รีวิวหนัง “Love, Simon” อึดอัด อบอุ่น ซาบซึ้ง 8/10

“Love, Simon” หนังโรแมนติกดราม่าวัยรุ่นเข้าฉายมาหลายวันแล้ว แอดมินเพิ่งได้ชมเมื่อวานค่ะ เพราะทนเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ไม่ไหว ต้องยอมตีตั๋วดูคนเดียวเลยทีเดียว

“Love, Simon” มีชื่อไทยว่า “อีเมลลับฉบับไซมอน” สร้างจากนิยายขายดีติดอันดับของนักเขียน เบ็คกี้ อัลเบอร์ทัลลิ สู่การสร้างเป็นภาพยนตร์บนจอยักษ์โดยฝีมือผู้กำกับ เกร็ก เบอลานติ

ภาพยนตร์เล่าถึง ไซมอน สไปเออร์ หนุ่มน้อยวัย 17 ปี (รับบทโดย นิค โรบินสัน) ที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่เขาไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเขาได้ เพราะที่โรงเรียนนั้นไม่มีใครเป็นเกย์ ส่วนคนที่เปิดเผยตัวตนก่อนหน้าเขาก็ถูกล้อเลียน จิกกัดจนแทบสุดจะทน

จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนที่ใช้นามแฝงว่า บลู เปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ลงในเว็บไซต์ เมื่อไซมอนเห็นข้อความนั้นเขาก็ส่งอีเมลติดต่อบลู เพื่อบอกว่าเขาก็เป็นเกย์เช่นกัน จากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ค่อยๆ งอกงาม โดยเฉพาะไซมอนที่คิดว่าบลูเป็นแรงบันดาลใจของเขา และไซมอนก็หลงรักบลูโดยที่ยังไม่เคยเห็นหน้า ไซมอนพยายามตามหาบลู แต่บลูก็ไม่ยอมเผยตัวตนที่แท้จริงให้ไซมอนรู้

ต่อมามีเหตุที่ทำให้ความลับเรื่องที่ไซมอนเป็นเกย์หลุดออกไปในเว็บไซต์ ไซมอนรู้สึกเคว้งคว้างเกินบรรยาย เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป หรือควรจะบอกใครไหม ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือเพื่อนๆ และเขาก็แคร์ความรู้สึกของบลูเป็นที่สุด

ก็ต้องไปลุ้นกันว่า ไซมอนจะก้าวผ่านอุปสรรคตรงนี้ไปอย่างไร?

สำหรับคำชมของบรรดาเพื่อนๆ ของแอดมินที่เชียร์ให้ไปดูหนังเรื่องนี้นั้น มีทั้งบอกว่าเพลงเพราะ น้องพระเอกเล่นดี (นิค โรบินสัน) พ่อพระเอกหล่อสุดๆ (จอช ดูฮาเมล) ซึ่งแอดมินก็เห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ แถมยังรู้สึกว่านี่เป็นหนังแห่งการก้าวผ่านที่อบอุ่นมากๆ เพราะเรื่องราวของเพศที่สามนั้นในบางแห่งยังไม่เป็นที่ยอมรับ และบุคคลเพศที่สามจำนวนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียตัวเองหรือชีวิตไป และครอบครัวของพระเอกก็เป็นดั่งครอบครัวในฝันที่เข้าใจลูก

ใครอยากดูหนังอบอุ่นๆ ให้กำลังใจ และได้ความโรแมนติก ต้องไปดู “Love, Simon” ค่ะ

“แอดมินYathinun”