ในช่วงวันหยุดยาวเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ผ่านมา ถนนหนทางในย่านลาดพร้าว รามคำแหง และศรีนครินทร์ ที่กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า พร้อมๆ กันหลายสายว่างลงชั่วขณะหนึ่ง
เมื่อรถราใน กทม.คงจะออกไปต่างจังหวัดกันมาก ทำให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนลดน้อยลง ทำให้พี่น้องที่อยู่ทางซีกตะวันออกโดยเฉพาะในเขตบางกะปิ มีนบุรี หนองจอก ไปไหนมาไหนสะดวกขึ้นมาก
ผมซึ่งมาทำงานที่ไทยรัฐตามปกติ เพราะไม่ได้หยุดอะไรกับเขา เมื่อวันเสาร์กับอาทิตย์จากบางกะปิผ่านลาดพร้าวถึงโรงพิมพ์ฉลุยเลยครับ แค่ครึ่งชั่วโมงเอง
จากที่เคยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง หรือ 1 ชั่วโมงครึ่งมาโดยตลอด หลังจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และมีอยู่วันหนึ่งผมไม่ได้เจอเอง แต่เพื่อนเจอ 2 ชั่วโมงเต็มๆ อย่างที่มีการร้องเรียนไปแล้ว ซึ่งผมก็หยิบมาเขียนเต็มๆ คอลัมน์อยู่วันหนึ่ง
ไม่ทราบว่ากลับมาสู่ภาวะการทำงานตามปกติหลังวันหยุดยาวสถานการณ์จะเป็นอย่างไรบ้าง?
ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะดีขึ้นกว่าในช่วงโกลาหลอลหม่านสุดๆ ที่มีเสียงบ่นกระหึ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม ซึ่งเป็นสุดยอดของความทุกข์ทรมานของคนใช้รถใช้ถนนทั่วกรุง มิใช่เฉพาะลาดพร้าวเท่านั้น
ที่คาดว่าจะดีขึ้นบ้างก็เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท่านผู้ว่าฯ กทม. และท่านผู้แทนกระทรวงคมนาคม ท่านผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลการจราจรใน กทม. ท่านขานรับเสียงร้องทุกข์อย่างดียิ่ง
มีการเชิญบริษัทรับเหมาก่อสร้างมาพูดคุยพร้อมกับหาจุดผ่อนปรนเปิดตรงนั้น ปิดตรงนี้ ขยายตรงโน้นเท่าที่จะทำได้
ในนามของประชาชนชาว กทม. ฝั่งตะวันออก ผมขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อย่างสูงยิ่งไว้ ณ ที่นี้
จะผ่อนปรนได้หรือไม่ได้อย่างไร เราทำใจรับกันอยู่แล้วครับ…สิ่งที่เราต้องการก็คือน้ำใจและความเอื้ออาทร ตลอดจนความห่วงใยของท่านที่มีต่อประชาชนชาว กทม.มากกว่า
แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วครับ เพราะเรารู้ว่ามันแก้ยาก ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น และเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องอดทนอดกลั้นกันต่อไป เพื่อความสะดวกความสบายที่หวังว่าจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
เมื่อขอบคุณแล้วก็อดนึกไปข้างหน้ามิได้ว่า ที่เราทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสในวันนี้ จะคุ้มค่าหรือไม่หนอ?
ผมหมายถึงว่ารถไฟฟ้าทั้งหลายจะช่วยทำให้การจราจรใน กทม. วันหน้าดีขึ้นจริงหรือไม่หนอ?
ขณะเดียวกัน ก็จะมีผู้คนหันมาใช้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทำให้รถไฟฟ้า มีรายได้ดี มีกำไร หรือหากจะขาดทุนก็ไม่มากนัก…หรือไม่หนอ?
ผมละกลัวจริงๆ ว่าจะเหมือนรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่เป็นรถสายชานเมือง ที่กำลังประสบความขาดทุนอยู่ขณะนี้
แรกๆ มีข่าวว่าขาดทุนวันละ 5 ล้านบาท ต่อมาสร้างจุดเชื่อมกับ สถานีบางซื่อ ทำให้การขาดทุนลดลง ไม่ทราบว่าเหลือวันละเท่าไรแล้ว
ผมลองไปขึ้นตอน 6 โมงเย็น พบว่าผู้คนแน่นมาก เบียดเสียดถึงขั้นโหนเลย เห็นแล้วก็ชื่นใจ
แต่ก็แน่นเฉพาะเช้าและเย็นเท่านั้น ช่วงสายๆ เที่ยงๆ บ่ายๆยังคงว่างโล่งโจ้ง เกือบจะตีรถเปล่าอยู่เหมือนเดิม ทำให้ผมเดาว่าคงจะยังขาดทุนอยู่ดี แต่น่าจะน้อยลงจากที่มีข่าวในตอนแรกๆ
อย่าให้รถไฟฟ้า 3-4 สายที่ต่อขยายไปชานเมืองในขณะนี้ ตกอยู่ในสภาพเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงก็แล้วกันครับ
คือ แก้ปัญหาจราจรได้บ้างก็จริง แต่ขาดทุนบักโกรก เพราะถ้าเกิดขาดทุนทุกสาย สายละ 3 ล้าน 5 ล้านบาทต่อเดือน สะสมไปเรื่อยๆ
บริษัทรถไฟฟ้าคงจะอยู่ยาก และก็จะมีผลกระทบมาถึงสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศด้วย ที่อาจจะต้องไปช่วยดูแลแก้ไขปัญหาในอนาคต
ถ้าเหตุการณ์ในอนาคตเป็นเช่นนี้ ก็คงต้องบอกว่าเป็นการลงทุน ที่ไม่คุ้มค่าเท่าไรนัก จะคุ้มก็แต่เจ้าของโครงการคอนโดฯ 2 ฟากทาง ที่จะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเท่านั้น
ขอถือโอกาสประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าไปสู่อนาคตก็แล้วกันครับ ขอให้พี่น้องชาว กทม.ตะวันออกเตรียมตัวเตรียมใจที่จะใช้บริการรถไฟฟ้า ทุกสายที่กำลังสร้างในซีกนี้กันให้มากๆ
จะได้ไม่ขาดทุนหรือไม่ก็ขาดทุนไม่มากนัก คุ้มค่าแก่เงินทุนมหาศาลที่ลงไป และคุ้มกับความทุกข์ทรมานมหาศาลเช่นกันที่เรา ต้องเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้.
“ซูม”