สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลในงาน “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 7” ภายใต้หัวข้อ “แรงบันดาลใจจากทุกคน เพื่อชุมชนที่ยั่งยืน”
โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเวทีที่ให้เหล่าศิลปินและ ผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงออกถึงแนวความคิดเกี่ยวกับความจงรักภักดี ความสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณ ความรัก ความศรัทธา และความสุขของปวงชนชาวไทย ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของ ปวงชนชาวไทย
โดยมี คุณทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ผศ.ปวิตร มหาสารินันทน์ ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และคณะผู้จัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อวันพุธที่ 20 มิถุนายน 2561 เวลา 09.00 น. ณ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ซึ่งในปีนี้ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ “ลูกหลานชาวนา” โดย คุณบุญนำ สาสุด รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “ลงแขก” โดย คุณนิลยา บรรดาศักดิ์ รับเงินรางวัล 500,000 บาท รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “ดวงจิตแห่งความพอเพียง” โดย คุณสิปปกร แก้วท่าไม้ รับเงินรางวัล 250,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัลรองชนะเลิศ 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท ประกอบด้วย คุณธีรพล สีสังข์, คุณประเทือง ก่ำพัด, คุณพฤตินันทร์ ดำนิ่ม, คุณมานนท์ สุธรรม, คุณยะโจ นลินแก้ว และรางวัลชมเชยอีก 12 รางวัล รางวัลละ 100,000 บาท
คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เกิดจากความตั้งใจอันดีของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่น ในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริง (Realistic) และศิลปะรูปลักษณ์ (Figurative Art) โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญ เพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญ ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง การดำเนินการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 และดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งนับเป็นการจัดการประกวดครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อ แรงบันดาลใจจากทุกคน เพื่อชุมชนที่ยั่งยืน เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้ แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ที่กำหนดให้ ซึ่งศิลปินที่เข้าร่วมประกวดแต่ละคน ก็ต่างสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในรูปแบบและแนวทางที่แตกต่างได้อย่างน่าประทับใจยิ่ง
โดยมีศิลปินจำนวน 150 คน ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจำนวนทั้งสิ้น 165 ชิ้น โดยมีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวน 20 ชิ้น และผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมแสดงในนิทรรศการจำนวน 37 ชิ้น รวมผลงานจัดแสดงในนิทรรศการทั้งสิ้น 57 ชิ้น บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานรางวัลตั้งแต่การประกวดครั้งแรกตราบจนปัจจุบัน และขอขอบพระคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ตลอดจนศิลปินผู้ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดทุกคน และจะมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุนให้วงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทยเจริญรุดหน้าสืบเนื่องต่อไปในอนาคต”
นายบุญนำ สาสุด ผู้ชนะรางวัลช้างเผือก ภายใต้ผลงานชื่อ “ลูกหลานชาวนา” เผยความรู้สึกว่า “รู้สึกตื่นเต้น และดีใจมากๆ ครับ ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ผลงานชิ้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากชุมชนของผม เนื่องจากในชุมชนที่อาศัยอยู่ประกอบอาชีพหลัก คือ ทำไร่ ทำนา ส่วนตัวผมเป็นคนชื่นชอบงานด้านจิตรกรรมวาดรูป และผมชอบบรรยากาศในชุมชนของผม รู้สึกได้ถึงความสามัคคีภายในชุมชน จึงวาดผลงานชิ้นนี้ออกมา ซึ่งใช้ระยะเวลา 2 เดือน เป็นภาพวาดและบรรยากาศในชุมชน เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ก็จะเป็นอีกหนึ่งความสุขของเกษตรกร ญาติพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงมาร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน ลูกหลานก็ได้ออกทุ่งเล่นสนุกสนาน ซึมซับบรรยากาศช่วยเหลือแบ่งปัน เป็นดั่งท่วงทำนองเสียงเพลงแห่งความสุขของท้องทุ่ง ที่ซึมซับผ่านจิตใจในวิถีชนบท เป็นภาพจริง ในชุมชน และผมนำมาปรุงแต่งอีกเล็กน้อย เพื่อความสวยงาม เป็นภาพวาดสีน้ำมัน โดยใช้เทคนิคการแต้มสีน้ำมัน ร่องรอยทีแปรงให้รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว และบ่งบอกถึงความสุขในชุมชนจนกลายเป็นผลงานชิ้นนี้ครับ”
นางสาวนิลยา บรรดาศักดิ์ ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศ ภายใต้ผลงานชื่อ “ลงแขก” เผยความรู้สึกว่า “รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ และเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้รับรางวัลนี้ทำให้มีกำลังใจในการทำผลงานชิ้นต่อไป สำหรับแรงบันดาลใจของผลงานนี้คือ นำเรื่องราวความประทับใจในกิจกรรมการลงแขกเกี่ยวข้าวของสังคม ชนบทอีสานของตัวเอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์วิถีสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยผ่านเทคนิคกระบวนการเย็บปักเส้นด้าย ร้อยเรียง เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ ผสานพลังความสามัคคี ก่อเกิดความสุขของการร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ภายใต้การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สามารถปรับประยุกต์วิถีชีวิตให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างกลมกลืน โดยยึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ตรัสถึง ความพอเพียงสร้างได้ก็ต่อเมื่อคนในชุมชนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เป็นประโยคที่จุดประกายความคิดให้เล็งเห็นถึงการมีส่วนร่วมจากส่วนรวม เพื่อสร้างสรรค์และสานสัมพันธ์ชุมชนไทยให้ยั่งยืนสืบต่อไป”
นายสิปปกร แก้วท่าไม้ ผู้ชนะรางวัล CEO AWARD ภายใต้ผลงานชื่อ “ดวงจิตแห่งความพอเพียง”เผยถึงแรงบันดาลใจผลงานชิ้นนี้ว่า “ เมื่อเราสามารถยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น เราก็จะค้นพบวิถีชีวิตแห่งความพอเพียง และค้นพบปรัชญาแห่งความสุข ซึ่งจะทำให้ชีวิตได้พบกับสิ่งดีงามที่แท้จริง ใช้ความพอเพียงเป็นแสงนำทางการใช้ชีวิตของชุมชน พระพุทธรูปที่ยอดดอกบัว เสมือนเป็นแสงนำทาง และตะเกียงดอกบัว เหมือนเป็นการสักการะบูชา ผ่านเทคนิคสีอะครีลิคบนลินิน ซึ่งคุณพ่อเป็นผู้สอนเทคนิคนี้ เนื่องจากเป็นอาจารย์สอนศิลปะ สำหรับผลงานชิ้นนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ส่งเข้ามาประกวดในโครงการศิลปกรรมช้างเผือก รู้สึกตื่นเต้นมากๆครับ ที่ได้รับรางวัลนี้”
ทั้งนี้ นิทรรศการ “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 7” ภายใต้หัวข้อ “แรงบันดาลใจจากทุกคน เพื่อชุมชนที่ยั่งยืน” จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่ วันนี้ – 24 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สำหรับหัวข้อการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 8 ได้กำหนด หัวข้อ “รื่นเริง เถลิงศก” สื่อความหมายถึงช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่อันรุ่งโรจน์ รื่นเริง บอกเล่าถึงบรรยากาศของความสุข ความหวัง ความปรารถนาอันดีที่ผู้คนพึงมีต่อกัน โดยไม่จำเป็นต้องยึดโยงที่รูปแบบการสร้างสรรค์ผลงานแบบใดแบบหนึ่ง แต่เปิดโอกาสให้ศิลปินทุกคนได้ใช้จินตนาการ ผสมผสานกับศักยภาพทางศิลปะแบบเหมือนจริง เพื่อถ่ายทอดความงดงามอันลึกซึ้งชวนให้ปรากฏออกมาในรูปของผลงานศิลปะ ทั้งในเชิงจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสม โดยไม่จำกัดเทคนิคและวัสดุ ทั้งนี้ จะเปิดรับผลงานในระหว่างวันที่ 1-2 มีนาคม 2562 เวลา 10.00-18.00 น.
โดยสามารถติดตามรายละเอียด ได้ทาง เฟซบุ๊ค : ศิลปกรรมช้างเผือก, HYPERLINK “http://www.thaibev.com และ” www.thaibev.com และ www.bacc.or.th