กลายเป็นข่าวฮือฮาและตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปากไปตลอดวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากราชกิจจานุเบกษา ลงประกาศรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ทั้ง 250 ชื่อ

หยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันรุ่งขึ้นขึ้นมาอ่านข่าวพาดหัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จะพบข่าวพาดหัวเล็กๆ ห้อยเอาไว้ด้วยในทำนองบรรยายสรรพคุณของท่าน ส.ว.โดยสังเขป

เช่นวลีหรือประโยคในทำนองว่า “ผัวเมีย-พี่น้องมาเพียบ” บ้าง, “นายพลพรึ่บ” บ้าง, “เด็กตู่พรึ่บ” บ้าง, “คนสนิทบิ๊กตู่-ป้อมยึดเก้าอี้ ส.ว.” บ้าง, “เครือข่าย คสช.ผงาด” บ้าง, “สภาร้อยนายพล” บ้าง, “แม่น้ำ 5 สายมาครบ” บ้าง ฯลฯ

ทำไงได้ล่ะครับ จะไปโทษหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้ เพราะรายชื่อส่วนหนึ่งก็เป็นอย่างที่หนังสือพิมพ์พาดหัวจริงๆ เสียด้วย

ผมเองแรกๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนที่รังเกียจระบบอุปถัมภ์หรือระบบเล่นพรรคเล่นพวกอะไรอยู่แล้ว

แต่เมื่อนั่งอ่านรายละเอียดไปจนครบ 250 ชื่อ โดยพยายามจะตัดออกไปว่าเป็นพี่ใคร น้องใคร หรือเคยอยู่ในกลุ่มแม่น้ำสายใดมาบ้าง

หันมาวิเคราะห์เฉพาะคุณสมบัติความสามารถและผลการทำงานของแต่ละชื่อที่ผมรู้จัก หรือเคยทำงานด้วย หรือเคยสัมภาษณ์พูดคุยด้วย หรือเคยอ่านข่าว อ่านบทความเกี่ยวกับผลงานที่ท่านเหล่านั้นดำเนินการอยู่

ผมนับๆ ดูเกือบๆ 100 คน เห็นจะได้ที่ผมเห็นว่าเป็นคนเก่ง เป็นคนมีความสามารถเคยประสบความสำเร็จในการรับราชการ และประกอบธุรกิจการค้า หรือกิจการใดกิจการหนึ่งมาแล้ว

ถ้าบุคคลเหล่านี้จะไม่นิ่งดูดาย และสำนึกในเงินเดือน หรือค่าตอบแทน ซึ่งมาจากภาษีอากรที่เป็นหยาดเหงื่อของประชาชน โดยจะเข้าไปทำหน้าที่ของ ส.ว. อย่างสุดความสามารถและอุทิศตนอย่างเต็มที่ละก็

ผมว่าท่านจะทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้พอสมควรทีเดียว

เท่าที่ลองหยิบ “รัฐธรรมนูญ 2560” มาอ่านบทเฉพาะกาลอีกครั้ง ทำให้ทราบว่าหน้าที่ของ ส.ว. นั้น มิใช่เพียงเข้าร่วมประชุมกับ ส.ส. เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

มาตรา 270 ยังระบุให้ ส.ว.มีหน้าที่และอำนาจติดตามเสนอแนะและเร่งรัด การปฏิรูปประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามหมวด 16 ว่า ด้วยการ ปฏิรูปประเทศ อีกด้วย

ทั้งนี้ในบทเฉพาะกาลยังระบุไว้ด้วยว่า คณะรัฐมนตรีจะต้องแจ้งความคืบหน้า ในการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศต่อรัฐสภา เพื่อทราบทุกเดือน และหากจะมีการออกกฎหมายใดๆ เพื่อการปฏิรูปประเทศ ก็จะต้องเสนอกฎหมายนั้น ให้พิจารณาในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา

ผมอ่านมาถึงตอนนี้แล้วก็รู้สึกดีใจ และมองว่าเป็นโอกาสทองของท่าน ส.ว.ทั้งหลาย ที่จะกู้ชื่อทั้งตัวท่านเอง และกู้หน้าบิ๊กตู่ บิ๊กป้อม ตลอดจนคณะกรรมการสรรหาในที่สุด

เพราะหากท่านเข้าไปทำเรื่องปฏิรูปประเทศอะไรที่ว่าอย่างจริงจัง จนเกิดมรรคเกิดผล ผู้คนต่างๆ รวมทั้งหนังสือพิมพ์ต่างๆ และคอลัมนิสต์ต่างๆ (ผมด้วย) ที่เคยดูหมิ่นดูแคลนท่านว่าเป็นญาติ เป็นพวกพ้อง เป็นน้อง เป็นพี่…ก็จะหน้าหงายไป

ในขณะที่บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม ก็จะยิ้มออกว่าเลือกคนได้ถูกต้อง

ผมหวังว่าท่าน ส.ว.ประมาณ 100 ท่าน ที่ผมคิดว่าผมรู้จักหรือรู้ประวัติ รวมกับอีกหลายๆ ท่านที่ผมไม่รู้จัก ไม่รู้ประวัติ แต่อาจจะเป็นคนเก่ง จะช่วยกันกู้หน้าบิ๊กตู่ บิ๊กป้อม และกรรมการสรรหาได้ในที่สุด

ส่วนจำนวนหนึ่งซึ่งอาจทำอะไรไม่เป็น และบางคนก็ชอบลาประชุมอย่างที่เคยเป็นข่าว ก็คงจะมีอยู่บ้าง ทำนองเหลือบไร ซึ่งย่อมมีอยู่ในสังคมไทยทุกแห่งหนก็ปล่อยเขาไป

ขอเพียงให้กลุ่มใหญ่ที่ผมฝากความหวังทำงานอย่างเต็มที่

ก็ขออนุญาตแนะทางสว่าง และให้กำลังใจอยู่ตรงนี้นะครับ…และยินดีจะเขียนขอโทษบิ๊กตู่ บิ๊กป้อม หากใน 5 ปีข้างหน้า ผมยังมีโอกาสเขียนหนังสือ โทษฐานที่ปากกาไว บังอาจเขียนต่อว่าท่าน

ผมขอยืนยันว่า ผมยินดีและพร้อมจะขอโทษด้วยใจจริงเลยครับ หากท่าน ส.ว.ชุดนี้ท่านทำงานได้บรรลุผลตามที่บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญระบุไว้…มิใช่เข้ามาแค่ยกมือเลือกนายกฯ แล้วก็รับเงินเดือนสบายๆ ไปแต่ละเดือน…5 ปีนี่เยอะนะครับ ชาวบ้านเสียภาษีกันเหนื่อยเลยล่ะ.

“ซูม”