ได้เวลา “ซิมโฟนี่” ปากน้ำโพ กล่อมขวัญ “เจ้าพระยา” วันนี้

ก็โล่งใจไปทีครับสำหรับเหตุการณ์ทางการเมือง 4 ประการ ที่มาเกิดขึ้นพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมายในวันเดียวกัน เมื่ออังคารที่ 18 มิถุนายน 2567…ผ่านไปด้วยดี โดยไม่มีอะไรที่จะก่อให้เกิดความระทึกขวัญดังที่คาดกันไว้

ทั้ง 4 คดี 4 เหตุการณ์ล้วนมีทางออกตามเส้นทางของตัวบทกฎหมายและขบวนการยุติธรรมของประเทศไทย…สามารถต่อเวลาให้คนไทยได้มีโอกาสหายใจไปอีกเล็กน้อย 3 ก.ค.บ้าง 10 ก.ค.บ้าง
ส่วนจะมีอะไรวุ่นวายอีกหรือไม่ ไปลุ้นต่อวันข้างหน้าก็แล้วกันครับ

เอาละ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปด้วยดีโดยไม่มีอะไรว้าวุ่น ผมก็ขออนุญาตเขียนถึง “ความสุข” ที่ต้นน้ำเจ้าพระยา อ.เมือง จังหวัดนครสวรรค์ ที่ท่านอาจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข จะนำวง ไทยซิมโฟนี่ออเคสตรา ควบคุมวงโดย พันเอก ดร.ประทีป สุพรรณโรจน์ ขึ้นสู่เวทีแสดงในเย็นย่ำค่ำวันนี้ (20 มิถุนายน) ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป

ผมคงไม่สามารถเดินทางไปร่วมชมได้ เพราะติดภารกิจสำคัญที่ คนแก่มักจะติดอยู่เสมอคือการนัดพบหมอในเช้าวันรุ่งขึ้น

จึงใคร่ขอถือโอกาสใช้คอลัมน์นี้เขียนขอบคุณท่านอาจารย์สุกรี และคณะ ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านที่กรุณาไปเปิดงานให้ เช่น ท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ผมเคยเขียนไว้แล้วอีกครั้งหนึ่ง

ผมในฐานะแฟนคลับของวงซิมโฟนี่ออเคสตราวงนี้ ติดตามดูชมทางยูทูบมาตลอด ต้องขอขอบคุณที่ท่านอาจารย์ ดร.สุกรี นำเพลงไทยเก่าๆ ทั้งเพลงสากล เพลงลูกทุ่ง เพลงไทยเดิม มาบรรเลงได้อย่างไพเราะ ฟังมาตั้งแต่เพลง “ลาวกระทบไม้” “แคนลำโขง” “ล่องแม่ปิง” รวมไปถึง “จำปาเมืองลาว” ฯลฯ เพลงเอกของ สปป.ลาว

เมื่อท่านจะยกวงมาแสดงที่จังหวัดนครสวรรค์บ้านเกิดผม พร้อมด้วยเพลงที่เคยฮิตระดับจังหวัดในอดีต อย่างเพลง “เมืองแมนแดนสวรรค์” และ “พบรักที่ปากนํ้าโพ”…ผมจึงถือโอกาสที่จะเขียนขอบคุณท่านไว้อย่างเป็นทางการ ณ ที่นี้อีกครั้ง

ต้องยอมรับความจริงอยู่อย่างหนึ่งที่พูดกันว่า “คนแก่” หรือ “สว.” มักยึดติดอยู่กับอดีตและชอบมองไปข้างหลังนั้นเป็นเรื่องจริง

เพราะผมและคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่เกิดหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 นับว่าเป็นคนไทยที่โชคดี ประเทศไทยของเรามีแต่ความสุข ความสงบ ความร่มเย็น และค่อยๆ เจริญเติบโตมาทีละน้อยๆ

ไม่ต้องเจอสงครามกลางเมือง ไม่ถูกแบ่งแยกเป็นไทยใต้ ไทยเหนือ มีอะไรร้ายๆ มาแผ้วพานบ้างก็แพ้บุญญาธิการพระสยามเทวาธิราช และพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยไปสิ้น

ผมเองเดินทางจากอำเภอบรรพตพิสัย อำเภอเล็กๆ ของนครสวรรค์เข้ามาเรียนหนังสือในปากนํ้าโพ หรือตัวอำเภอเมืองนครสวรรค์จนจบมัธยม 6 ผมจำได้ว่ามีความสุขมากๆ ที่ปากนํ้าโพ

ได้เห็นได้สัมผัสกับความเจริญสุดๆ ของปากนํ้าโพจาก พ.ศ.2495-2500 รวมทั้งได้มีโอกาสไปตีล่อโก้วในงานแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ปากนํ้าโพมาด้วยหลายๆ ปี

รู้สึกภูมิใจเสมอที่เกิดมาเป็นชาวนครสวรรค์ เมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านทุกข์ผ่านสุขมามาก จาก “เมืองหลัก” มาเป็น “เมืองผ่าน” ซึ่งเราก็ภูมิใจที่จะเป็นเมือง ผ่าน เพราะด้วยวิถีการคมนาคมขนส่งที่เปลี่ยนไปเช่นปัจจุบันคงยากแล้วที่นครสวรรค์จะกลับมาเป็น “เมืองหลัก” เช่นเดิม

แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีวันที่จังหวัดอื่นใดในประเทศไทยจะมาแย่งเราไปได้ก็คือ การเป็นจุดเริ่มต้นของ แม่นํ้าเจ้าพระยา สายเลือดหลักของประเทศไทย ในบริเวณพาสานที่จะใช้เป็นเวทีบรรเลงวันนี้

แน่นอนเวที “พาสาน” ของเราเทียบกับเวที “ไอคอนสยาม” ที่อยู่ปลายนํ้านั้นต่างกันลิบลับ แต่ถ้าไม่มี “พาสาน” ไม่มีต้นนํ้าเจ้าพระยาก็จะไม่มี ไอคอนสยาม ไม่มี โรงแรมโอเรียนเต็ล ไม่มี พระปรางค์ วัดอรุณฯ ที่คนทั้งโลกอยากมาถ่ายรูปด้วยสักครั้งในชีวิต…คิดเสียอย่างนี้ก็แล้วกัน

การแสดงวันนี้เริ่มตั้งแต่ 16.00 น. มีการประชันวงดนตรีเยาวชนชิงถ้วยพระราชทาน อุ่นเครื่องก่อน…ส่วนการขึ้นเวทีของวงไทยซิมโฟนี่ออเคสตรา จะเริ่ม 18.20 น. ไปจนถึง 2 ทุ่มโดยประมาณ ฝากพี่น้องชาวปากน้ำโพไว้ด้วยนะครับ.

“ซูม”

ซิมโฟนี่} ปากน้ำโพ, เจ้าพระยา, พาสาน, วงไทยซิมโฟนี่ออเคสตรา, นครสวรรค์, ไอคอนสยาม, แม่น้ำ, บรรพตพิสัย, ดร.สุกรี เจริญสุข, ข่าว, ข่าววันนี้, ข่าวล่าสุด, ซูมซอกแซก