ต้อนรับ “70 ยังแจ๋ว” ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน

ดังที่ทราบกันแล้วว่าประเทศไทยของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุค “สังคมสูงวัย” คือมีผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ถึงร้อยละ 10 กว่าๆ ทำให้เป็นห่วงกันมากว่าการพัฒนาประเทศจะช้าลง เพราะมีภาระที่จะต้องดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น

เป็นเหตุให้ผู้สูงอายุหรือผู้สูงวัยที่เราเรียกกันว่า “สว.” หลายๆ ท่านรู้สึกน้อยใจไปตามๆ กัน ที่ถูกมองว่าเป็นภาระของสังคม

แต่จากข่าวการจัดตั้งรัฐบาลและการจัดทัพใหม่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มี ส.ส.มากที่สุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้บรรดาผู้สูงอายุทั้งหลายแหล่ค่อยยิ้มออก หายน้อยใจลงไปแยะ

เพราะใน ครม.ชุดใหม่มีผู้อาวุโสอายุเกิน 70 ปี อยู่ถึง 3 ท่านได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (74 ปี) ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล (75 ปี) และ คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพนิช (78 ปี)

ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ปรากฏว่า คุณ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระบุว่า อายุ 78 ปี เข้าข่าย 70 ยังแจ๋วอีกราย

เผอิญว่าในบรรดาผู้อาวุโสที่เอ่ยนามมาทั้งหมดนี้ ผมมีโอกาสรู้จักแบบใกล้ชิดสนิทสนม เคยเรียนเคยคบค้าเคยทำงานมาด้วยกันยาวนานถึง 3 ท่าน จึงขอถือโอกาสนี้เขียนต้อนรับสักเล็กน้อย เผื่อจะช่วยเป็นกำลังใจในการทำงานแก่ท่านทั้ง 3 ได้บ้าง

เก่าแก่ที่สุดก็คือ ท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ที่คบค้ากันมาตั้งแต่ พ.ศ.2501 หรือ 61 ปีเต็มๆ ในปีนี้

ช่วงนั้นผมเรียนชั้นเตรียมอุดมปีที่ 1 หรือ ม.7 อยู่ที่ โรงเรียนเตรียมอุดม ในขณะที่สมพงษ์เรียน ม.7 ที่ โรงเรียนอำนวยศิลป์

มีเพื่อนศิษย์เก่าอำนวยศิลป์ที่เรียนห้องเดียวกับผมเป็นแกนนำชวนผมกับเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งไปสนิทสนมกับกลุ่มของคุณ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน และหัดกินเหล้าจนเมาด้วยกัน ที่ภัตตาคาร นิวยอร์ก ยุคโน้น ซึ่งน่าจะอยู่แถวๆ บริเวณที่ตั้งของสำนักงาน ป.ป.ส. หัวถนนดินแดงในขณะนี้

อุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อนจะเป็นอย่างไร? แต่เพื่อนก็คือเพื่อนที่เราจะติดตามถามไถ่ด้วยความรักและห่วงใยกันอยู่เสมอ

ดีใจด้วยที่เพื่อนยังไม่เกษียณอายุทางการเมือง ยังคงเป็นคนวัย 78 ที่กระฉับกระเฉง และดูตามทิศทางเพื่อนน่าจะได้เป็น ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ เร็วๆ นี้ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าไว้ด้วย

รายที่ 2 รู้จักยาวนานพอๆ กับรายแรกคือปี 2501 เช่นกัน ในฐานะนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมรุ่นเดียวกัน แถมห้องติดกันเสียอีกด้วย

ของท่านห้อง 29 ของผมห้อง 39 อยู่ที่ตึก 1 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เข้าใจว่าทุกวันนี้ก็ยังอยู่

คุณหญิง ดร.กัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จากพรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละครับ

เราเคยเป็นกรรมการรุ่นรุ่นเดียวกัน ประชุมพูดคุยกันหลายครั้ง

คุณหญิงกัลยามีความมุ่งมั่นที่จะไปทำงานทางการเมืองมาตั้งแต่อายุ 50 กว่าๆ และมาปรึกษาผมหลายหนก่อนการตัดสินใจ

แล้วท่านก็ไปสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็น ส.ส.ได้เป็นรัฐมนตรี จำไม่ได้แล้วว่ากระทรวงอะไรบ้าง

ครั้งนี้มาในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นกระทรวงสำคัญที่สุดในทัศนะของผม คุณหญิงยังแข็งแรงมากสติปัญญา ก็ยังเฉียบแหลมเหมือนเดิม พูดจาฉะฉานเหมือนคนอายุ 58 ปี ทั้งๆ ที่อายุย่าง 78 ปีแล้วก็ตาม

สุดท้ายเพิ่ง 76 ขวบเอง เพราะเกิด พ.ศ.2486 เป็นผู้อาวุโสที่อายุน้อยที่สุดในจำนวน 3 ท่านที่ผมเขียนถึงวันนี้…หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนั่นเอง

ผมกับหม่อมเต่าคบค้ากันมาตั้งแต่ พ.ศ.2515 ในฐานะข้าราชการไทยที่ได้รับเลือกไปอบรมสัมมนาหลักสูตรการบริหารรัฐกิจระยะสั้น 1 เดือนที่เยอรมนี พร้อมๆ กับพี่ๆ และเพื่อนๆ จากกระทรวงต่างๆเกือบ 30 คน

หม่อมเต่าเป็นคนเก่งมากคนหนึ่งเท่าที่ผมรู้จักและคบค้า จุดอ่อนของท่านมีอยู่ข้อเดียวคือปากจัด แต่หลังๆ ก็ลดทอนลงเป็นอันมาก

หวังว่าทั้ง 3 ท่านทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน คงจะไม่ทำให้พวกเรา ชาว สว.วัย 70 กะรัตเสียชื่อนะครับ…พิสูจน์ให้ได้ครับว่า 70 ยังแจ๋ว–อย่าให้เสียชื่อคนเขียน คอลัมน์นี้ (อายุ 78 ปีเหมือนกัน) ที่ออกมาเขียนเชียร์เพื่อนเต็มเหนี่ยวเชียวนา.

“ซูม”