เก็บภาษีไม่ใช่ง่ายๆ เวลาใช้จึงต้องระวัง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองมีข่าวว่า กรมสรรพากรสามารถเก็บภาษีในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 “ทะลุเป้า” ไปเรียบร้อย

คำว่า “ไตรมาสแรก” ของปีงบประมาณ 2562 ก็คือ ช่วงเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม ปี 2561 นั่นเอง เพราะปีงบประมาณจะเริ่มก่อนปีปฏิทิน 3 เดือนอย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว

ท่านอธิบดีกรมสรรพากร เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ท่านแถลงด้วยตนเองว่า ช่วง 3 เดือนที่ว่า สามารถจัดเก็บได้ถึง 412,391 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 41,709 ล้านบาท หรือ 11.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันก็สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 28,000 ล้านบาท หรือประมาณ 7.3 เปอร์เซ็นต์

ผมคงไม่ลงลึกในรายละเอียดนะครับว่าเพราะเหตุใดท่านถึงเก็บภาษีได้ทะลุเป้าและได้มาจากสินค้าหรือบริการในเรื่องใดบ้าง

เพราะเจตนารมณ์ที่หยิบมาเขียนถึงวันนี้ก็เพื่อจะปรบมือให้ท่าน และเจ้าหน้าที่สรรพากรทุกๆ คนที่ทำหน้าที่ในการจัดเก็บภาษีอย่างขยันขันแข็งและมีประสิทธิภาพจนเก็บได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ดังกล่าว

ผมตระหนักดีว่าภาษีบางอย่างเก็บได้ไม่ยากนัก แต่ภาษีบางอย่างก็เก็บยาก เพราะแม้ว่าหน้าที่ในการเสียภาษีจะเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคนที่จะต้องจ่ายภาษีเพื่อทำนุบำรุงแผ่นดินไทย

แต่ก็ใช่ว่าคนไทยทุกคนจะเข้าใจในหน้าที่อันมีเกียรตินี้…ส่วนมากทีเดียวที่มักจะหาทางหลบเลี่ยงหรือหาทางที่จะเสียภาษีน้อยลง

ทำให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจะต้องออกแรง จะต้องใช้ความพยายามในการที่จะหาหลักฐาน หาข้อเท็จจริงมายืนยันเพื่อจัดการกับคนหลบเลี่ยงภาษีไม่ให้หนีรอดไปได้อยู่เสมอๆ

นอกจากนี้ผมยังเคยเห็นเจ้าหน้าที่สรรพากรจำนวนไม่น้อยทำหน้าที่ในการปกป้องเงินของรัฐในกรณีที่บริษัทจะขอคืนตามสิทธิ์ต่างๆ ของบริษัท

เจ้าหน้าที่จะตรวจตราอย่างละเอียดยิบซักแล้วซักอีก ขอหลักฐานเพิ่มเติมโน่นนี่นั่นจนคนขอคืนบางครั้งแทบจะถอดใจ

เพื่อนผมรายหนึ่งเปิดกิจการโรงพิมพ์เล็กๆ เคยมาเล่าให้ฟังว่า เขาจะต้องได้คืนค่าแวต ประมาณสักหมื่นบาทเศษๆ เท่านั้น แต่กว่าจะได้เหนื่อยสายตัวแทบขาด เพราะเจ้าหน้าที่สรรพากรขอดูเอกสารยุ่บยั่บไปหมด

ใช้เวลาหลายเดือนกว่าฝ่ายสรรพากรจะยอมคืนเงินให้

ผมฟังเพื่อนเล่าแล้วก็อดที่จะชมเชยเจ้าหน้าที่สรรพากรเสียมิได้ ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องเงินที่ไหลมาเข้าคลังแล้วไม่ให้ไหลกลับออกไปได้ง่ายๆ เพื่อมิให้มีคนย่ามใจมาหลอกเอาเงินจากราชการทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง

นอกจากกรมสรรพากรแล้ว วันก่อนผมก็เห็นข่าวแว้บๆ ว่า กรมศุลกากรเก็บได้เกินเป้าเช่นกัน ส่วนกรมสรรพาสามิตยังไม่แน่ใจ เพราะไม่เห็นข่าว แต่ก็เดาว่าน่าจะเกินเป้าอีกนั่นแหละ

ขอชมเชยล่วงหน้าทุกๆ กรมก็แล้วกัน

เมื่อชมท่านอธิบดีทุกท่านตลอดจนลูกน้องฝ่ายข้าราชการประจำทุกๆ คนเช่นนี้แล้ว ผมก็ขออนุญาตฝากกราบเรียนไปยังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง

ผมไม่เห็นด้วยกับความใจดีของท่าน และได้เขียนท้วงติงมาตลอดนับตั้งแต่ท่านลงมือแจกโน่นแจกนี่แก่คนยากจน

เมื่อ 2 วันก่อนก็มีข่าวว่าท่านจะแจกอีกแล้ว โดยแจกไปฝึกอบรมคนจนเพิ่มขึ้นหรืออย่างไรนี่แหละ

ก็พอจะโอเคได้เพราะแจกแบบนี้ถือว่าแจกเบ็ดหรือแจกแหให้ไปตกปลา แม้จะยังไม่แน่ใจว่ายอดคนมาอบรมจะจริงตามนั้นไหม? อบรมแล้วทำมาหากินได้จริงหรือเปล่า? แต่ก็พอยอมรับได้

ที่จะไม่ยอมง่ายๆ แจกเมื่อไรผมก็จะยกมือค้านเมื่อนั้นก็คือข่าวที่ว่า ผู้มีบัตรคนจนกลุ่มหนึ่งเรียกร้องให้ท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ต่ออายุโครงการแจกเงินคนจนต่อไป

ท่านรัฐมนตรีคลังอย่ายอมนะครับ ขอให้เห็นหัวอกลูกน้องข้าราชการประจำของท่านบ้างว่าเขาต้องเหนื่อยยากเพียงใดกว่าจะเก็บเงินภาษีมาได้แต่ละก้อน

อย่างที่ผมบอกน่ะแหละ จะคืนเงินให้เพื่อนผมแค่หมื่นบาทเท่านั้น เจ้าหน้าที่สรรพากรเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก เพื่อจะปกป้องเงินหลวงไว้ให้ได้ แต่ท่าน รมว.พาณิชย์ขอไปแจกซะงั้น ช่างไม่เห็นอกเห็นใจคนหาเงิน และคนปกป้องเงินซะบ้างเลย.

“ซูม”