ซอกแซกสัปดาห์ที่แล้ว เรายกเนื้อที่ให้กับเบื้องหน้าเบื้องหลังการจัดทำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิเศษ “เถลิงราชสมบัติ รัชกาลที่ 10” เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 ไปหนึ่งสัปดาห์

สัปดาห์นี้กลับมาสู่วงจรปกติของเราตามเดิมนะครับ และขอเริ่มด้วยเรื่องราว “ซอกแซกภูเก็ต” ที่ยังติดค้างอยู่ โดยเฉพาะเรื่อง “อาหารอร่อยๆ” ซึ่งทีมงานตั้งใจจะเขียนถึงอีก 2-3 แห่ง ต่อจากครั้งที่แล้ว

ท่านผู้อ่านคงพอจำได้สัปดาห์โน้น เราเขียนถึง 3 ร้านดังของภูเก็ต จากคำแนะนำแถมพาทีมงานไปนั่งรับประทานด้วยตนเอง โดยคุณ ไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวและช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ชาวภูเก็ตขนานแท้ ที่เผอิญลงไปเจอกันโดยมิได้นัดหมาย

ได้แก่ร้าน ตู้กับข้าว ร้าน กันเอง 2 และร้าน ทุ่งคากาแฟ บนยอดเขารัง ร้านอาหารที่วิวสวยที่สุดของเกาะภูเก็ต

หลังจากที่ท่านนายกฯ ไพฑูรกลับ กทม.แล้ว แต่ทีมงานยังอยู่ต่อ มีโอกาสแวะไปหาอาหารรับประทานกันตามลำพัง เจอร้านอร่อยถูกใจ ขอถือโอกาสบันทึกเพิ่มเติมไว้ดังต่อไปนี้

ร้านแรกที่ทีมงานซอกแซกไปเจอโดยบังเอิญได้แก่ร้าน ครัวริมพาน ซีฟู๊ด ครับ ตั้งอยู่ที่บริเวณหาดเล็กๆ ริม สะพานสารสิน ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมเกาะภูเก็ตกับแผ่นดินใหญ่ บริเวณบ้านท่านุ่น ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง ของจังหวัดพังงา นั่นเอง

คำว่า “ริมพาน” มาจาก “ริมสะพาน” นั่นแหละครับ พี่น้องชาวใต้เขามักจะเรียกสั้นๆ หรือใช้คำย่อๆ “สะพาน” จึงกลายเป็น “พาน” ไปด้วยประการฉะนี้

ที่ว่าพวกเราไปเจอโดยบังเอิญก็เพราะวันหนึ่งตั้งใจจะข้ามไปเที่ยวพังงา จึงต้องไปข้ามสะพานสารสิน ปรากฏว่าก่อนถึงสะพานได้เวลาเที่ยงวันพอดี ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ จึงบอกให้โชเฟอร์ประจำคณะแวะเข้าร้านอาหารอะไรก็ได้แถวๆ นี้ หาอะไรรองท้องเอาไว้ก่อน

ปรากฏว่าโชเฟอร์พาพวกเราลงข้างสะพานแล้วก็ไปจอดที่ข้างๆ สวนอาหาร “ครัวริมพาน” หรือ “ริมพาน ซีฟู๊ด” ในอีกไม่กี่นาทีถัดมา

เรามาเปิดปูมตรวจสอบภายหลังพบว่าดังไม่เบาเหมือนกันร้านนี้ ได้ 4 ดาวจาก วงใน และ 4 ดาวครึ่งจากแฟนๆ ที่เขียนชมผ่านเฟซบุ๊กหลายๆ คนเชียวแหละ

ทีมงานซอกแซกไม่รู้ข้อมูลมาก่อน ก็เลยจิ้มสั่งไปตามความหิว มีข้าวผัดปู ต้มยำโป๊ะแตก กะเพราเนื้อ ไข่เจียวปู ผัดเผ็ดหอยลาย ล้วนอาหารพื้นๆ ทั้งนั้น

แต่อร่อยอย่างเหลือเชื่อ จนต้องยกนิ้วให้ 4 ดาวครึ่งไปด้วยอีกคน และมานึกเสียดาย เมื่อมาอ่านรีวิวภายหลังเขาบอกว่า ของอร่อยร้านนี้ ต้องเริ่มด้วย จักจั่นทะเลทอด, ปลากระพงทอดน้ำปลาทิพรส, กุ้งแชบ๊วยอบหม้อดิน, แกงเหลืองเนื้อปลาเก๋า, ปลาทรายทอดขมิ้น และ หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ฯลฯ เป็นต้น

ขอลงบัญชีเอาไว้ก่อนละกัน มีโอกาสกลับมางวดหน้าจะไล่สั่งตามเมนูที่ว่านี้เลยครับ

ที่ชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นบรรยากาศนั่นแหละครับ เพราะออกแบบเป็นซุ้มเล็กๆ หลายซุ้มอยู่ชายหาดริมทะเล มองเห็น สะพานสารสิน ทอดยาวไปที่ฝั่งพังงาข้างหน้า

เห็นแล้วก็อดที่จะระลึกถึงความหลังเสียมิได้ เพราะช่วงยังเป็นหนุ่มจบมหาวิทยาลัยหมาดๆ หัวหน้าทีมซอกแซกในฐานะข้าราชการชั้นตรี ของสภาพัฒน์ ถูกส่งตัวมาสำรวจภาวะเศรษฐกิจที่จังหวัดพังงา เมื่อปี 2510

จำได้เขามีพิธีเปิด “สะพานสารสิน” ซึ่งเชื่อมภูเก็ตเข้ากับแผ่นดินใหญ่ คือ ที่ท่านุ่น พังงา พอดิบพอดี ยังแวะไปร่วมพิธีเปิดกับเขาด้วย

ก่อนหน้านั้น การเดินทางจากภูเก็ตจะเข้า กรุงเทพฯ ทางรถยนต์ จะต้องมาข้าม แพขนานยนต์ หรือบางครั้งก็เรียกว่าโป๊ะ ที่บริเวณท่าฉัตรไชย แล้วขึ้นฝั่งที่ท่านุ่น จนกระทั่ง พ.ศ.2494 จึงมี ความคิดริเริ่มที่จะสร้างสะพาน

ปรากฏว่าต้องใช้เวลานานมาก เพราะบริษัทรับเหมารุ่นแรกๆ ไม่ชำนาญการพอ ไม่มีประสบการณ์ในการสร้างสะพานข้ามทะเล ต้องเปลี่ยนบริษัทหลายหน

จนถึงปี 2508 จึงเริ่มขึ้นใหม่ คราวนี้สร้างเสร็จใน 2 ปี สามารถเปิดใช้ได้ในปี 2510 และตั้งชื่อว่าสะพาน “สารสิน” ตามนามสกุลของท่าน พจน์ สารสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ ที่รับผิดชอบในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ ใน พ.ศ.นั้น

เห็นไหมล่ะนั่งรับประทานไป คิดถึงความ หลังไปยาวเหยียดเลย อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อาหารร้านนี้อร่อยเป็นพิเศษเอาละจบเรื่องสะพานสารสินกับร้าน “ครัวริมพาน” ไว้เพียงเท่านี้ก่อนไปว่ากันถึงร้านที่ 2 ที่เราเจอโดยบังเอิญอีกร้านดีกว่า

เป็นร้านหมี่ฮกเกี้ยนครับ ชื่อร้าน “หมี่ต้นโพธิ์” ซึ่งมีตำนานเล่าว่าก่อกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2489 โดยแปะกงที่ตระเวนขี่สามล้อไปทั่วตลาดภูเก็ต ก่อนที่จะไปเช่าพื้นที่เปิดร้านบริเวณหอนาฬิกาใต้ต้นโพธิ์ต้นใหญ่ข้างศาลเจ้าฮกหงวน จึงได้ชื่อว่า “หมี่ต้นโพธิ์” นับแต่นั้น

มาถึง พ.ศ.นี้บะหมี่ต้นโพธิ์ เข้าสู่ยุคที่ 3 พัฒนาเป็นร้านทันสมัยถึง 4 สาขาด้วยกัน

ร้านที่ทีมงานซอกแซกไปพบเจออยู่บนเส้นทางไปสนามบินในเขต อำเภอถลาง อยู่ใกล้ๆ กับธนาคารกรุงเทพ

โชเฟอร์ของเราอีกแหละครับที่พาทีมงานซอกแซก ซึ่งกำลังจะไปขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ แวะหาอะไรรองท้องกันซะก่อนที่บะหมี่ต้นโพธิ์ สาขาถลาง ตกแต่งร้านทันสมัย ติดแอร์เย็นฉ่ำ ทั้งร้าน

อร่อยใช้ได้เลยครับ มีทั้งหมี่ต้นโพธิ์แห้ง น้ำ ต้นตำรับ ก๋วยเตี๋ยวผัดต้นโพธิ์แบบผัดซีอิ้วก็อร่อย และอีกเมนูที่เป็นสัญลักษณ์ คือ บี่หุ้นหมี่ผัดต้นโพธิ์

สนนราคาเข้าใจว่าบวกค่าแอร์ด้วย ค่าตกแต่งร้านให้ทันสมัยด้วยเลยตกชามละเกือบ 80 บาท หรือ 80 กว่าๆ เป็นส่วนใหญ่

ก็โอเคครับถือเป็นของแท้ภูเก็ตที่มีการรักษาเอาไว้แล้วมาต่อยอดเป็นร้านอาหารทันสมัย

ไม่แน่…ในอนาคตอาจจะกลายเป็น “แฟรนไชส์” แพร่หลายมาถึงเมืองกรุงก็ได้นา.

“ซูม”

อ่านเพิ่มเติม
อิ่มอร่อยสไตล์ “ภูเก็ต” คนภูเก็ต…“ชวนชิม”