ท่านผู้อ่านคงจำได้เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น ผมเคยลงผลการสำรวจความนิยมในการใช้บริการ “ส่งของ” ที่เรียกว่า Logistics ของนิตยสาร Marketeer พบว่า “เคอรี่เอ็กซ์เพรส” ขึ้นนำหน้าเป็นอันดับ 1 แซงไปรษณีย์ไทยไปเรียบร้อย
เฉพาะระดับประเทศ เคอรี่เอ็กซ์เพรส ได้ 71.8 เปอร์เซ็นต์ ไปรษณีย์ไทยได้ 23.7 เปอร์เซ็นต์ ต่างกันหลายขุม
แล้วผมก็เขียนทิ้งท้ายแสดงความห่วงใยไปรษณีย์ไทยพร้อมกับ ส่งใจไปช่วยเชียร์ตามประสาคนรักกันชอบกันยาวเหยียด
หลังจากเขียนลงคอลัมน์ไปไม่นานนัก ผมก็มีโอกาสได้พบกับ คุณสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้สัมภาษณ์พูดคุยกันอยู่นานพอสมควร ทำให้ทราบถึงนโยบายสู้ไม่ถอยของไปรษณีย์ไทยจนรู้สึกเบาใจลงไปเป็นอันมาก
ท่านกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ยอมรับเป็นประโยคแรกเลยว่า ตลาดโลจิสติกส์ในขณะนี้มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดกว่ายุคก่อนๆ
ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มของโลกยุคดิจิทัล ที่พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล
จริงอยู่แม้จากยอดรายได้ในแต่ละปีของไปรษณีย์ไทยจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ แต่ไปรษณีย์ไทยก็มิได้ตกอยู่ในความประมาท มีการจ้างนักวิชาการและบริษัทวิจัยมาช่วยประเมินสถานการณ์อยู่เสมอ
ผลการวิจัยของบริษัท Infosearch เพื่อเปรียบเทียบภาพลักษณ์ของไปรษณีย์ไทยกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ พบว่าแบรนด์ไปรษณีย์ไทยในปี 2561 ได้รับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นถึง 85.6 เปอร์เซ็นต์
โดยเฉพาะในแง่ภาพลักษณ์โดยรวมนั้น ผู้บริโภคยังมองว่า ไปรษณีย์ไทยดีกว่าบริษัทอื่นๆในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคงน่าเชื่อถือ หรือด้านคุณภาพในการให้บริการ
นอกจากนี้ ข้อมูลการสำรวจจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ก็พบว่า “ผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าที่ผู้ประกอบการนิยมมากที่สุด” อันดับ 1 ได้แก่ ไปรษณีย์ไทย แต่ก็ตามติดๆ มาด้วยเคอรี่
แม้จากการสำรวจตัวเองดังกล่าวจะทำให้บริษัทไปรษณีย์ไทยยังมั่นใจในการดำเนินธุรกิจด้านนี้อย่างมาก แต่ก็ขอบคุณผลสำรวจของ Marketeer ที่พบว่าไปรษณีย์ไทยตกเป็นรองเคอรี่ เพราะจะทำให้ไปรษณีย์ไทยหันมาปรับปรุงตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
โดยล่าสุดก็ได้ยกระดับมาตรฐานการบริการโดยเฉพาะความรวดเร็วให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า โดยจัดให้มีบริการ “ส่งเช้าได้บ่าย ส่งบ่ายได้เช้า” หรือ EMS Same Day Next Day
พร้อมกันนี้ก็ได้ขยายเวลารับฝาก ณ ที่ทำการไปรษณีย์ต่างๆ ไปจนถึง 2 ทุ่ม และเริ่มทดลอง ไปรษณีย์เที่ยงคืน คือรับฝากถึงเที่ยงคืน ที่ เดอะสตรีท รัชดา และทดลองเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ณ ศูนย์ไปรษณีย์ อีเอ็มเอส ถนนแจ้งวัฒนะ และ ปณ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น 4 ขาออก
ล่าสุดคือกระจายจุดให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,000 แห่ง เพื่อให้บริการรับฝากพัสดุสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้างต้นนี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการปรับปรุงการให้บริการของบริษัทไปรษณีย์ไทยเท่านั้น ยังมีการปรับปรุงการพัฒนา โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้อีกหลายด้าน
ผมบอกแล้วว่าผมลำเอียง และเอาใจช่วยบริษัทไปรษณีย์ไทยมาโดยตลอด เมื่อได้ฟังคำอธิบายต่างๆ เหล่านี้แล้วก็ใจชื้นขึ้นเยอะ
ขอให้ท่านกรรมการผู้จัดการใหญ่ทำอย่างที่เล่าให้ผมฟังนี่แหละ และทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะพนักงานไปรษณีย์น้อยใหญ่ทั่วประเทศก็ขอให้ทุ่มเทให้ดีที่สุด ตามแผนงานและโครงการที่กำหนดไว้ข้างต้น
ผมเชื่อว่าหากไปรษณีย์ฯยังเป็นแชมป์อยู่ ก็จะเป็นต่อไปอีกนานแสนนาน…หรือหากไปรษณีย์ไทยเสียแชมป์ไปแล้วอย่างที่ผลการสำรวจของ Marketeer ระบุเมื่อวันก่อน
อีกแป๊บเดียวก็จะได้แชมป์คืนมาอย่างแน่นอน…ถ้าไปรษณีย์ไทยใจยังสู้และทำอย่างที่คุณสมรบอกผมไว้.
“ซูม”