ปลอบใจนักเลือกตั้ง ทุกการแข่งขันมีแพ้ชนะ

ผ่านไปเรียบร้อยแล้วนะครับ การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 8 ปีของประเทศไทย เมื่อ 24 มีนาคม แม้ผลที่ กกต.แถลงมาจะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็พอที่จะนำมาวิเคราะห์โน่นนี่ได้เยอะ

โดยเฉพาะตัวเลขผู้ชนะ ส.ส.เขต น่าจะเชื่อมั่นได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ละครับ ว่าผู้ชนะจะได้แก่ท่านว่าที่ ส.ส. ที่ กกต.ประกาศออกมาล่าสุดทั้ง 350 เขต

เมื่อการแข่งขันจบลง รู้ผลแพ้ชนะเรียบร้อยแล้ว ผมในฐานะกองเชียร์ก็อยากจะเขียนแสดงความยินดีแก่ “ผู้ชนะ” และแสดงความเสียใจ รวมไปถึงการปลอบใจ “ผู้แพ้” เอาไว้บ้าง…

เริ่มจากพรรคที่โชว์ฝีมือได้ตามฟอร์มตามที่มีการวิเคราะห์ล่วงหน้าไว้ก็คือพรรค เพื่อไทย นั่นแหละครับ การได้ชัยชนะในประเภท ส.ส.เขตสูงสุด (137 ที่นั่ง) ถือว่าเป็นไปตามคาดหมายของโพลต่างๆ

ส่วนที่ประกาศเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้นก็ถือว่าเป็นไปตามกติกา เมื่อได้เสียงมากสุดก็ต้องเสนอตัวเอาไว้ก่อน แต่จะสำเร็จหรือไม่คงต้องตามดูกันต่อไป

อีกพรรคหนึ่งที่ได้ชัยชนะเช่นกัน ได้แก่ พรรค พลังประชารัฐ เพราะมีการคาดว่าจะได้ที่ 2 บ้าง ที่ 3 บ้าง แต่ลงท้ายทำได้ที่ 2 ในประเภท ส.ส. เขต (97 ที่นั่ง) และอาจจะกลายเป็นที่ 1 ถ้ารวม ส.ส. บัญชีรายชื่อภายหลัง ต้องถือว่าทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์วิเคราะห์คาดไว้

สำหรับพรรคที่ถือว่าเล่นดีโชว์ฟอร์มดีอีกพรรคก็คือ “อนาคตใหม่” นั่นเอง การได้ ส.ส.เขตถึง 30 ที่นั่งต้องยกนิ้วให้เลย สำหรับพรรคที่เพิ่งจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งเพียงหนแรกและประกอบด้วยคนรุ่นหนุ่มไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน

ครั้นเมื่อมองไกลไปถึง ส.ส. บัญชีรายชื่อด้วยก็ปรากฏว่าพรรคนี้ สามารถเก็บคะแนนนิยม โดยรวมไว้ได้ค่อนข้างสูงมีโอกาสจะได้ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างเป็นกอบเป็นกำ จนอาจกลายเป็นพรรคที่มี ส.ส.สูงเป็นอันดับ 3 เลยทีเดียว

ดังนั้น ถ้าเป็นทีมฟุตบอลหรือเป็นทีมกีฬาอะไรสักทีมหนึ่งต้องถือว่าทีมนี้ “แจ้งเกิด” เต็มตัวในการแข่งขันครั้งนี้

ก็มาถึงพรรคที่ได้ชัยชนะเช่นกัน และเป็นชัยชนะที่งดงามเสียด้วย และค่อนข้างจะเหนือความคาดหมายอยู่พอสมควร

พรรค “ภูมิใจไทย” ไงครับ ได้ ส.ส.เขตมาถึง 39 ที่นั่ง และหากรวม ส.ส.บัญชีรายชื่อภายหลังก็จะมากเป็นกอบเป็นกำอีกพรรค

พรรคนี้เข้ามาสอยได้ในหลายๆเขตที่คาดไม่ถึง จะเป็นเพราะนโยบายพรรคเรื่องกัญชาเสรี หรือเป็นเพราะความกล้าหาญของหัวหน้าพรรค คงต้องค้นหาสาเหตุกันต่อไปครับ

เมื่อมีผู้ชนะก็ต้องมีผู้แพ้…และผู้แพ้ที่เจ็บปวดที่สุดเห็นทีจะหนีไม่พ้น พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถ้าเป็นทีมฟุตบอลก็ต้องถือว่าเป็นทีมเก่าแก่ระดับแมนฯยู-ลิเวอร์พูลของอังกฤษ อย่างไรอย่างนั้น

ผลที่ออกมาค่อนข้างผิดคาด นอกจากจะได้ ส.ส.เขตเพียง 33 ที่นั่งเท่านั้นแล้ว ใน กทม. ยังได้ “ศูนย์” อีกด้วย ถึงขนาดหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่า “สูญพันธุ์ใน กทม.”

การพ่ายแพ้ของประชาธิปัตย์ส่งผลให้ “โค้ช” ซึ่งเป็นผู้เล่นด้วยประกาศลาออกจากตำแหน่งไปเรียบร้อยแล้ว

อะไรเป็นสาเหตุให้ประชาธิปัตย์เล่นผิดฟอร์มหวังว่าทางพรรคคงจะตั้งเป็นประเด็นพร้อมกับจัดสัมมนาภายในพรรคตัวเอง เพื่อหาคำตอบที่ชัดเจนสำหรับแก้ไขและฟื้นฟูต่อไปในอนาคต

ครับ! ขอสรุปอีกครั้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกพรรค และขอให้ใช้ชัยชนะไปในทางที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ อย่างที่ให้สัญญาเอาไว้ระหว่างหาเสียง

ส่วนผู้แพ้จะร้องไห้บ้างก็ไม่ว่ากัน เสร็จแล้วก็ให้รีบเช็ดนํ้าตาเสียให้แห้งแล้วกลับมาสู้ใหม่…ไปปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง อีก 4 ปีข้างหน้าคงไม่นานเกินไป

หรืออาจจะไม่ถึง 4 ปีก็ได้ครับ เผลอๆ อาจจะมีการฟ้องร้องอะไรกันสักอย่าง จนได้เลือกใหม่เร็วๆ นี้ก็เป็นได้ แฮ่ม!

“ซูม”