“พระราชวังเดิม” (พระราชวังกรุงธนบุรี) เป็นพระราชวังหลวงในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2310 ภายหลังจากที่ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย เพื่อใช้เป็นที่ประทับและว่าราชการ
ต่อมาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเป็นโรงเรียนนายเรือ และหลังจากที่โรงเรียนนายเรือย้ายไปที่สัตหีบ กองบัญชาการทหารเรือก็ได้ย้ายเข้ามาจวบจนปัจจุบัน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณแม่ทราบข่าวจากเพื่อนว่าพระราชวังเดิมได้เปิดให้เข้าชมเป็นกรณีพิเศษ ระหว่างวันที่ 7 ถึง 11 เมษายน พ.ศ. 2561 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี (โดยไม่ต้องทำหนังสือขออนุญาต) เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองกรุงธนบุรีครบรอบ 250 ปี
เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า โดยปกติพระราชวังเดิมจะไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมง่ายๆ แต่ก็รองรับประชาชนคนไทยที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ โดยจะต้องทำหนังสือมาขอถึงกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นไม่อนุญาตเลยค่ะ
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท สามารถเข้าชมได้ช่วงเวลา 9.00 ถึง 15.30 น.
พระราชวังเดิมอยู่ติดกับวัดอรุณราชวราราม มีประตูทางเดินเชื่อมระหว่างวัดอรุณและพระราชวังเดิม ซึ่งปกติประตูนี้จะปิดไม่ให้สัญจรผ่านไปมา แต่เฉพาะช่วงวันที่ 7-11 เมษายนนี้ จะเปิดให้เดินผ่านไปมาได้ ทำให้สามารถเดินชมพระราชวังเดิม และเดินทะลุไปไหว้พระวัดอรุณฯ ได้อีกด้วย
การเดินทางมาที่พระราชวังเดิมขอแนะนำว่าเดินทางโดยรถสาธารณะจะสะดวกที่สุด จะมาทางบกหรือทางนำ้ก็ได้ เพราะสามารถนำรถเข้ามาจอดได้เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดานั้นไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามาจอด รถเมล์ที่ผ่านก็มีสาย 19 และ 57 หรือนั่งเรือข้ามฟาก ท่าเตียน – วัดอรุณราชวราราม และเดินเข้าประตูเชื่อมเข้ามา
พระราชวังเดิม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ ในเขตที่เคยเป็นที่ตั้งของ “ป้อมวิไชยเยนทร์” ที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตำแหน่งของพระราชวังเดิมเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ สามารถสังเกตการณ์ได้ในระยะไกล อีกทั้งยังใกล้กับเส้นทางคมนาคม และเส้นทางการเดินทัพที่สำคัญ
โบราณสถานสำคัญภายในพระราชวังเดิม อาทิ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท้องพระโรง ศาลศีรษะปลาวาฬ อาคารเก๋งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และป้อมวิไชยประสิทธิ์ เป็นต้น
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ส่วนศาลศีรษะปลาวาฬ ใช้จัดแสดงกระดูกศีรษะปลาวาฬซึ่งพบโดยบังเอิญใต้ถุนศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ท้องพระโรง สร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 2310 พร้อมกับการสร้างพระราชวังกรุงธนบุรี ประกอบด้วยพระที่นั่ง 2 องค์เชื่อมต่อกัน ทิศเหนือคือ “ท้องพระโรง” ใช้เป็นที่ออกขุนนาง พื้นที่ตรงกลางเรียกว่า “ในประธาน” ส่วนทางทิศใต้คือ “พระที่นั่งขวาง” เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์
แนะนำว่าก่อนเข้าชมท้องพระโรงแล้ว ควรจะถ่ายรูปมุมแบงค์ร้อยเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกด้วย (เป็นมุมที่พิมพ์อยู่บนแบงค์ร้อยที่ผลิตในรัชกาลที่ 9) โดยจะเป็นมุมด้านนอกของตึกท้องพระโรง อยู่ตรงข้ามอาคารเก๋งคู่หลังเล็กและอาคารเก๋งคู่หลังใหญ่
อาคารเก๋งคู่หลังเล็กและอาคารเก๋งคู่หลังใหญ่ใช้เป็นพื้นที่จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แสดงอาวุธโบราณชนิดต่างๆ สิ่งของต่างๆ หุ่นจำลอง และแผนที่ ซึ่งไม่สามารถถ่ายรูปภายในได้
อาคารเก๋งสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ชั้นบนใช้แสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนชั้นล่างแสดงนิทรรศการเงินตรา เครื่องถมทอง และเครื่องถ้วยโบราณ
บริเวณด้านนอกกำแพงจะเป็นที่ตั้งของ “ป้อมวิไชยประสิทธิ์” เดิมชื่อ “ป้อมวิไชยเยนทร์” (ถ้าเป็นแฟนละครบุพเพสันนิวาส จะเรียกว่า “ป้อมฟอลคอน”) สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง
ในช่วงวันที่ 7-11 เมษายน จึงเป็นโอกาสดีที่ “พระราชวังเดิม” เปิดให้ประชาชนเข้าชม ยังพอมีเวลาอีก 2 วัน เพื่อนๆ รีบตามไปชมกันนะคะ
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.wangdermpalace.org หรือ โทร. 02 475 4117