เลือกตั้งมาเลเซีย ใครคือผู้ชนะตัวจริง?

ชัยชนะอันท่วมท้นของท่านมหาธีร์ โมฮัมหมัด วัย 92 ปี ในการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย เมื่อวันพุธที่แล้ว ทำให้ผมอดที่จะนึกถึงประโยคดังกระฉ่อนโลกของท่านนายพลแม็คอาเธอร์ เมื่อหลายปีก่อนโน้นเสียมิได้

ประโยคที่ท่านไปพูดในรัฐสภาอเมริกันหลังโดนปลดจากผู้บัญชาการกองกำลังสหประชาชาติในสงครามเกาหลี เมื่อประมาณปี 1951 หรือ พ.ศ.2494 ที่ว่า “Old soldiers never die ; they just fade away” ที่มีคนแปลเป็นไทยไว้ว่า “ทหารแก่ไม่มีวันตาย พวกเขาเพียงแต่ค่อยๆเลือนหายไปเท่านั้น” นั่นแหละครับ

ที่ผมนึกถึงคำพูดประโยคนี้ของนายพลแม็คอาเธอร์ ก็เพราะชัยชนะของท่านมหาธีร์ เป็นการยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่เพียงแต่ทหารแก่ๆเท่านั้นที่ไม่มีวันตาย…นักการเมืองแก่ๆก็ไม่มีวันตายเช่นเดียวกัน

ดูเถอะท่านมหาธีร์อายุ 92 ปีแล้ว และวางมือจากการเมืองไปแล้วถึง 15 ปี เกือบ 16 ปี ยังกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ได้

จริงๆแล้ว ท่านมหาธีร์ ซึ่งยุคหนึ่งคนไทยเคยเรียกท่านว่า “มหาเด่ห์” ก็มิได้คิดจะกลับมาบริหารประเทศแต่อย่างใด เพราะเคยบริหารมายาวนานถึง 22 ปี สร้างอะไรต่อมิอะไรให้ประเทศมาเลเซียเอาไว้นับไม่ถ้วน

เผอิญว่าท่านนายกรัฐมนตรีท่านที่แล้ว นาจิบ ราซัค ท่านทำเรื่องอื้อฉาวเอาไว้มาก โดยเฉพาะกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าโอนเงินเกินกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากกองทุน “วันเอ็มดีบี” (1 MDB) ไปเข้าบัญชีตนเอง

แม้อัยการสูงสุดมาเลเซียจะมาช่วยเคลียร์ให้ว่าไม่มีความผิด แต่ก็เป็นแผลที่ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา และเป็นผลให้ท่านมหาเด่ห์ออกมาประกาศตัดขาดจากพรรค “อัมโน” อันเก่าแก่และบริหารประเทศมากว่า 60 ปี ที่ท่านเคยสังกัด ก่อนจะตัดสินใจตั้งพรรคใหม่ “เบอร์ซาตู” ลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้

โดยประกาศผนึกกำลังรวมเป็นพันธมิตรฝ่ายค้าน จับมือกับนาย อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่ถูกจำคุกอยู่ในปัจจุบัน

จากนั้นก็หาเสียงร่วมกันเดินหน้าชนอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค อย่างชนิดหมัดต่อหมัด

นอกจากจะเล่นงานในประเด็นคอร์รัปชันแล้ว ยังชูความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และค่าครองชีพสูงขึ้นมาเป็นเป้าสำคัญอีกเป้าหนึ่ง

ที่สำคัญมหาธีร์ยังประกาศอย่างชัดเจนด้วยว่า ถ้าท่านชนะท่านจะขอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 2 ปี และจะหาทางขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่นาย อันวาร์ อิบราฮิม ในทันที ซึ่งนอกจากจะช่วยให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านพ้นจากคุกแล้ว ยังจะพ้นจากโทษห้ามเล่นการเมือง 5 ปีด้วย

เพื่อปูทางให้อันวาร์ อิบราฮิม ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศสืบต่อจากเขาเมื่อครบ 2 ปีแล้ว

ดังนั้น หากจะวิเคราะห์ถึงสาเหตุของความพ่ายแพ้ของอดีตนายกฯ นาจิบ อย่างลึกๆแล้ว นอกเสียจากการที่ท่านทำร้ายตัวเอง ด้วยกรณีคอร์รัปชันกับบริหารเศรษฐกิจล้มเหลว ก็คงจะเป็นเพราะพลังผสมผสานระหว่างท่าน มหาธีร์ กับ อันวาร์ อิบราฮิม นั่นเอง

จริงๆแล้วนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักไปที่ อันวาร์ อิบราฮิม ค่อนข้างสูงมาก สืบเนื่องมาจากความเห็นใจจากประชาชนที่มีความรู้สึกว่าท่านถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองมาโดยตลอด

โดยส่วนตัวแล้วผมชอบคุณ อันวาร์ อิบราฮิม มาตั้งแต่ท่านเป็นรองนายกฯคู่บารมีของมหาธีร์เมื่อหลายปีก่อนโน้น…ก่อนที่จะโดนท่านมหาธีร์เล่นงานจนติดคุกในรอบแรก

การกลับมาของท่านมหาธีร์ครั้งนี้ ผมรู้สึกเฉยๆครับ เพราะในฐานะคนแก่คนหนึ่ง แม้จะแก่น้อยกว่าท่านมหาธีร์ แต่ผมก็ยังเห็นว่าคนแก่ควรจะพักผ่อนและค่อยๆเลือนหายไปแบบทหารแก่จะดีที่สุด

ที่ผมดีใจและพลอยตื่นเต้นไปด้วยคือการได้กลับมาอย่างสง่างามของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน อันวาร์ อิบราฮิม มากกว่า

ผมมีความรู้สึกในเชิงบวกกับท่านมานานแล้วครับ และมีความรู้สึกว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมมาโดยตลอดเช่นกัน

สึนามิทางการเมืองที่มาเลเซียครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นชัดว่าความยุติธรรมยังมีอยู่ในโลกนี้และคนทำดีย่อมได้รับผลดีในที่สุด แม้จะมีอุปสรรคขวากหนามเพียงไรก็ตาม

ในความเห็นของผม ผู้ชนะตัวจริงในการเลือกตั้งมาเลเซียครั้งนี้ก็คือ คุณอันวาร์ อิบราฮิม นี่แหละครับ.

“ซูม”