คอบอลทั่วโลกเฮลั่น “3 ลีก” รีสตาร์ต “มิ.ย.”

ณ วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2563 ขณะที่ “จ่าแฉ่ง” นั่งเขียนต้นฉบับวันนี้มีข่าวดีสำหรับพวกเราคอกีฬาโดยเฉพาะคอฟุตบอลทั้งหลายเกิดขึ้นหลายๆ ข่าวเลยละครับ

เริ่มจากที่อังกฤษ สำนักข่าว บีบีซี พาดหัวใหญ่แบบ “เบรกกิ้ง นิวส์” หรือข่าวด่วนออกมาว่า ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จะกลับมาเตะใหม่หรือ “รีสตาร์ต” ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ รวม 2 คู่ ระหว่าง แอสตัน วิลลา กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คู่หนึ่ง และ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อีกคู่หนึ่ง

2 คู่นี้ถือเป็นคู่ตกค้างที่เลื่อนเตะเอาไว้ จึงให้มาเจอกันเสียก่อน ถือเป็นคู่ประเดิมสนามของการกลับสู่การแข่งขันอีกครั้งของฟุตบอลอังกฤษ

จากนั้นก็เข้าสู่โปรแกรมการเตะสุดสัปดาห์ 19-21 มิถุนายน และจะเตะไปเรื่อยๆ จนครบ
92 แมตช์ ที่เหลือภายในวันที่ 25 กรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม ทางพรีเมียร์ลีกยังจะต้องเสนอโปรแกรมการแข่งขันตลอดจนวิธีการแข่ง ซึ่งจะต้องรักษากฎกติกา Social Distancing อย่างเคร่งครัด รวมทั้งการย้ำถึงการเตะแบบไม่มีคนดู…ไปให้รัฐบาลอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง

ซึ่งเป็นเรื่องของรายละเอียดในข้อปฏิบัติ เพราะการฟาดแข้งจริงๆน่าจะเกิดขึ้นได้ตามกำหนดเวลาใหม่ข้างต้น

เพราะมาถึงจุดนี้สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรดีขึ้นอย่างมาก แม้จะยังมีผู้ติดเชื้อใหม่ประมาณ 2,000 ราย และเสียชีวิตเกือบ 400 ราย ในวันศุกร์ที่เขียนต้นฉบับ แต่ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะ และทางรัฐบาลอังกฤษก็ได้ประกาศคลายล็อกเพิ่มเติมอีกหลายๆอย่างตั้งแต่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป

นอกจากข่าวดีของบอลอังกฤษแล้ว วันเดียวกันนี้ก็มีข่าวดีด่วนจี๋เช่นกันจาก อิตาลี เมื่อรัฐมนตรีกีฬา คุณ วินเซนโซ สปาดาโฟรา ออกมาแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ฟุตบอลกัลโชซีรีเอจะกลับมาเตะได้ตั้งแต่ 20 มิถุนายน เป็นต้นไป

ส่วนรายละเอียดใครจะเตะกับใคร ลีกคงจะแถลงในภายหลัง

สำหรับ ลาลีกา สเปน นั้นออกข่าวมา หลายวันแล้วว่ารัฐบาลให้ลาลีกาเริ่มเตะได้ตั้งแต่ 8 มิถุนายน และทางลาลีกาจะให้คู่ เรอัล เบติส กับ เซบีญา เตะเป็นคู่แรกวันที่ 11 มิถุนายน

ก็เป็นอันว่าความหวังที่พวกเราแฟนบอลจะได้ดูฟุตบอลลีกดังของยุโรปครบทุกลีก (ยกเว้นฝรั่งเศสที่ตัดจบไปก่อน) ใกล้ความจริงมาทุกขณะ ดูตามวันที่ที่เป็นข่าว ก็จะเริ่มตั้งแต่ 11 มิถุนายน ที่สเปน, 17 มิถุนายน ที่อังกฤษ และ 20 มิถุนายน ที่อิตาลี อีกแป๊บเดียวเท่านั้นเอง

ส่วนสัปดาห์นี้เราก็ดูฟุตบอลเยอรมนีเป็นออเดิร์ฟกันต่อไป มีแข่งตั้งแต่ตี 1 คืนวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ระหว่าง ไฟร์บวร์ก กับ เลเวอร์คูเซน

วันเสาร์ที่ 30 พ.ค. มีถึง 5 คู่ ถ่ายทอดสดทาง PPTV ช่อง 36 ตอน 2 ทุ่มครึ่ง 1 คู่ ระหว่าง ชาลเก้ กับ เบรเมน ส่วนคู่อื่นๆในเวลาเดียวกันถ่ายทอดสดทาง ทรูวิชั่นส์ ช่อง ฟ็อกซ์ สปอร์ต ต่างๆ

คู่เอก บาเยิร์น มิวนิก ทีมหมายเลข 1 จะลงเตะกับหมายเลข 16 ดุสเซลดอร์ฟ ตอน 5 ทุ่มครึ่งวันเสาร์ ถ่ายทอดโดยทรูวิชั่นส์แน่นอนอยู่แล้ว

วันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. ก็ยังมีอีก 2 คู่ครับ…

คู่เอกจะมาดึกหน่อย ระหว่าง พาเดอร์บอร์น (บ๊วย) กับหมายเลข 2 ดอร์ทมุนด์ เวลา 23.00 น.

เสียดายที่นัด 5 ดาวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ดอร์ทมุนด์ ไปแพ้ บาเยิร์น 0-1 ทำให้จากตาม 4 แต้ม กลายเป็นตาม 7 แต้ม

โอกาสที่ “เสือเหลือง” จะไล่บี้กดดัน บาเยิร์น แทบจะหมดไปทันที เพราะการแพ้นัดที่แล้วเท่ากับยกแชมป์ให้ บาเยิร์น ไปเรียบร้อย

เอาเถอะ…ถึงจะหมดสนุกไปเยอะ เพราะทีมแชมป์น่าจะแบเบอร์แล้ว แต่การลุ้นอันดับต่างๆ

ก็ยังมีความหมาย และที่สำคัญ ถือเป็นการดูแบบรับประทานออเดิร์ฟบริหารเหงือกบริหารฟัน
ไปพลางๆ ก่อนอย่างที่ว่า

เพื่อเตรียมตัวไว้รับประทานอาหารหลัก มื้อหนักๆ อร่อยๆ จากอีก 3 ลีกยักษ์ที่จะตามมาในเดือนมิถุนายน ว่างั้นเถอะครับ.

“จ่าแฉ่ง”