เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้รับหนังสือเล่มหนึ่งชื่อเรื่อง “มาเหนือเมฆ” บนแผ่นปกเป็นภาพ “บิ๊กตู่” ยืนยิ้มชูนิ้วมือเป็นเครื่องหมาย “ไอเลิฟยู” ยังไม่ต้องเปิดดูก็เดาได้ถูกว่าต้องเป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติชีวิตของ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่ๆ

ครั้นเมื่อเปิดดูเนื้อในก็ยิ่งชัดเจนใหญ่ นอกจากจะมีประวัติของท่านสั้นๆ แล้ว ยังมีผลงานของท่านย้อนไปตั้งแต่ยุครับราชการทหารจนกระทั่งมาเป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี แนบมาด้วยอีกหลายบทเลยทีเดียว

พร้อมด้วยข้อคิดความเห็นสั้นๆ ของ ทิวา สาระจูฑะ, รุ่งเรือง ปรีชากุล, รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร, นิติพงษ์ ห่อนาค และ พ.สิทธิสถิตย์ โดยมี คำรณ ปราโมช ณ อยุธยา เป็นบรรณาธิการ

ใครสนใจใคร่เป็นเจ้าของหนังสือ “มาเหนือเมฆ” โปรดติดตาม ถามหาได้ตามร้านหนังสือนะครับ ผมเข้าใจว่าคงวางจำหน่ายแล้วขณะนี้

สำหรับประเด็นที่ผมจะหยิบยกมาแสดงความคิดความเห็นต่อในวันนี้ก็คือ…ผมเห็นด้วยว่าในช่วง 8 ปีเศษ ที่ “บิ๊กตู่” อยู่ในตำแหน่งนั้น ท่านมีผลงานเยอะจริงตามที่หนังสือเล่มนี้แนะนำไว้

มีอยู่บทหนึ่งเขาตั้งชื่อบทว่า “แม่นํ้าแห่งผลงาน” มีการนำโครงการโดยย่อในยุคที่ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาลมาลงไว้ถึง 27 โครงการ

เช่น “วิสัยทัศน์ 4.0 สู่ความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน”, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพื่อความเจริญอย่างเท่าเทียม, โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน, EEC ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย, เครือข่ายรถไฟฟ้าทั่วกรุง, มหาวิกฤติโควิด และ ฯลฯ

ซึ่งในข้อเท็จจริงก็คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นผลงานของ ครม.บิ๊กตู่

หลายเรื่องทำไปแล้ว หลายเรื่องกำลังทำอยู่ บางเรื่องยังไม่ได้ลงมือจริงจัง เพราะเจอปัญหาโควิด-19 จึงต้องเลื่อนไปก่อน

ผมเองโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยในบางโครงการและเขียนหลายครั้งว่า ไม่ควรสร้าง เช่น “โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน” ซึ่งผมไม่เชื่อว่าจะเกิดผลอเนกอนันต์ดังที่ตั้งความหวังไว้

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนรวมผมเห็นด้วยกับอีกหลายๆ โครงการ และสนับสนุนว่าถ้าจะเดินหน้าไป 4.0 จริงๆ ก็ต้องทำโครงการเหล่านี้

หากเรามองย้อนหลังกลับไปถึงรัฐบาลทหารที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาอย่างสูงยิ่งในอดีตคือ รัฐบาล “ป๋าเปรม” เราจะพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของป๋าเปรมก็คือ “ลมใต้ปีก” อันแข็งแกร่งนั่นเอง

โดยเฉพาะลมใต้ปีกภาคราชการ ไม่ว่าจะเป็น สภาพัฒน์, กระทรวงการคลัง, สำนักงบประมาณ, บีโอไอ ฯลฯ แข็งแกร่งมาก

มาในยุคพลเอกประยุทธ์ ผมนั่งสังเกตอยู่ตรงนี้ พบว่า “ลมใต้ปีก” ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาของท่านก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกันภาคราชการ ไม่ว่า สภาพัฒน์, กระทรวงการคลัง สำนักงบ ประมาณ…อาจจะหย่อนกว่ายุคโน้นหน่อย แต่ก็ถือว่าไปไหว

ภาคการเมืองนี่ซีเยี่ยมมาก ตั้งแต่ชุดแรกๆ มาเลยทีเดียว

มีทั้ง “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล คุณสมหมาย ภาษี ในช่วงแรกเริ่ม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, คุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ และทีม 4 กุมาร สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, อุตตม สาวนายน, ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ (เจ้าตำรับ 4.0) และ “กุมารน้อย” ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล

ย้อนกลับไปดูรายชื่อ “ลมใต้ปีก” เหล่านี้แล้วก็ไม่สงสัยเลยว่า เหตุใดผลงานต่างๆ จึงเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้

ก็ทำให้ผมนึกถึงหลักเกณฑ์ของ สำนักงาน ก.พ. เวลาเขาประเมินตำแหน่งทางวิชาการข้าราชการให้สูงขึ้น เขาจะยอมให้ข้าราชการนั้นๆ เอาผลงานที่ทำร่วมกับคนอื่นๆ หลายๆ คนมาประเมินได้ แต่ต้องระบุว่าใครทำกี่เปอร์เซ็นต์ โดยมีคำรับรองจากผู้ร่วมงาน

ฉะนั้น ก็ฝากเป็นข้อคิดไว้ว่า แม้ผลงานของพลเอกประยุทธ์ ท่านจะมีมากมาย แต่ก็เป็นผลงานร่วมกันกับ “ลมใต้ปีก” หลายยุคหลายสมัยดังรายชื่อที่กล่าวไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่กับท่านเสียแล้ว และบางท่านก็ยังลงสู่สนามเลือกตั้งครั้งนี้ในพรรคคู่แข่งของท่านด้วย

น่าจะแบ่งเปอร์เซ็นต์กันไปหาเสียงคนละนิดละหน่อยนะครับ เพียงแต่บิ๊กตู่ท่านเป็น “หัวหน้า”ถ้าจะเคลมเปอร์เซ็นต์มากกว่าคนอื่นๆ บ้าง ก็คงต้องยอมให้ท่านละครับ.

“ซูม”