ขอบคุณ “นักรบชุดขาว” ทั่วไทย ส่งกำลังเสริมสู่ “สมรภูมิ” กทม.

ยังหนักหนาสาหัสต่อไปครับ สำหรับภาวะการระบาดของไวรัสมหาภัย โควิด-19 ในประเทศไทยของเรา โดยเฉพาะวันที่เขียนต้นฉบับบ่ายๆวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม ยอดติดเชื้อใหม่ปาเข้าไปถึง 5,485 ราย ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมพุ่งไปที่ 159,792 ราย เป็นอันดับที่ 82 ของโลก

ส่วนการเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ลดลงมาอยู่ที่ 19 ราย ถือว่าต่ำสุดในช่วงหลังๆ นี้ ทำให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตของเราไปอยู่ที่ 1,031 ราย เกิน 1 พันมาตั้งแต่วันอาทิตย์แล้วละครับ

เห็นตัวเลขแล้วอย่างน้อยก็ใจชื้นขึ้น เพราะที่ห่วงมากๆ ก็คือ จำนวนผู้เสียชีวิตนี่แหละ…ภาวนาขอให้ลดลงไปเรื่อยๆ อีกนะครับ

ในส่วนของยอดผู้ติดเชื้อใหม่นั้น แม้จะน่าวิตกเพราะจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังเบาใจว่า ถ้าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มคนสาว หรือคนในวัยทำงานที่มีสุขภาพแข็งแรง…เจ้าเชื้อโรคร้ายก็จะไม่ทำอันตรายมากนัก

นำไปรักษาหรือเก็บตัวตามโรงพยาบาลสนามสักพักหนึ่งก็ปล่อยตัว กลับบ้านได้

เพียงแต่จะทำให้แพทย์พยาบาลทำงานหนักขึ้นเท่านั้นเอง…เพราะจะต้องสร้างโรงพยาบาลสนามขึ้นมารองรับจำนวนมากในเขตพื้นที่ที่มีการระบาดสูง ดังเช่น ใน กทม. และปริมณฑล เป็นต้น

ในประเด็นนี้แหละครับที่ผมตั้งใจจะหยิบมาเขียนถึงเพื่อเป็นการขอบคุณ และแสดงความชื่นชมบรรดาบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศ ที่ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ระดมให้มาช่วยรบในสมรภูมิกรุงเทพมหานครและใกล้เคียงตามโรงพยาบาลสนามต่างๆ

ผมเข้าใจว่าทางกระทรวงคงพิจารณาจากจังหวัดที่ค่อนข้างปลอดภัยแล้ว หรือสถานการณ์ไม่ตึงมือมากนัก สามารถจะแบ่งกำลังมาช่วยได้

ท่านจึงขอแรงให้นักรบเสื้อขาวจากจังหวัดนั้นๆ จัดกำลังกันมา 10 คนบ้าง 20 คนบ้าง เดินทางมาช่วยรบเป็นระยะๆ…ล่าสุดมักจะไปที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี

ทางจังหวัดโดยท่านผู้ว่าฯ บ้าง หรือท่านสาธารณสุขจังหวัด หรือนายแพทย์ใหญ่ต่างๆ บ้าง ก็จะจัดพิธีเลี้ยงส่งมอบดอกไม้ให้กำลังใจคล้ายสมัยก่อนเวลาเราจะส่งทหารไทยไปช่วยรบที่เกาหลีหรือเวียดนามก็จะมีการไปคล้องพวงมาลัย หรือนิมนต์พระไปประพรมน้ำมนต์

ในประมวลภาพเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 หน้า 20 ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ระยะหลังๆ จะลงภาพการเลี้ยงส่งการมอบกำลังใจแก่ผู้ที่จะไปช่วยรบใน กทม. บ่อยครั้ง ผมเห็นภาพหรืออ่านคำบรรยายใต้ภาพแล้วก็เกิดความตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวฮือฮาเกี่ยวกับพยาบาลสาวจากจังหวัดขอนแก่น ที่มาช่วยรบที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม โพสต์ลงเฟซบุ๊กเล่าว่า บรรยากาศในการทำงานสนุกมาก เธอได้พบเพื่อนร่วมงานจากทุกภาคของประเทศ ที่สนามรบแห่งนี้

พยาบาลภาคใต้พูดด้วยสำเนียงใต้ พยาบาลเชียงรายพูดด้วยสำเนียงเหนือ ในขณะที่เธอพูดด้วยสำเนียงอีสาน และอาจารย์หมอท่านหนึ่งพูดสำเนียงภาคกลาง…ส่วนคนไข้ก็พูดทั้งไทย เมียนมา เขมร และลาว

ผมอ่านที่เพื่อนๆ แชร์มาก็อดยิ้มด้วยความสุขเสียมิได้ นึกถึงภาพราชอาณาจักรไทยที่แบ่งแยกมิได้ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้…ผู้คนไม่ว่าจังหวัดไหนล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน เกิดศึกเสือเหนือใต้ที่ไหนก็ไปช่วยกันต่อสู้

ซึ่งนอกจากจะช่วยคนไทยแล้ว แม้แต่คนต่างชาติที่มาทำมาหากินในบ้านเรา…เราก็ดูแลพวกเขาด้วยในยามเจ็บไข้ได้ป่วย

พยาบาลท่านนี้ก็คือ คุณ เสาวภา ไชยวิชา น่ะครับ ผมขออนุญาตเอ่ยนามไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งด้วยความขอบคุณอย่างยิ่ง

ขอบคุณนะครับคุณเสาวภา…ขอบคุณนะครับ “นักรบเสื้อขาว” ทุกๆ ท่านที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เพื่อช่วยป้องกัน “กรุงรัตนโกสินทร์” ราชธานีไทยมิให้เพลี่ยงพล้ำแก่อริราชศัตรู โควิด-19 ไปมากกว่านี้… ผมยังเชื่อเสมอว่า การร่วมมือร่วมใจของคนไทยในครั้งนี้จะนำเราไปสู่ชัยชนะอย่างแน่นอนครับ.

“ซูม”

ข่าว, หมอ, พยาบาล, โควิด 19, ยอดผู้ติดเชื้อ, โรงพยาบาลสนาม, วัคซีน, ฉีด, ซูมซอกแซก