7 มกราคม : ผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมหาศาล บุกรุกอาคารรัฐสภา ทำให้การประชุมคองเกรสเพื่อรับรองชัยชนะการเลือกตั้งของนายไบเดน ต้องถูกระงับ
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า มีการปะทะกันด้วยอาวุธที่ประตูทางเข้าสภาผู้แทนราษฎร มีการใช้แก๊สน้ำตา มีการชักปืนออกมาในอาคาร และมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้กำลังบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทำให้การประชุมเพื่อนับคะแนนคณะผู้เลือกตั้งต้องหยุดลงเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ และกองกำลังรักษามาตุภูมิ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ แล้ว
ด้านรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ขอให้กลุ่มที่เขาเรียกว่า ผู้ก่อจลาจล ออกจากอาคารรัฐสภาในทันที และว่า ความรุนแรงและการทำลายล้างที่เกิดขึ้น ต้องหยุดในทันที ขณะที่นาง เคย์ลี แมคเอนานี โฆษกของทรัมป์ ระบุว่า รัฐบาลสั่งเคลื่อนกำลังทหาร กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ส่วนนายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 18:00น. ถึง 6:00น. แล้ว
ขณะที่สื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ได้แก่ ทวิตเตอร์ สั่งปิดบัญชีทวิตเตอร์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 12 ชั่วโมง หลังพบว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้โพสต์คลิปวีดีโอสั้นที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่สงบดังกล่าว ซึ่งทวิตเตอร์เปิดเผยว่า สาเหตุจากความไม่สงบที่รุนแรง เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคน ต้องการกดดันรัฐสภาสหรัฐ ให้เปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีต่อว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ด้านยูทูป ดำเนินการลบคลิปวีดีโอสั้น โดยให้เหตุผลว่า เนื้อหาในคลิปดังกล่าวละเมิดนโยบายการกระจายข้อมูลที่บิดเบือน และข้อมูลผิด เพื่อจะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020
ส่วนเฟสบุ๊กเปิดเผยว่า คลิปวีดีโอนี้ เป็นการนำไปสู่การสร้างมากกว่าการลดลงของความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการฉุกเฉินที่เหมาะสมของเฟสบุ๊ก
