หลังฝนกรณี “ภูเก็ต” นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา

ผมนั่งลุ้นนั่งรอมากว่าเดือนเต็มๆ ว่าหลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม จนทำให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิตไปถึงกว่า 50 รายนั้น…สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร?

เพราะในช่วงแรกๆ หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นใหม่ๆ มีรายงานข่าวว่าทัวร์จีนสั่งยกเลิกห้องพัก ยกเลิกการเดินทางมาภูเก็ตจนทำให้ห้องพักของโรงแรมต่างๆ ว่างไปตามๆ กัน และมีการคาดว่าจะเกิดผลเสียหายถึง 42,000 ล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว

ผมก็พลอยใจหายไปด้วย ต้องหยิบข่าวมาเขียนปลอบใจเจ้าของธุรกิจท่องเที่ยวในภูเก็ตทั้งหลายให้กัดฟันสู้ต่อไป ให้อดทนเข้าไว้ หวังว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น

เมื่อ 2 วันนี่เองครับ ท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังเกิดเหตุเรือล่มแล้วยังคงมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากเป็นอันดับ 1 โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมมีจำนวนถึง 929,771 คน

ลดลงแค่ 0.87 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ถือว่าลดน้อยกว่าที่คาดไว้

ในทางตรงข้ามปรากฏว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวจีนในเดือนเดียวกันนี้กลับสูงถึง 51,380 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 4.47 เปอร์เซ็นต์ด้วยซํ้าไป

ดังนั้น เมื่อรวม 7 เดือนนับตั้งแต่ต้นปี นักท่องเที่ยวจีนจึงยังคงสูงถึง 6.86 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 21.44 เปอร์เซ็นต์ สร้างรายได้รวม 371,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.86 เปอร์เซ็นต์

ท่านปลัดฯ คาดหมายว่าไตรมาสที่ 4 หรือไตรมาสสุดท้ายของปีนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น นักท่องเที่ยวน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย และ 1 ต.ค. เป็นวันชาติจีน หรือโกลเด้น วีก ที่นักท่องเที่ยวจีนจะออกท่องเที่ยวทั่วโลกกันมาก ท่านก็หวังว่านักท่องเที่ยวจีนน่าจะยังเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยของเราอยู่เหมือนเดิม

ผมฟังท่านแถลงข่าวแล้วก็เบาใจลงเยอะ และเอาใจช่วยขอให้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างจงคลี่คลาย นักท่องเที่ยวจีนจะได้เดินทางมาเยือนไทยในจำนวนมากตามที่คาดหวังไว้

ดังที่ผมเคยเขียนไว้แล้วว่า เรายังต้องการทัวร์จีน แต่ต้องไม่ใช่ทัวร์จีนประเภททัวร์ศูนย์เหรียญ ที่มีการเรียกเก็บค่าทัวร์ราคาถูก ล่อใจให้คนจีนมาเที่ยว แล้วก็จัดการขูดรีดหรือกระทำทุกวิถีทางที่จะรีดรายได้จากนักท่องเที่ยวดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ก็มาในรูปตั้งบริษัทไทยเป็นนอมินี กวาดรายได้แทบจะทั้งหมดเป็นของเขา จนประเทศไทยแทบไม่ได้อะไรเลย แม้แต่ภาษีก็ยังมีการหลบเลี่ยง

หากเราสามารถแก้ปัญหาที่หมักหมมทั้งเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญได้ หรือเรื่องนอมินีได้ก็มาเลยครับ เพราะนักท่องเที่ยวจีนที่มีรายได้ดีมักมือเติบ ตามประสาเศรษฐีใหม่ใช้จ่ายเงินเป็นระวิง นับเป็นลูกค้าชั้นดีและเป็นที่ต้องการของประเทศต่างๆในยุโรปอย่างมาก

เท่าที่ฟังจากท่านปลัดฯ ทำให้ทราบด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทธุรกิจทัวร์จีนลดลงไปมากจาก 400 บริษัท เหลือเพียง 100 บริษัท น่าจะมีผลมาจากการปราบบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญไม่มากก็น้อย

ขณะเดียวกัน ก็พบว่านักท่องเที่ยวจีนที่มากับทัวร์อยู่ที่ 58 เปอร์เซ็นต์ เกินครึ่งมาเล็กน้อย แต่มาด้วยตัวเองถึง 42 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มที่จะมาด้วยตัวเองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นักท่องเที่ยวกลุ่มหลังที่มากันเองนี่แหละครับ ที่จะนำเงินมาใช้จ่ายในประเทศไทยเราอย่างแท้จริง ไม่ผ่านบริษัททัวร์ จึงไม่ถูกจำกัดให้ซื้อแต่ของในร้านค้าที่เป็นเครือของทัวร์ หรือไปดูไปเที่ยวแต่ที่ทัวร์จัดไว้

ก็จะทำให้การกระจายรายได้ดีขึ้น เพราะจะมีร้านค้าหรือพ่อค้าแม่ค้าไทยทั่วๆไปได้รับประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งเมื่อไม่ผ่านบริษัททัวร์ ซึ่งเปรียบเสมือนนายหน้า พ่อค้าแม่ค้าไทยก็จะมีรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ฟังดูแล้วก็ถือว่าเป็นข่าวดีครับ แต่ก็หวังว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จะยังคงไม่หยุดนิ่งในการที่จะทำประชาสัมพันธ์ ตลอดจนทำความเข้าใจเพื่อสร้างภาพลักษณ์ในทางบวก และขจัดความรู้สึกในทางลบจากกรณีเรือล่มให้เหลือน้อยลงจนถึงหมดไปให้จงได้

ที่สำคัญพยายามส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเอง โดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ให้มากขึ้นไปอีกนะครับ นั่นแหละรายได้เนื้อๆ จะเป็นของเราโดยไม่มีใครมาเบียดบัง.

“ซูม”