
ทะเลสาบชิงไห่ ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดของเมืองจีน ตั้งอยู่ในมณฑลชิงไห่ กับทัศนียภาพที่เพียบพร้อมทั้ง ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ทะเลทราย และภูเขาหิมะ ซึ่งมีทีเด็ดอยู่ที่การท่องเที่ยวระหว่างเดือนสิงหาคม ถึงกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทางตอนเหนือของทะเลชิงไห่กลายเป็นทุ่งดอกไม้สีเหลืองอร่ามกินพื้นที่กว้างไกลเกือบสุดสายตา ด้วยดอกคาโมมายสีเหลือที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งทั่วพื้นที่ เมืองจีนก็มีทุ่งดอกไม้นะจะบอกให้ เห็นมั้ยล่ะทะเลสาบชิงไห่นี่ Unseen สุด ๆ
พิกัด : Qinghai Lake
ว่าไปแล้วเที่ยวเมืองจีนก็เก๋ดีไม่แพ้เมืองอื่นๆ เลยทีเดียว ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวจีนไม่มีพิกัดปลายทางสำหรับการเที่ยวจีนแล้วล่ะก็ “จีน เที่ยวไหนดี รวม 10 ที่เที่ยวสไตล์คนท้องถิ่น” มีคำตอบเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
เช็คราคาและ จองทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)
https://tourkrub.co/china-tour