เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นับเป็นวันแห่งความทรงจำของคนไทย “ชาตินิยม” ที่ชอบดูกีฬาอย่างผมอีกวันหนึ่ง หลังจากอดตาหลับขับตานอนลุ้นเชียร์ “นักกีฬาไทย” และ “ทีมกีฬาต่างชาติ” แต่คนไทยเป็นเจ้าของอยู่จนดึกดื่นข้ามคืนมาจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

ปรากฏว่า “ผิดหวัง” ไปหนึ่ง… แต่ก็ “สมหวัง” อย่างมากมาหนึ่ง หักกลบลบกันแล้ว “สมหวัง” มากกว่า “ผิดหวัง” เยอะ…เห็นควรที่จะนำมาเล่าต่อในวันนี้

เผื่อจะทำให้คนไทย “ชาตินิยม” อื่นๆ ที่รักเมืองไทยชูชาติไทย…ที่กำลังรู้สึกไม่เป็นสุขเท่าไรนักกับภาวะการขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้…พอจะมีความสุขและความหวังกันขึ้นมาบ้าง

ประเด็นแรกเป็นเรื่องของความ “ผิดหวัง” ได้แก่ การเชียร์ทีมฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ของอังกฤษ แต่เจ้าของเป็นคนไทย โดยภาวนาขอให้จิ้งจอกสยามชนะ และทีม เอฟเวอร์ตัน ที่เบียดกันอยู่ว่าใครจะตกชั้นจงเป็นฝ่ายแพ้พ่ายและตกชั้นไปเถิด ทีมของคนไทยเราจะได้อยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ไปอีก 1 ปี

ปรากฏว่าเชียร์สำเร็จแค่ครึ่งเดียวคือ เลสเตอร์เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ในการแข่งขันแมตช์สุดท้าย แต่ทีมคู่เบียดอย่างเอฟเวอร์ตันไม่ยักแพ้หรือเสมอซึ่งจะทำให้ตกชั้น…ปรากฏว่าเขากลับ “ชนะ” จึงได้คะแนนแซงจิ้งจอกสยาม และกลายเป็นว่า “จิ้งจอก” ของเรานั่นแหละต้องเป็นฝ่ายตกชั้นไปอย่างน่าเสียดาย

ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าที่ทีมของ คิง เพาเวอร์ บริษัทปลอดภาษียักษ์ใหญ่ของไทยกลับคืนสู่สามัญคือสู่ลีก แชมเปียนชิป ไปอีกครั้งนั้นเป็นเรื่องของวงจรกีฬาโดยแท้

การขึ้นที่สูงหรือการตกชั้นลงไปข้างล่าง ถือเป็นอนิจจัง และเป็นธรรมดาของการแข่งขันกีฬาว่างั้นเถอะ

ขอให้ฮึดสู้ต่อไป อย่าได้ท้อถอย…เชื่อว่าปีหน้าฟ้าใหม่ จิ้งจอกสยาม น่าจะได้กลับคืนพรีเมียร์ลีกอีกครั้งถ้ายังไม่ถอดใจ

มาถึงประเด็นที่ 2 ซึ่งเป็นประเด็นแห่งความสมหวังและความสุขสุดๆ จากชัยชนะของ นักกอล์ฟ “สาวไทย” เราอีกแล้ว

ครั้งนี้เป็นฝีมือของสาวน้อย วัย 22 ปี ปาจรีย์ อนันต์นฤการ นักกอล์ฟอันดับ 97 ของโลกในปัจจุบัน (เมื่อ 2-3 ปีก่อนสูงกว่านี้) ที่สามารถคว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพหญิงของสหรัฐฯ หรือ LPGA ที่ถือกันว่าเป็นรายการใหญ่ที่สุดของโลกฝ่ายหญิงมาครองได้สำเร็จ

ได้แก่ รายการ “Bank of Hope LPGA Match-Play” ที่เมืองลาสเวกัส เมืองหลวงแห่งการพนันโลก โดยมีโรงแรมดัง MGM ที่คนไทยรู้จักอย่างดียิ่ง เป็นสปอร์เซอร์นั่นเอง

การแข่งขันแบบ Match-Play คือการแข่งแบบพบกันตัวต่อตัว 18 หลุม ใครชนะก็จะได้เข้ารอบ ใครแพ้ก็โดนน็อกตกรอบทันที

เขาเชิญมือชั้นนำของโลกไป 64 คน แบ่งออกเป็น 16 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน 3 วันแรกแข่งแบบพบกันหมดในกลุ่มซะก่อน แล้วคัดเลือกเอาแชมป์กลุ่มเพียงคนเดียว เพื่อไปเข้ารอบ 16 คนจับคู่น็อกกัน

16 คน เหลือ 8 คน เหลือ 4 คน เหลือ 2 คน แล้วก็ชิงแชมป์เหมือนการแข่งขันฟุตบอลรอบสุดท้าย ที่เริ่มจาก 16 ทีม อย่างไรอย่างนั้น

สาวไทยเราไปแข่ง 3 คน ได้แก่ พรอนงค์ เพชรลํ้า, ปาจรีย์ อนันต์นฤการ และ จารวี บุญจันทร์ ปรากฏว่ามี “ปาจรีย์” ผ่านเข้ารอบ 16 คน เพียงคนเดียว

ตอนชิงแชมป์กลุ่มก็ต้องเพลย์ออฟเอาชนะนักกอล์ฟสาวจากออสเตรเลียมาได้อย่างหวุดหวิด แบบเจียนไปเจียนอยู่

แต่จากรอบ 16 คนเป็นต้นมาเธอน็อกเรียบ ในที่สุดก็มาชิงกับ อายากะ ฟูรูเอะ นักกอล์ฟสาววัยเดียวกันจากญี่ปุ่น

และเธอก็น็อก อายากะ ได้อย่างสุดมันในนัดชิงเช้าวันจันทร์…คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองสำเร็จ พร้อมเงินรางวัล 225,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 7.8 ล้านบาท

การเป็นแชมป์ LPGA ไม่ว่ารายการไหนหรือแข่งประเภทไหนล้วนเป็นเรื่องยากเหลือล้ำ เมื่อ “น้องเมียว” ปาจรีย์ ทำได้สำเร็จเช่นนี้ และเป็นผลให้ ธงชาติไทย โบกพลิ้วอีกครั้งอย่างนี้จะไม่ให้ “มนุษยชาตินิยม” อย่างผมดีใจอย่างออกนอกหน้าได้อย่างไร

ขอขอบคุณแทนคนไทยที่น้องๆ นักกีฬาทั้งหลายช่วยทำให้หัวใจคนไทยพองโตด้วยความภาคภูมิใจมาโดยตลอด

บอกตรงๆ ว่าลุ้นน้องๆ นักกีฬาไทยเนี่ยมีความสุขกว่าลุ้นตั้งรัฐบาลไทยเยอะเลยครับ.

“ซูม”