ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนประจำของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐคงจะทราบแล้วว่า เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมานี้เอง มีการเสวนาใหญ่ที่จัดโดยไทยรัฐ กรุ๊ป ณ ที่ห้องประชุมชั้น 9 อาคาร 9 ที่ตั้งของกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนี่แหละครับ
เมื่อวานนี้ผมเขียนถึง “วาระงาน” ของนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ คุณเศรษฐา ทวีสิน ที่แน่นเอี้ยดตลอด 12 วันแรกหลังสิ้นสุดการประชุมเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาล ได้เป็นรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้
ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนรัฐบาล “พรรคร่วม” ที่มีเพื่อไทยเป็นแกนกลางแล้วนะครับ สำหรับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอันเป็นเงื่อนไขสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ที่เราใช้เป็นหลักในการบริหารประเทศอยู่ในปัจจุบันนี้
ผมมีภารกิจบางอย่างที่จะต้องทำในช่วงเช้า ทำให้พลาดโอกาสดูชมการถ่ายทอดสดวันแถลงนโยบายของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ในช่วงแรกๆ ของวันแรกไปอย่างน่าเสียดาย
ผมหลบไปเขียนเรื่องเบิกบานสำราญใจชวนเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ และรับประทานโน่นรับประทานนี่เสีย 2 วันช่วงเสาร์ อาทิตย์ ตามนโยบายดั้งเดิมของไทยรัฐที่ประสงค์จะให้ท่านผู้อ่านได้อ่านเรื่องเบาๆ และสนุกสนานในระหว่างวันหยุดสุดสัปดาห์
ภาพคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับช่อดอกไม้แสดงความยินดีจากนักธุรกิจระดับยักษ์ใหญ่ของประเทศหลายๆราย หน้าโต๊ะจัดเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม กลายเป็นภาพและข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในวันต่อมา
ผมติดภารกิจที่จะต้องหลบไปเขียนถึงเรื่องสนุกสนานเบิกบานใจ เที่ยวโน่นเที่ยวนี่ที่ไม่เกี่ยวกับการบ้านการเมืองเสีย 2 วันเป็นเหตุให้เขียนถึง “เหตุการณ์” ที่ผมพาดหัวคอลัมน์เอาไว้ข้างบนนี้ช้าไปบ้างเล็กน้อย
ขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับ คุณเศรษฐา ทวีสิน สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้กล่าวไปบ้างแล้วสั้นๆในการบันทึกเหตุการณ์วัน “ฤกษ์ดี” ของประเทศไทยในฉบับเมื่อวานนี้
ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงบ่ายๆ ของวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566…“วันฤกษ์ดี” ของประเทศไทยที่จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ตามการเสนอชื่อของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลลอตนี้
ผมนั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม และจะลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันพุธที่ 23 สิงหาคม ซึ่งถ้าไม่มีอะไรขัดข้องทางเทคนิควันที่ 22 สิงหาคม หรือเมื่อวานนี้จะเป็นวันที่ประเทศเพื่อนบ้านรั้วติดกันอันได้แก่ ไทย และกัมพูชาจะได้นายกรัฐมนตรีใหม่และรัฐบาลใหม่ในวันเดียวกัน