“วันกลับบ้าน” 2566 คึกคัก “ทั่วไทย” วันนี้

วันนี้ (12 เมษายน) เป็น “วันสุกดิบ” ก่อนเทศกาลสงกรานต์และเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนจะถึงช่วงเวลาหยุดยาว ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนเป็นต้นไป

ถอยหลังกลับไปสัก 20 ปีก่อน ช่วงค่ำๆของวันนี้จะโกลาหลอลหม่านและเกิดภาวะรถติดขัดมากแถวๆถนนพลโยธิน ย่านสะพานควาย มาจนถึงห้าแยกลาดพร้าว รวมทั้งถนนวิภาวดีรังสิต หน้าโรงพิมพ์ไทยรัฐ

ในยุคที่สถานีขนส่งสายเหนือและสายอีสานยังตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า ตลาดหมอชิต นั้น หลังโรงพิมพ์ไทยรัฐ และหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี จะติดขัดถึงขนาดรถตระเวนข่าวทั้งของไทยรัฐและช่อง 7 สี เข้ามาส่งข่าวส่งภาพกันแทบไม่ได้เลย

ต่อมาแม้จะย้ายไปอยู่ที่พื้นที่ของการรถไฟที่เรียกว่า “หมอชิต 2” ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่มากนัก

เพราะถึงอย่างไรเส้นทางที่จะเข้าสู่ “หมอชิต 2” ก็ต้องผ่านบริเวณนี้ ต้องมาทางถนนวิภาวดีมาทางห้าแยกลาดพร้าว มาทางถนนพหลโยธินอยู่ดี

เพิ่งจะมาซาไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 จนเป็นเหตุให้จังหวัดต่างๆ งดจัดงานสงกรานต์ และขณะเดียวกันธุรกิจต่างๆ ใน กทม. โดยเฉพาะธุรกิจด้านท่องเที่ยว และโรงงานบางประเภทต้องปิดตัวลงไป ทำให้ผู้คนตกงานกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดจำนวนมาก

การเดินทางกลับบ้านโดยอาศัยรถสาธารณะในช่วงสงกรานต์ จึงซบเซาลง ทำให้เส้นทางไปสู่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ติดขัดน้อยลงไปมาก

แต่สำหรับปีนี้ทุกอย่างกลับมาคึกคักเกือบจะเหมือนเดิมแล้ว เมื่อเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ทุกๆ จังหวัดก็หันมาจัดงานสงกรานต์แบบเต็มแม็ก…ทำให้คาดการณ์กันว่า การเดินทางไปต่างจังหวัดทั้งจากกลุ่มประชาชนที่มาทำงาน เพื่อกลับไปเยี่ยมบ้าน และกลุ่มที่จะไปท่องเที่ยวงานสงกรานต์ต่างๆ จะคึกคักหนาแน่นอาจไม่มากเท่ายุคก่อน แต่น่าจะมากกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วแน่นอน

แม้พี่น้องประชาชนส่วนหนึ่งจะเดินทางล่วงหน้ากลับบ้านไปแล้วพอสมควร จนถนนสู่เหนือสู่อีสานเริ่มติดขัดแล้วอย่างที่เราได้ยินข่าวแต่ที่ยังตกค้างเพราะต้องทำงานถึงวันนี้ก็คงจะมากอยู่พอสมควร

จึงเป็นไปได้ที่การจราจรที่จะไปสู่ “หมอชิต 2” จะกลับมาติดขัดอีกครั้ง

หากเป็นเช่นนั้นจริง ผมก็คงต้องขอร้องให้ท่านที่ใช้รถใช้ถนนที่มีความจำเป็นจะต้องผ่านบริเวณนี้ในค่ำวันนี้โปรดทำใจล่วงหน้า หากจะต้องเจอปัญหารถติดขัดอย่างหนักดังกล่าว

ทำใจด้วยการเปลี่ยนความทุกข์จากรถติดให้เป็นความสุขว่าที่รถติดก็เพราะเศรษฐกิจเริ่มดี พี่น้องต่างจังหวัดเริ่มมาได้งานทำใน กทม. และบัดนี้กำลังจะกลับไปเยี่ยมบ้าน ไปพักผ่อนที่บ้าน ไปเติมพลังหัวใจกับพ่อ แม่ พี่ น้อง ลูกเมีย และญาติมิตร ที่อยู่ทางบ้านให้กล้าแกร่งพร้อมจะกลับมาทำงานต่อ

ที่สำคัญรถราอาจจะติดขัดไม่เฉพาะบริเวณใกล้ๆ “หมอชิต 2” เท่านั้น แต่อาจจะติดยาวเหยียดไปตลอดถนนทุกสายที่เป็นเส้นทางไปสู่อีสาน สู่เหนือ ใช้เวลาเดินทางตลอดดึกดื่นค่อนคืนเหมือนปีก่อนๆ

ก็ขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานทั้งหลายทำใจในทำนองเดียวกัน

ผมขอขอบคุณทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรจิตอาสาต่างๆ ที่ยังคงตั้งศูนย์บัญชาการ “7 วันอันตราย 2566” เพื่อควบคุมดูแลสถานการณ์และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางทั่วประเทศ

บ้างก็ออกมาเตือนให้ระมัดระวังเรื่อง “เมาไม่ขับ” และอันตรายจากการดื่มสุราแล้วฝืนขับรถ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุต่างๆ

ผมขอร่วมเตือนด้วยอีกแรงนะครับ เพื่อให้การเดินทางครั้งใหญ่ของคนไทยในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ไปสู่ทุกภาคของไทย จงเป็นไปอย่างราบรื่น ปราศจากอุบัติภัยใดๆ

ขอให้ “7 วัน” ที่มีการเอามาต่อสร้อยว่า “อันตราย” อีกครั้งในปีนี้ จะกลายเป็น “7 วันแห่งความเบิกบานใจ” ได้อยู่กับพ่อแม่พี่น้องญาติมิตรและครอบครัวอย่างมีความสุข รวมทั้งได้ออกเที่ยวกันอย่างมีความสุข สำหรับท่านที่ตั้งใจจะไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ

จะมากกว่า 7 วัน เป็น 8 วัน 9 วัน หรือกี่วันก็ได้ครับ ขอให้มีความสุขและ “ปลอดภัยไร้อันตรายใดๆ” กลับมาก็แล้วกัน.

“ซูม”